xs
xsm
sm
md
lg

ไม่มีมวยล้ม!! “โกงอควาเรียมหอยสังข์”พบ “ข้อมูลใหม่”ส่อทุจริต **ทฤษฎีสมคบคิด!! เปิดเหตุ “กรณ์” ขย่ม “ปตท.” ***คน ททท.เฮสนั่น!! “เสี่ยบี - พุทธิพงษ์”นั่งรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง **“อัยการ”ยันต้อง “เพิกถอน”ใบขับขี่ “เก่ง เกียร์อาร์”เท่านั้น

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว
 

**ไม่มีมวยล้ม!! “หมอธี”ไม่รีบปิดกล่อง “โกงอควาเรียมหอยสังข์”หลังพบ “ข้อมูลใหม่”ส่อทุจริตหลายประเด็น ทั้ง “จ่ายล่วงหน้า”ก่อนทำข้อตกลง หรือกรณี “รองเลขาฯ สอศ.”เซ็นแทน ทั้งที่ไม่มีอำนาจ คาดมีคนพัวพันมากกว่า “20 บิ๊กข้าราชการ”ที่คอพาดเขียงอยู่แล้ว ขอ 2 สัปดาห์ สรุป “สำนวนเชือด”ให้ “นายกฯตู่” ดีไม่ดีมี “คนติดคุก”ก่อน "อควาเรียมหอยสังข์" สร้างเสร็จด้วยซ้ำ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
ใกล้ปิดฉากมหากาพย์ .. กรณีการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในโครงการก่อสร้าง "อควาเรียมหอยสังข์" หรือชื่ออย่างเป็นทางการ "ศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา" .. เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา ในพื้นที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ต.พะวง อ.เมืองฯ จ.สงขลา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) .. หลังยืดเยื้อเริ่มสร้างมาเกือบ 10 ปี ผ่านไป 6 รัฐบาล ใช้งบประมาณไปกว่า 1.4 พันล้านบาท จากงบฯ ตั้งต้นแค่ 800 ล้านบาท แต่ก็ยัง “สร้างไม่เสร็จ”..จนมาถึงรัฐบาล คสช. หลังจากที่ “หมอธี” นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ขึ้นมาเป็นเจ้ากระทรวงศึกษาธิการ ได้ไล่ตรวจสอบทุกโครงการทุจริต .. โดยได้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบความล่าช้า และความไม่ชอบมาพากลของโครงการ "อควาเรียมหอยสังข์" กระทั่งพบว่า “โกงจริง”มีข้าราชการระดับสูงหลายคนพัวพัน .. เบื้องต้นกาหัว “บิ๊กข้าราชการ”ไว้ไม่ต่ำกว่า 20 ราย ที่มีส่วนพัวพัน จากหลายหน่วยงานทั้งในกระทรวงศึกษาฯ เอง กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง ..

ด้วยคนพัวพันมาจากหลายหน่วย จึงเตรียมขั้นตอนชง “สำนวนเชือด”ให้ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยให้เบ็ดเสร็จทีเดียว .. ในระหว่างที่ “20บิ๊กข้าราชการ”ตุ๋มๆ ต่อมๆ ลุ้นว่าหวยจะออกที่ใครบ้าง กระบวนการตรวจสอบก็ยังไม่หยุด .. เมื่อ “หมอธี”อัปเดตว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มี การุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ได้สรุปผลการตรวจสอบโดยสรุปข้อมูลทั้ง 2 ระยะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว .. ระบุชัดเจนว่ามีการ “เอื้อประโยชน์”ให้แก่ “บริษัทเอกชน”อีกทั้งยังมี “ข้อมูลใหม่”ที่ส่อไปในทางทุจริตเพิ่มเติมหลายประเด็น .. โดยเฉพาะประเด็น “การจ่ายเงินล่วงหน้า”ที่ไม่มีการทำข้อตกลงความร่วมมือรองรับ หรือกรณี “รองเลขาฯ สอศ.”เซ็นอนุมัติการดำเนินโครงการแทน “เลขาฯ สอศ.”ทั้งที่ไม่มีอำนาจ .. เมื่อพบปมทุจริตเพิ่มเติม ก็ทำให้การสรุป “สำนวนเชือด”ที่จะส่งนายกฯ ต้องล่าช้าออกไปเล็กน้อย เชื่อมโยงไปถึงใครก็จะถูกยัดใส่ “กระด้ง”ส่งไปให้ “นายกฯตู่”ร่อนทีเดียว .. แต่เห็นว่าคงไม่ช้าเกินไป ถึงขนาด “มวยล้มต้มคนดู”อย่างที่วิจารณ์กัน เมื่อ “หมอธี”คอนเฟิร์มว่า 2 สัปดาห์ก็เสร็จ .. ดูทรงแล้ว เคสนี้ “คนโกง”ไม่น่ารอดสันดอน ดีไม่ดีมี “คนติดคุก”ก่อน "อควาเรียมหอยสังข์" สร้างเสร็จด้วยซ้ำ

