xs
xsm
sm
md
lg

“แม่เลี้ยงเมืองเหนือ”แห้ว!? “เขยพงศ์”จ่อรับบท “แม่ทัพเพื่อไทย”ตามสูตร “เลือดชินวัตร - คนรุ่นใหม่” **ไร้แรงกระเพื่อม!! จัดแถว “บิ๊กทหาร”ลงตัวอย่างไม่เชื่อ **อย่าปล่อยไอ้โม่งลอยนวล!! "รมว.เกษตรฯ" รื้อใหญ่ “โครงการนมโรงเรียน”แก้ปมทุจริต-จ่ายใต้โต๊ะ

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว
 
 
**“แม่เลี้ยงเมืองเหนือ”แห้ว!? “เขยพงศ์”จ่อรับบท “แม่ทัพเพื่อไทย”ตามสูตร “เลือดชินวัตร - คนรุ่นใหม่”หลัง “พ่อตาแม้ว”ไล่ถามสมุนกลางโต๊ะจีนที่ฮ่องกง พอไปวัดไปวาได้ยัง ลูกพรรคเด้งรับ “ดีครับนาย”หวั่น “บ้านแม่เลี้ยงเมืองเหนือ”เป็นใหญ่ แล้วน้ำเลี้ยงจะตีบตัน เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา รอแค่ “แม่ยายจันทร์ส่องหล้า”ตัดริบบิ้นปล่อยตัว “ลูกเขย”ลงสนามครั้งสุดท้าย หลังเคยเบรกหัวทิ่มมาก่อน
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์
เหมือนจะยังไม่ลงตัว .. การจัดทัพทางฟาก “พรรคเพื่อไทย”ที่ช่วงหลังขยับแรงพอสมควร ถึงขนาด “นายใหญ่ดูไบ”ทักษิณ ชินวัตร ต้องควง “น้องปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หอบผ้าหอบผ่อน มาปักหลัก “เจี๊ยะเต๊ - ซดไวน์”กับ “ลิ่วล้อ”อยู่เกาะฮ่องกงร่วมสัปดาห์ .. ข่าวว่า“แกนนำ - ลูกกระจ๊อก” ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปคารวะ“นายแม้ว - นายปู”จนหัวกระไดโรงแรมไม่แห้ง .. วาระที่ถูกโยนขึ้นโต๊ะก็หนีไม่พ้นการวางยุทธศาสตร์ ต้อนรับโอกาสที่ “รัฐบาล คสช.”เตรียมจะ “คลายล็อกการเมือง”ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ .. ถึงจะยังเดินหน้าได้ไม่เต็มสูบ ถูกกั๊กไม่ให้ลงพื้นที่หาเสียง แต่ก็เริ่ม “กิจกรรมการเมือง”บางประการได้แล้ว .. โดยเฉพาะการจัดประชุมพรรค ที่ทำให้สามารถเลือก “หัวหน้าพรรค-คณะกรรมการบริหารพรรค”ชุดใหม่ แทน “ชุดรักษาการ”..ที่อยู่โยงกันมาตั้งแต่หลังรัฐประหาร และตั้งแต่ที่ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคคนเก่า เตลิดหนีคดีไปลี้ภัยอยู่เมืองนอก .. ทำเอา “ลุกสมุน”ที่หวังใจว่า อาจจะเป็น “แคนดิเดตหัวหน้าพรรค”ในใจ “นายใหญ่”ต่างกระเหี้ยนกระหือรือ โผล่ไป “เสนอตัว”กันหน้าสลอน .. แต่ท่าทาง “สมุนคนนอก”คงต้องกอดคอกัน “ซดน้ำแห้ว”ด้วยจับสัญญาณได้ว่า “นายแม้ว”ยังถือคติ “เลือดข้นกว่าน้ำ” ทุบโต๊ะเปรี้ยง “แม่ทัพคนใหม่” ยังไงก็ต้องเป็น “ชินวัตร” เท่านั้น ..
ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์  และ  สมชาย วงศ์สวัสดิ์
ถ้าเอาตามสูตรนี้ ชื่อที่โดดเด้งที่สุด ก็คงไม่พ้น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เขยชินวัตร ดีกรี อดีตนายกฯ ผู้ไม่เคยเข้าทำเนียบฯ แต่คนทั้งพรรคเกรงใจ .. แต่ข่าวก็ว่า “นายใหญ่”ที่ใช้สิทธิ์ “เจ้าของพรรค”เคาะผู้นำคนใหม่ ไม่เพียง “ล็อกสเปก”สายเลือด “ชินวัตร”ไว้เท่านั้น ยังวางสเปก “คนรุ่นใหม่” เพื่อหวัง “รีแบรนด์ดิ้ง”สร้างภาพลักษณ์ใหม่ ให้กับ “พรรคทักษิณ”ควบคู่ไปด้วย .. แน่นอนพื้นที่ “เหนือ-อีสาน”ลำพังชื่อ “พรรคทักษิณ” จะส่ง “เสาไฟฟ้า”ลงก็ไร้ปัญหา ทว่าเลือกตั้งรอบหน้า “โจทย์หิน”กว่าเดิม ที่เคย “แลนสไลด์ - ดินถล่ม”คว้าเสียงเกินครึ่ง ได้เป็นแกนนำรัฐบาลไม่เพียงพอ .. รอบนี้หากหวังสวิงขั้วอำนาจ ต้องได้อย่างน้อย 375 เสียง เป็นที่มาของคำนิยามใหม่ “อาฟวาแลนซ์” (Avalanche) หรือ “หิมะทลาย”ที่ “ทักษิณ” ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ .. ตัวเลขจะได้ตามเป้าหรือไม่ ก็อยู่ที่โจทย์สำคัญจะเจาะ “คนรุ่นใหม่ - สังคมเมือง”อย่างไร โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ..

