xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ”เปิดโรงเรียนการเมืองกางหลักสูตร"พรรคการเมืองเพื่อปฏิรูป"ต้อง“หนา”ขนาดไหนถึงตอกย้ำกับสิ่งที่โดนจับโกหก **ท่าจะเหนื่อย!“ดุสิตโพล”เผยผลสำรวจอยากได้ใครเป็นนายกฯ“ลุงตู่”ยังรั้งที่1 **ฟื้นแผนยึด ปชป.!คลายล็อกการเมืองไฟต์บังคับเลือกหัวหน้าใหม่

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด

สุเทพ เทือกสุบรรณ , พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา , สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  , อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ข่าวปนคน คนปนข่าว

**4 ปีที่ผ่านมาทำอะไรอยู่!! “สุเทพ”เปิดโรงเรียนการเมือง กางหลักสูตร "พรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศ" ต้อง “หนา”ขนาดไหน ถึงกล้าวนเวียนตอกย้ำอยู่กับสิ่งที่ตัวเองโดนจับโกหกครั้งแล้วครั้งเล่า จาก“ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”หลอกคนไทยไว้ดิบดี กลับตาลปัตร ตั้งพรรคการเมือง“เลือกตั้งก่อนปฏิรูป”เหมือนไม่รู้ตัวว่า “หมดราคา”ในสายตาคนไทยไปแล้ว

ปล่อยออกมาต่อเนื่อง .. คลิปโฆษณาชวนเชื่อของพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ล่าสุดในท้องเรื่อง “มิติพิศวง วังวนพิศดาร”ที่เนื้อหายังมุ่งสาดซัดไปที่ “นักการเมือง”เหมือนเคย .. 3 คลิปที่ผ่านไป ดูจาก “ฟีดแบ็ก”แล้วก็หนักไปทาง“แป้ก” กระทั่งในแฟนเพจ ACT Party ของตัวเอง ก็ “รีวิว”ไปในทางเดียวกันว่า “ทำคลิปออกมาด่าตัวเอง”อีกทั้งยังขัดแย้งกับปากที่พร่ำว่า “จะไม่ทำการเมืองแบบน้ำเน่า”อย่างสิ้เชิง .. จนดูเหมือนแนวรบ “โลกโซเชียล”ของพรรค รปช. ท่าจะเข็นไม่ขึ้น ในขณะที่แนวรบ “โลกแห่งความจริง”ก็ใช่ว่าจะดี .. หลัง“กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ เจ้าของพรรค เลิกหมกมุ่นอยู่กับการแก้ต่าง “คดีโรงพักร้าง”ก็เริ่มรันโปรแกรมเดินสายหาเสียงอีกครั้ง .. วันก่อนยกคณะใหญ่ “หม่อมเต่า”ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค พร้อมทีมยุทธศาสตร์ สุริยะใส กตะศิลา - สำราญ รอดเพชร - จักษ์ พันธ์ชูเพชร ไปตระเวนลงแถบภาคอีสาน ยโสธร-หนองบัวลำภู-อุดรธานี นู่น .. ตามแผน “ตกปลาในบ่อเพื่อน”ที่คาดว่า “กุนซือยะใส”วางเกมไว้ให้ เล็งพื้นที่เป้าหมายส่วนใหญ่ เจาะพื้นที่ “พันธมิตรฯเดิม”ซะมาก .. ซึ่งร้อยทั้งร้อย มีแต่ “ด่าไล่หลัง”ไม่มีใครปันใจคิดจะเลือกพรรค รปช. แม้แต่น้อย ด้วย“รู้ทัน”เล่ห์เหลี่ยม “พรรคตระบัดสัตย์” กันหมดแล้ว ..

