ประชุม สนช.ผ่านกฎหมายเอกสิทธิ์และคุ้มกันองค์การระหว่างประเทศ หวังดันไทยเป็น “เจนีวาแห่งเอเชีย” ศูนย์กลางประชุมทางการทูต
วันนี้ (6 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่รัฐสภา นายกิตติ วะสีนนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงภายหลังที่ประชุมสนช.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เอกสิทธิ์และความคุ้มกันสำหรับองค์การระหว่างประเทศ และการประชุมระหว่างในประเทศไทย พ.ศ. ... ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ว่าถือเป็นร่างกฎหมายที่ใช้เวลายกร่างและปรับแก้มากกว่า 3 ปี โดยคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สนช.ได้เล็งเห็นนโยบายของรัฐบาลที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางในด้านองค์การระหว่างประเทศ และด้านอื่นๆ ดังนั้น การที่ สนช.เห็นชอบกฎหมายฉบับดังกล่าวออกมาเป็นกฎหมายกลางในการอำนวยความสะดวกเพื่อจัดตั้งสำนักงานขององค์การระหว่างประเทศ และการให้มีการประชุมระหว่างในประเทศไทย ทั้งประชุมภาครัฐ และเอกชน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นนครเจนีวา แห่งที่ 2 หรือนครเจนีวาแห่งเอเชีย ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและอ้อมแก่ประเทศในหลายด้าน โดยเฉพาะบทบาทและผลประโยชน์ในเวทีระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ยังออกมารองรับก่อนที่รัฐบาลไทยจะถึงวงรอบเป็นประธานอาเซียน รวมไปถึงรัฐสภาไทย โดยประธาน สนช.ที่จะดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ในปี 2562 พร้อมกันด้วย