**ทฤษฎีสมคบคิด!! เปิดเหตุ “กรณ์” ขย่ม “ปตท.”หลังคนกันเอง “ปิยสวัสดิ์”ลงจากบัลลังก์ประธานบอร์ดหมาดๆ เจาะจงขยี้ปม ปตท. ซื้อหุ้นบริษัทผลิตไฟฟ้า GLOW ที่มี “อนุตร จาติกวณิช”น้องชายคลานตามกันมา เป็นกรรมการ-ผู้ถือหุ้น จนพออนุมานได้ว่า “บางซีกใน GLOW”ไม่เห็นด้วยกับ “ดีล ปตท.”หรือกระทั่ง “บางซีกใน ปตท.”ก็ไม่เห็นด้วยกับดีลนี้เหมือนกัน
กรณ์ จาติกวณิช
ก็แปลกใจอยู่นาน .. ว่าทำไม “เสี่ยดอน”กรณ์ จาติกวณิช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ถึงออกมา“เดินแรง”ในประเด็นการทำธุรกิจของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถึงขนาดตั้งแง่ ข้อหาร้ายแรง “ขัดรัฐธรรมนูญ”.. ทั้งๆที่ ปตท.ก็มี “คนกันเอง”อย่าง “อาจารย์ปิ”ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ สามีของ อานิก อัมระนันทน์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ค่ายเดียวกัน เป็นประธานบอร์ดอยู่แท้ๆ .. เดิมทีก็คิดไปว่าเป็น “ลูกไม้”หวังหาเสียงกับ “ภาคประชาชน”ที่เคลื่อนไหวในประเด็นการทำธุรกิจผูดขาดไม่เป็นธรรมของ “กลุ่ม ปตท.”มานานนม .. ตลอดจนมหกรรมรับน้อง “ซีอีโอป้ายแดง”ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ตลอดจน ไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานบอร์ดปตท. คนใหม่เท่านั้น .. ก็เพิ่งมาหูตาสว่างว่า เกมนี้ลึกกว่าที่คิด เมื่อเพจ “E'pa hamalao”อ่านเป็นไทยว่า “อีป้าหามาเล่า”เชื่อมโยงการเคลื่อนไหวของ“เสี่ยกรณ์”ตามท้องเรื่อง “ทำไม? กรณ์ ต้องออกโรงขย่ม ปตท. ในเวลานี้!”ในเชิง “ทฤษฎีสมคบคิด”เสียหมดจด .. “ข่าวปนคนฯ”ก็เลยขออนุญาตยกบางช่วงบางตอนจาก“อีป้า”มาเล่าต่อ จะได้ “เก็ต”ไปด้วยกันว่าอะไรเป็นอะไร ..
อนุตร จาติกวณิช  และ  ชาญศิลป์ ตรีนุชกร
แรกเริ่ม “เสี่ยกรณ์”พุ่งเป้าไปที่ 2 ธุรกิจของ ปตท.ว่า “ไม่แฟร์”ประมาณว่าเอาเปรียบเอกชนคนทำมาหากินคนอื่น หนึ่งคือ ร้านกาแฟ Cafe Amazon และสองการเข้าซื้อบริษัทผลิตไฟฟ้า GLOW .. ไปๆ มาๆ น้ำหนักเทไปที่ประเด็นหลังที่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัทลูกของ ปตท. กำลังเข้าไปช้อนหุ้น “GLOW”บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) ที่ทำโรงไฟฟ้าเป็นธุรกิจหลัก .. ร้อนถึง“บิ๊ก ปตท.”ที่ต้องเฮโล ขอนัดไปทำความเข้าใจกับ เจ้าของฉายา “หล่อโย่ง”แต่ก็ดูเหมือนไม่เคลียร์ แล้วไปยื่นร้องเรียนถึง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ่วง ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ตามนัดเหมือนเดิม .. ในข้อหาว่า ปตท.ดำเนินกิจการขัด “รัฐธรรมนูญ มาตรา 75”ใช้ความได้เปรียบ จากความเป็น “รัฐวิสาหกิจ”เอาเปรียบประชาชน แข่งขันโดยตรงกับ “เอกชนรายย่อย”พร้อมเรียกร้องให้ ปตท. ยุติการเข้าซื้อหุ้น GLOW .. “เพจอีป้าฯ”ตั้งข้อสังเกตว่า “ไทม์มิ่ง”ที่ “เสี่ยดอน”เคลื่อนไหว เป็นจังหวะเดียวกับที่ “ปิยสวัสดิ์”เพิ่งลุกจากเก้าอี้ประธานบอร์ด ปตท.หมาดๆ จึงตัดเรื่องผิดใจกับ “เจ๊อานิก”รุ่นพี่อ๊อกฟอร์ดไปได้ .. ที่สนุกกว่านั้น คงเป็นเส้นสายภายในของ GLOW ที่ไปสะดุดกับชื่อกรรมการคนหนึ่งที่ชื่อ อนุตร จาติกวณิช หรือที่ในวงการเรียกขานว่า “เสี่ยพิพ”ที่ก็ไม่ใช่ใครเป็น “น้องชายคนสุดท้อง”ของ “พี่ดอน”นั่นเอง .. อ่าน “สายสัมพันธ์”คร่าวๆ ก็น่าจะพออนุมานได้ว่า มี“บางซีกใน GLOW” ที่ไม่เห็นด้วยกับ “ดีล ปตท.”หรือหากให้น้ำหนักกับ “อ๊อกฟอร์ดคอนเนกชั่น”แล้ว ก็อาจจะเหมารวมไปว่า “บางซีกใน ปตท.”ก็ไม่เห็นด้วยกับดีลนี้เหมือนกัน .. ส่วนฉากจบจะเป็นเช่นไรก็คงอยู่ที่ “นายกฯตู่”ผ่านอำนาจ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะ “เรกูเลเตอร์” กำกับดูแลความเป็นไปด้านพลังงานในประเทศ ที่จะเป็นผู้เคาะในยกสุดท้าย