โดยเฉพาะกับ “ละครขายฝัน”เร่ใช้คำสวย คำโต “ปฏิรูปประเทศ”ที่พร่ำพูดในทุกเวที แต่ในทางปฏิบัติ ไม่เคยหือ อือ ตลอด 4 ปีในยุค คสช.เรืองอำนาจ .. ไม่เพียงเท่านั้น ให้หลังจากลงพื้นที่อีสาน “สุเทพ”ก็นำคณะมาจัดอีเวนต์ใหญ่เปิด “โรงเรียนการเมือง”ขึ้นที่ฐานที่มั่นที่ “แปซิฟิกเพลส”สุขุมวิท .. โดยมี “อดีคตหนุ่มซินตึ๊ง”เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รับหน้าเสื่อ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน .. การเปิดโรงเรียนการเมืองของพรรคการเมือง ก็ไม่พ้นการอบรมหัวคะแนน สร้างแนวร่วม ส่วนจะขัด “กติกา-ข้อห้าม”ที่ คสช.วางไว้หรือเปล่า ก็เรื่องหนึ่ง .. แต่ที่ทำเอาหัวร่อกันท้องคัดท้องแข็งก็คงเป็นชื่อหลักสูตร "พรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศ" แถมเปิดฟลอร์ให้ “เทพเทือก”บรรยายในหัวข้อ “ปฏิรูปประเทศ”เสียอีก .. จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ต้อง“หนา”ขนาดไหน ถึงกล้าวนเวียนตอกย้ำอยู่กับสิ่งที่ตัวเองโดนจับโกหกครั้ง แล้วครั้งเล่า .. อารมณ์เหมือนคนพูดไม่จริงเป็นนิสัย จนตัวเองเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงไปแล้ว โดยเฉพาะการยกคำสวยๆ อย่าง “ปฏิรูป”มาใช้บ่อยๆ .. ทั้งที่ความเป็นจริงไม่เคยแม้แต่จะมีความพยายามทำให้เป็นจริง จากที่เคยแผดเสียง “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”หลอกคนไทยไว้ดิบดี ก็กลับตาลปัตรมา ก็กลืนน้ำลายตั้งพรรคการเมือง “เลือกตั้งก่อนปฏิรูป”ไปซะงั้น .. หากยังไม่สำเหนียกว่าตัวเอง “หมดราคา”ในสายตาคนไทยไปแล้ว ยิ่งเพ่นพ่าน วอแวกับ “วาระปฏิรูป”เท่าไร ก็เหมือนยิ่งประจานตัวเองไปเรื่อยเท่านั้น.


** แบบนี้ท่าจะเหนื่อย!! “ดุสิตโพล”ปล่อยผลสำรวจ ปชช.อยากได้ใครเป็นนายกฯ “ลุงตู่”ยังรั้งที่ 1 มี “อภิสิทธิ์ - สุดารัตน์ - ธนาธร”ตามมาห่างๆ ส่วน “ทักษิณ”โผล่ติด “ท็อปไฟว์”เฉย ดีดลูกคิดคำนวณเสียง “ติ่งลุงตู่”กับ “ขั้วตรงข้าม”แล้ว “ขุนทหาร”ท่าจะเหนื่อย แง้ม “นิด้าโพล” หัวข้อคล้ายกันเมื่อ 2 เดือนก่อน “ลุงตู่”ยังนำโด่งทิ้ง “หญิงหน่อย”เป็นช่วงตัวอยู่แท้ๆ

กลิ่นอายเลือกตั้งเข้มขึ้นทุกขณะ .. ในจังหวะที่ “ฝ่ายการเมือง”เริ่มขยับแรงขึ้น จนมีคิว “ประสานงา” ให้เห็นกันประปราย แล้วยังมี“สำนักโพล”ออกมาบิ๊วอารมณ์อีกเป็นระยะ .. ล่าสุด “สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจ "ประชาชนคิดอย่างไร ? กับการเลือกส.ส.ในปี 2562" ที่มีความน่าสนใจไม่น้อย .. โดยเฉพาะคำถามที่ว่า“ประชาชนอยากได้ใคร เป็นนายกรัฐมนตรี”ปรากฏว่า อันดับ 1 ยังเป็น “นายกฯลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯคนปัจจุบัน กับแต้ม 24.72% .. อันดับ 2 “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ 17.57% อันดับ 3 “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย 16.53% .. อันดับ 4 “เสี่ยเอก”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แห่งพรรคอนาคตใหม่ 14.63% ส่วนอันดับ 5 ฮือฮาพอสมควรเมื่อชื่อ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ หนีคดีโผล่มาติด “ท็อปไฟว์”ด้วยคะแนน 13.50% .. หากมองผิวเผินในแง่ “ตัวบุคคล” ก็ต้องบอกว่า กระแสยังเข้าทาง “ลุงตู่”สำหรับการไปขี่หลังเสือต่อ หลังการเลือกตั้ง ..

