xs
xsm
sm
md
lg

ดีแทคฟ้อง กสทช.มติไม่ชอบด้วย กม.ให้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ หวังสิทธิคุ้มครอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดีแทคยื่นฟ้อง กสทช.ก่อนหมดสัมปทาน 9 วัน เหตุมีมติไม่ชอบด้วยกฎหมายให้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz-900 MHz ไม่เช่นนั้นอดรับสิทธิมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการ ร้องขอคุ้มครองชั่วคราวไต่สวนฉุกเฉิน

วันนี้ (6 ก.ย.) ตัวเเทนผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีเเทคเดินทางมายื่นฟ้องเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ลูกค้าดีแทคได้รับสิทธิเข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ จนกว่า กสทช.จะนำไปจัดสรรประมูลตามความเหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ จากการที่คลื่นความถี่ดีแทคกำลังจะสิ้นสุดสัมปทาน 27 ปีที่ให้บริการ และดีแทคมีหนังสือถึง กสทช. เรียกร้องให้ทบทวนมติเรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทานหลายครั้ง โดย กสทช.ยังไม่ได้มีมติใดๆ ขณะที่เหลืออีกเพียง 9 วันก่อนสิ้นสุดสัมปทาน ดีแทคจึงต้องยื่นฟ้องเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว เพื่อสิทธิประโยชน์ของลูกค้าดีแทคในการใช้งานคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ พร้อมขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน

โดยคำฟ้องระบุว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีมติในคราวประชุมครั้งที่ 13/2561 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 กำหนดให้ บ.ดีแทค ต้องเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และย่าน 900 MHz โดยอ้างว่าหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขก็จะไม่ได้รับสิทธิเข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการ และมีคำสั่ง ที่ กสทช 5009/21072.25 ลว. 31 กรกฎาคม 2561 ให้ บ.ดีแทคปฏิบัติตามมติดังกล่าว ซึ่ง บ.ดีแทคเห็นว่าเป็นมติและคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องศาล

ด้านนายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กรและพัฒนาธุรกิจ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคได้พิจารณาถึงสถานการณ์และแนวทาง กสทช.ในขณะนี้ โดยเชื่อว่ายังไม่สามารถมีข้อสรุปได้ แม้ว่า จะมีการกำหนดในประกาศของ กสทช. และตัวอย่างที่ผ่านมากับผู้ประกอบการรายอื่น ดังนั้น เพื่อให้ลูกค้าดีแทคได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมในการคุ้มครองชั่วคราว เราจึงต้องดำเนินการด้านกฎหมายเพื่อลูกค้าของเรา

นอกจากนี้ ดีแทคมีลูกค้าในระบบสัมปทานกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT จำนวน 90,000 ราย โดยมีลูกค้าดีแทคไตรเน็ต หรือดีทีเอ็น อีกเป็นจำนวนมากที่ใช้บริการข้ามโครงข่ายภายในประเทศ (Domestic Roaming) บนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ ทั่วประเทศ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบการใช้งานของลูกค้า ซึ่งถือว่าทั้ง กสทช. ดีแทค และ CAT มีหน้าที่ในการดูแลคุ้มครองผู้บริโภค ถือเป็นความรับผิดชอบในการที่จะต้องให้บริการตามประกาศ กสทช.อีกด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาดีแทค และ CAT ได้ร่วมยื่นแผนคุ้มครองลูกค้ากรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน ต่อ กสทช. เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 เพื่อปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้สัญญาให้บริการเดิม เพื่อให้ลูกค้าดีแทคที่ยังอยู่ในระบบสัมปทานเดิม ซิมไม่ดับและมั่นใจในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กสทช.ได้เคยอนุมัติการเยียวยาแก่ผู้ให้บริการรายอื่นที่เป็นคู่แข่งของดีแทค เป็นระยะเวลา 9 เดือน และ 26 เดือน แต่กรณีดีแทคกำลังจะหมดสัมปทานคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ กสทช.ได้มีเงื่อนไขในการอนุมัติการคุ้มครองถ้าดีแทคเข้าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์

“ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเงื่อนไขและสถานการณ์ที่จะปฏิเสธการคุ้มครองผู้ใช้งานมือถือ สำหรับลูกค้าดีแทคได้ใช้งานคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ แต่การนำคลื่นมาประมูลเป็นคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งไม่ใช่คลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ ในทางปฏิบัติต้องใช้เวลาประมาณ 24 เดือนเพื่อการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่จำนวนมากกว่าหมื่นแห่ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ประกอบการรายใดสนใจเข้าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่จัดขึ้นเนื่องด้วยเงื่อนไขการประมูลที่กำหนดขึ้นเป็นเรื่องที่ปฎิบัติไม่ได้” นายราจีฟกล่าว

นายราจีฟกล่าวว่า ถ้าศาลมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิการใช้งานของลูกค้าดีแทคบนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ รายได้จากการให้บริการที่เกิดขึ้นในช่วงการคุ้มครองจะถูกนำส่งให้รัฐหลังหักค่าใช้จ่าย ซึ่งทำให้รัฐไม่เสียผลประโยชน์ใดๆ แต่ถ้าทิ้งคลื่นไม่ใช้งานจะนำความเสียหายมาสู่ทั้งรัฐและผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ การคุ้มครองการใช้งานชั่วคราวจึงเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย

ดีแทคจะดำเนินการแจ้งลูกค้าในรายที่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ไม่ได้รับการคุ้มครองคลื่นความถี่จาก กสทช. โดยดีแทคกำลังเร่งขยายพื้นที่การให้บริการทั้งคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ และคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ ของทีโอทีอย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาสัญญาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


กำลังโหลดความคิดเห็น