**คน ททท.เฮสนั่น!! “เสี่ยบี - พุทธิพงษ์”นั่งรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ตามรอย “เสี่ยจั้ม - สกลธี”ที่ได้ดีเป็นรองผู้ว่าฯกทม.ไปก่อนแล้ว ท่ามกลางเสียงโห่เกรียวกราว “เป่านกหวีดจนได้ดี”แต่ก็มีเสียงเฮ สนั่นแถว ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่ทำการของ “ททท.”ที่เคยมีข่าว “เสี่ยบี”จ่อเสียบประธานบอร์ด ททท. ทำเอาโล่งอกไปตามๆ กัน ที่มีหวังว่าจะได้ “มืออาชีพ”เข้ามาขับเคลื่อน “การท่องเที่ยวฯ”มากว่าเป็น“เก้าอี้ต่างตอบแทน”
วุฒิชัย ดวงรัตน์  และ  พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
เอาจนได้ .. รายของ “เสี่ยบี”พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ หนึ่งใน “สี่ยอดกุมาร”แกนนำสายฮาร์ดคอร์ กำลังหลักของ “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยทำม็อบ กปปส. .. ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวร่ำๆ ว่าเสร็จ “พลังดูดประชารัฐ”ยกแก๊ง เตรียมมีตำแหน่งแห่งที่มาช่วยงานรัฐบาล คสช. .. แต่รายของ “เสี่ยบี” หาที่ลงไม่ได้ ปล่อยให้รุ่นน้องอย่าง “เสี่ยจั้ม” สกลธี ภัททิยะกุล ล่วงหน้าไปก่อนในตำแหน่ง รองผู้ว่าฯกทม. .. เพิ่งจะมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เมื่อวานนี้ .. รีเทิร์นกลับเข้ามาทำงานในทำเนียบฯ อีกครั้ง หลังจากที่เคยเป็นรองโฆษกรัฐบาลมาหนนึง ในยุค“รัฐบาลอภิสิทธิ์” .. ตามข่าวว่า ครม.มอบหมายให้ “เสี่ยบี”ประสานการติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน - เรื่องร้องเรียนของประชาชน .. รวมถึงทำหน้าที่เป็น “วิป”ผู้ประสานงานกับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สนับสนุนงาน “เดอะโก้”สุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็น “ประธานวิป”อยู่ ..