แต่ถ้ามองให้ลึก คิดในแง่“คณิตศาสตร์”ก็ต้องบอกว่า น่าเป็นห่วงไม่น้อย ทั้งเรื่องช่องว่างของ “ฮีโร่ตู่”กับ “นักเลือกตั้ง”ที่เริ่มบีบแคบขึ้นมาเรื่อย .. หรือการที่ “คะแนนภาพรวม”ของฝ่ายการเมือง “ขั้วตรงข้าม คสช.” ดูจะ “ดูเบา”ไม่ได้เหมือนกัน คำนวณเล่นๆ หากผนวกคะแนนของ “ทักษิณ - สุดารัตน์”เข้าด้วยกัน “ประยุทธ์”ก็ตกจากบัลลังก์ทันที .. ยิ่งไปหยิบคะแนนของ “เสี่ยเอก”ผู้ประกาศตัวเป็น “หัวหอกขบวนการชังท๊อปบูต” เข้าอีก ก็ยิ่งจะไปกันใหญ่ .. ย้อนกลับไปเมื่อไม่ถึง 2 เดือนก่อนนี่เอง “นิด้าโพล”สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ก็เคยสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (ครั้งที่ 3)”มาเหมือนกัน .. ผลที่ปรากฏว่า “ลุงตู่”ยังรั้งที่หนึ่ง ด้วยคะแนน 31.26% ทิ้งอันดับ 2 “หญิงหน่อย”ที่ได้ 14.96% ราวครึ่งช่วงตัว .. ขณะที่อันดับ 3 เป็น “เดอะมาร์ค”10.50% อันดับ 4 เป็น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ 7.80% ส่วน “เสี่ยเอก”เข้าป้ายอันดับ 5 ที่ 7.48% .. ที่น่าสังเกตคือใน “นิด้าโพล”ไม่ปรากฏชื่อ “ทักษิณ”ทว่าใน “ดุสิตโพล”ล่าสุดชื่อของ “นายใหญ่ดูไบ”กลับพุ่งพรวด หอบแต้ม 13.50% ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 .. ที่นำมาเทียบกันก็อยากสะท้อนว่า มีความแตกต่างกันอย่างมี “นัยสำคัญ”ของ 2 โพลเบอร์ต้นของประเทศ ที่สำรวจในหัวข้อใกล้เคียงกัน .. ไม่รู้ว่ามาจาก“คุณภาพโพล”หรือ “ความรู้สึกประชาชน”ที่เปลี่ยนไป แต่เชื่อเถอะเห็นแบบนี้แล้ว “คนถืออำนาจ”ไม่น่าจะสบายใจเท่าไร .

**ฟื้นแผนยึดประชาธิปัตย์ !! คลายล็อกการเมือง ไฟต์บังคับ “ค่ายสีฟ้า”เลือกหัวหน้าใหม่ “มาร์ค”พร้อมลงรักษาแชมป์ “จุรินทร์ - กรณ์ - อลงกรณ์” แคนดิเดตหน้าเดิมมีลุ้นเสียบ “สายกำนัน”ปล่อยชื่อ “หมอวรงค์”ร่วมชิงผู้นำพรรค สบช่องเตรียมแก้ข้อบังคับพรรคให้“สมาชิกทั่วประเทศ”เลือกหัวหน้าพรรคแทนผู้บริหารพรรค หวังยึดเป็นฐานต่อรองที่ยืนในวงศ์วาน อำนาจหลังการเลือกตั้ง

เมามันไม่แพ้ขั้วตรงข้าม .. “ค่ายสีฟ้า”พรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่วันนี้ยังมีชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค .. แต่ก็มีวาระ “เปลี่ยนหัว”คอยท่าอยู่ หากมีการคลายล็อก-ปลดล็อคกทางการเมือง .. ก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวกระหึ่มว่า อาจต้องอัญเชิญ ชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ 2 สมัย ลงจากหิ้งประธานที่ปรึกษาพรรค .. เพื่อมานำทัพแทน “ศิษย์มาร์ค”แก้ปม “ผูกปีแพ้”ในสนามเลือกตั้ง ตามกระแส “ขิงแก่” เมื่อคราว “มหาเธร์ รีเทิร์น”แต่ก็เงียบๆ กันไป .. พลันที่มีความชัดเจนว่า คสช. กำลังจะคลายล็อกการเมือง มีข่าวหลุดมาอีกว่า กำลังมี “คลื่นใต้น้ำ” เริ่มขยับ เด้งรับขึ้นมาทันที .. แถมรอบนี้แคนดิเดตไม่ได้ตีกรอบแค่ “นายหัวชวน - นายหัวมาร์ค”เสียด้วย มีชื่อ “อู๊ดด้า”จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองหัวหน้าฯ ที่ถูกวางไลน์ขึ้นนำ “ทัพแม่ธรณีบีบมวยผม”ไม่วันใดวันหนึ่งร่วมแจมด้วย .. หรือ กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค โปรไฟล์หรู ที่เคยมีชื่อชิงเก้าอี้จ่าฝูงประชาธิปัตย์ ก็มาเหมือนกัน .. กระทั่ง “เสี่ยจ้อน”อลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคย “หย่าขาด”กันไป ก็ยังออกมายอมรับว่า ตัวเองได้รับการทาบทามให้ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ .. ที่แปร่งๆคงเป็นชื่อ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก เจ้าของฉายา “มือปราบจำนำข้าว”ที่มีชื่อออกมาใน “สื่อบางค่าย”ว่าจะถูกผลักดันให้ลงชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคกับเขาด้วย ..

แม้ชื่อ “หมอวรงค์”จะทำเอา “คนการเมือง”งงงวย ด้วยชื่อเสียง-พรรษา ที่ห่างไกลกับการขึ้นนำพรรคอันดับต้นๆ ของประเทศ .. หากแต่ก็วางตัวไม่ได้เช่นกัน ทั้งจากท่าทีของ “หมอวรงค์”หลังจากมีข่าวลือได้รับเกียรติ เป็นคู่เทียบกับ “หัวหน้ามาร์ค”ก็มีการเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กช่วงไล่เลี่ยกัน .. เลือกโพสต์ชื่นชมแนวคิดให้สมาชิกพรรคทั้งประเทศ มีส่วนร่วมในการโหวตเลือกหัวหน้าพรรค ที่ถือเป็นแนวทาง “ ปฏิรูปพรรค”ครั้งสำคัญ .. เพียงเพื่อเหน็บแนมข้ามค่าย ไม่ใช่ให้ “เจ้าของพรรค”จิ้มเลือกเท่านั้น ไม่ยักจะปฏิเสธโอกาสการท้าชิงตำแหน่งจ่าฝูงแต่อย่างใด .. ตามข่าวว่าชื่อของ “หมอวรงค์” ถูกโยนออกมาจาก ถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรค อ้างว่าหวังใช้ภาพ “ผลงานปราบทุจริต”และ “คนรุ่นใหม่” ของ “หมอวรงค์” ขับเคลื่อนพรรค .. ทว่าก็มีการอ่านร่องรอยต่อไปอีกว่า “ถาวร”หรือใครกันแน่ที่โยนชื่อ “หมอวรงค์”ออกมา เพราะต้องไม่ลืมว่า “ถาวร”ยังเคยมีหมวกเป็นแกนนำ กปปส. เป็นขุนศึกข้างกาย สุเทพ เทือกสุบรรณ มาก่อน .. บวกกับพรรคประชาธิปัตย์ กำลังจะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรค จากเดิมให้ “กรรมการบริหารพรรค-อดีตส.ส.-อดีตรัฐมนตรี -ประธานสาขาพรรค”โหวตเลือก “ผู้นำพรรค” ..เป็นการให้ “สมาชิกทั่วประเทศ”เป็นผู้ลงคะแนนเลือกโดยตรง .. หมุดหมายก็เพื่อเพิ่ม “การมีส่วนร่วม”และ “ความเป็นเจ้าของพรรค”ให้สมกับ “สถาบันทางการเมือง”อันน่าภาคภูมิใจของพรรคการเมืองเก่าแก่ .. แต่ก็เป็นการเปิดให้มีการ “ล็อบบี้”กันในวงกว้าง คล้ายกับการหาเสียงเลือกตั้งกันกลายๆ อาจทำให้ “ใครบางคน”ที่ช่ำช่องการรณงค์หาเสียง จูงใจ “หัวคะแนน”ห้วงกลับมาฝันหวานกับปฏิบัติการยึด “ค่ายประชาธิปัตย์” ..ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก “กำนันเทือก”ที่แม้วันนี้จะแยกตัวไปตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) แต่ก็คงทำใจว่า โอกาสเกิดยาก .. จึงอาจจำต้องเปิดเกมอีกกระดาน ในการเข้ายึดที่มั่นเดิม ที่มีคะแนนเสียงส.ส.ที่แน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่ปักษ์ใต้ เพื่อการได้มีที่ยืนอยู่ในวงศ์วานอำนาจหลังการเเลือกตั้งก็เป็นได้ .. แต่ก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้วผู้ส่งเข้าประกวดจาก “สายกำนัน” ก็อาจจะไม่ใช่ “หมอวรงค์”หรอก .


กำลังโหลดความคิดเห็น