พลันที่ข่าวแพร่สะพัดออกไป ก็ตามคาด มีแต่เสียงสาปส่งจาก “ขั้วตรงข้าม”ที่แดกดันว่า “เป่านกหวีดจนได้ดี”หรือมีคดีติดตัวเป็นหางว่าวก็ยังมีงานทำในรัฐบาล .. ขณะที่ฟากฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ “พี่มาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จ่าฝูงต้นสังกัดเก่า ก็ระบุว่า “รู้อยู่แล้ว”ตามคิวที่ก่อนหน้านี้ออกมาปูดว่า “พรรคทหาร”ดูดหนักหน่วง .. ถึงจุดนี้คงไม่มีใครเถียงว่า เป็นการให้ตำแหน่ง “ต่างตอบแทน”ทั้งจากผลงาน “เป่านกหวีด”ก่อนหน้านี้ ตลอดจนเปิดฟลอร์ให้ “ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.”ของ “พรรคทหาร”สร้างผลงานไปกลายๆ .. ท่ามกลางเสียงโห่เกรียวกราว การที่ “เสี่ยบี”ได้ตำแหน่งรองเลขาฯนายกฯ งวดนี้ ก็มีเสียงเฮไม่น้อย ไม่เฉพาะ “บ้านปุณณกันต์”ที่คงฉลองกันเอิกเกริก .. ยังมีเสียงเฮสนั่น แถวๆ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่ทำการของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่กำลังมีการสรรหา “คณะกรรมการ (บอร์ด) ชุดใหม่”กันอยู่ .. ด้วยก่อนที่ “เสี่ยบี”จะมาลงล็อกที่ทำเนียบฯ เคยมีชื่อคั่วเก้าอี้ “ประธานบอร์ด ททท.” ที่ กลินท์ สารสิน กำลังจะหมดวาระในเดือน ต.ค.นี้มาก่อน .. ท่ามกลางกระแส “ยี้”อย่างแรงจาก “คน ททท.”ที่ติดใจในเรื่องโปรไฟล์ ความรู้ความสามารถของ อดีต ส.ส. 2 สมัย และรองผู้ว่าฯกทม. 1 สมัย ที่น่าจะไม่เคยหยิบจับงาน“การท่องเที่ยว”มาก่อน .. จึงไม่แปลกที่ “คน ททท.” จะปลื้มปริ่ม ที่เห็น “เสี่ยบี”ไปได้ดีอยู่ที่ทำเนียบฯนู่น อันจะส่งผลให้มีการคัดผู้ที่เหมาะสมระดับ “มืออาชีพ”เข้ามาขับเคลื่อน“การท่องเที่ยวฯ”เป็นหัวจักฟันเฟือง หารายได้เข้าประเทศ .. และเหมือนเปิดทางสะดวกให้แคนดิเดต อีกรายอย่าง วุฒิชัย ดวงรัตน์ อดีตรองปลัดฯ พาณิชย์ และอดีตบอร์ด ททท. ที่มีชื่ออยู่ในโผ .. หรืออาจจะเป็นคนอื่นขึ้นมาเบียด อีกไม่นานคงได้รู้กัน แต่อย่างน้อยก็ได้ตัด “คนไม่ใช่”ออกไปคนนึง

**รอดูผลกรรมมันครับ!! “อัยการ”ยันคำพิพากษาเป็นที่สุด ต้อง “เพิกถอน”ใบขับขี่ “เก่ง เกียร์อาร์”เท่านั้น ถึงคิว “กรมการขนส่งทางบก”ริบใบขับขี่ไม่พอ ต้องไล่เบี้ย "หนังสือขอคืนของกลาง" ที่ “นายเก่ง” เอามายื่นอ้างอะไร “เจ้าหน้าที่” ถึงคืนใบขับขี่ให้ น่าจะต้องมีใครซักคน “เล่นไม่ซื่อ” เข้าข่าย “แจ้งเท็จ - ใช้เอกสารปลอม - ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ” เจอคนแบบนี้ ในสังคมแบบนี้ ต้องเอาให้ “เข็ดหลาบ” ครับ
โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง  และ  เก่ง เกียร์อาร์
โป๊ะแตก .. รายของ "เก่ง เกียร์อาร์" ภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ เจ้าของวีรกรรมก่อเหตุถอยรถกระบะ ชนรถยาริสสีแดง เสียหายยับเยิน แต่กลับโวยวายถูก "คู่กรณี" ชน จนถูกพิพากษาจากสังคม แทบไม่มีที่ยืน ... เป็นเรื่องขึ้นมาอีกที เมื่อ "ดีเจเก่ง" ได้โพสต์รูปผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะถือ "ใบขับขี่ตลอดชีพ" เอาไว้ในมือ พร้อมข้อความระบุว่า "คุ้มค่ากับการรอคอย 2 ปี 8 เดือน ใครดีกับเราๆ ก็จำ...ใครเลวกับเรา...รอดูผลกรรมมันครับ" ... แล้ว “ผลกรรม” ก็มีจริงๆ เมื่อกลายเป็นประเด็นดรามา ทักท้วงไปยัง "กรมการขนส่งทางบก" ว่าทำไมถึงคืนใบขับขี่รถยนต์ ให้กับผู้ที่กระทำความผิดร้ายแรง เป็น อันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนขนาดนั้น ... โดย กมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมฯ ระบุว่า "ดีเจเก่ง" ยื่น "หนังสือขอคัดสำเนาเรื่องการคืนของกลาง" ต่อ "ศาลแขวงพระนครเหนือ" เจ้าของคดี ประกอบการขอคืน "ใบอนุญาตขับรถชนิดตลอดชีพ" แก่กรมฯ ทางกรมฯจึงคืนใบขับขี่ให้ .. อย่างที่ถามไปเมื่อวันก่อนว่า ยื่น "หนังสือขอคืนของกลาง" ที่นำมาเป็นหลักฐานนั้นน่าจะ “ผิดปกติ” .ด้วยผลพิพากษา "ชั้นต้น-อุทธรณ์" ระบุในส่วนของ “ใบขับขี่” ว่าให้ “เพิกถอน” ไว้อย่างชัดเจน .. กรณีนี้ “กรมขนส่ง" ไม่เพียง “ไม่เพิกถอน”ตามคำพิพากษาเท่านั้น ยังไปคืนใบขับขี่ให้ “ผู้ต้องหา”เสียอีก ..

เพื่อความชัดเจนมากขึ้น โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด ในฐานะที่ “อัยการ”เป็น “โจทก์”ฟ้องคดีที่ว่า ก็เลยต้องออกโรงเคลียร์คัต ข้อสงสัย .. กาง “คำพิพากษาศาล”ของ “ศาลชั้นต้น”ที่ลงโทษจำคุก 3 เดือน 15 วัน ไม่รอลงอาญา และสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ .. ขณะที่ “ศาลอุทธรณ์” เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง 3 เดือน 15 วัน และเมื่อ “จำเลย”ฎีกา “ศาลฎีกา”ให้รอการกำหนดโทษ 3 ปี คุมประพฤติ 2 ปี .. ในชั้น “อุทธรณ์ - ฎีกา”ถือว่าสำคัญ เมื่อทางอัยการระบุว่า “นายเก่ง”อุทธรณ์และฎีกาเฉพาะ “โทษจำคุก”ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์โทษ “เพิกถอนใบอนุญาต” .. เป็นอันจบข่าว ประเด็น “ใบขับขี่”ต้องยืนตาม “ศาลชั้นต้น”ที่ให้ “เพิกถอน” ซึ่ง “ศาลชั้นต้น”จะมีหนังสือแจ้งให้ “กรมการขนส่ง”ให้ดำเนินการตามคำพิพากษาอีกครั้ง .. ดูแล้วก็เหมือนเกิด “ความเข้าใจผิด”แต่หากตัดจบแค่นั้น ก็ดูจะง่ายเกินไป “กรมการขนส่ง”ต้องไล่เบี้ยด้วยว่า อะไรที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด .. เรื่องคืน ไม่คืนใบขับขี่ เรื่องเล็กน้อย เพิกถอนไปก็ทำใหม่ได้ แต่การ “เล่นไม่ซื่อ”แล้วยังนำมาสร้างประเด็นเย้ยสังคม แบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ .. หากเป็นฝ่าย “เจ้าพนักงาน”ที่ “รู้เห็นเป็นใจ”ด้วย ก็อาจเดือดร้อนเข้าข่าย “ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ”หากเป็นฝ่าย “นายเก่ง”ที่ “เล่นไม่ซื่อ”ก็อาจจะเข้าข่าย “แจ้งความเท็จ - ใช้เอกสารปลอม”อะไรก็ว่าไป .. คงต้องขอยืมวรรคทองของ “นายเก่ง”มาใช้ซักหน่อย “เจอคนแบบนี้ในสังคมแบบนี้ แย่มากครับ” ต้องเอาให้ “เข็ดหลาบ”



ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น