นอกจากชื่อ “สมชาย”แล้ว ก็เลยมีการโยนชื่อ “อาจารย์เชน”ผศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ลูกชายหัวแก้วของ “สมชาย”กับ “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ออกมาหยั่งกระแส .. แม้จะพกโปรไฟล์หรู เป็นนักวิชาการระดับผู้ช่วยศาสตรจารย์ เป็นอาจารย์ ม.มหิดล แต่กระแสกลับไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร อาจเพราะเข้าอิหรอบ คำพังเพย “ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่”กระมัง .. ตัวเลือก “แม่ทัพเพื่อไทย”ก็เลยวนลูปกลับมาที่ “เขยชินวัตร”ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ คุณสามีของ “ลูกเอม” พินทองทา ชินวัตร อีกครั้ง .. ที่ “ทักษิณ”ใช้หลักสูตร “The NEXT Real”ของมหาวิทยาลัยชินวัตร สร้างตัวกองกำลังคนรุ่นใหม่ และเปิดฟลอร์ให้ “เขยพงศ์”โชว์วิชั่น ขัดเกลาฝีมือฝีปาก .. และก่อนหน้านี้ก็เคย “โยนหิน”ออกมาหน ฟีดแบ็กพอใช้ได้ แต่เจ้าตัวและภรรยา ตลอดจน “แม่ยาย”อย่าง “หญิงอ้อ”คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ มองว่า “ยังไม่ถึงเวลา”อยากให้ดูแลลูกเล็ก และขับเคลื่อนธุรกิจในฐานะ “ซีอีโอ”แห่งเอสซีแอสเสท ไปก่อน .. เห็นว่าชื่อของ “หนุ่มพงศ์”รีเทิร์นมาแรงอีกครั้ง ก็ด้วย “พ่อตาแม้ว”ไล่ถามบรรดาลิ่วล้อว่า พอไปวัดไปวาได้หรือยัง .. ตามประสา “คนอยู่เป็น”ต่างก็ “ดีครับนาย”กันราวกับเตี๊ยมกัน ด้วยมองว่า “หนุ่มพงศ์”นอกจากจะ “สายตรง - เลือดแท้”แล้ว ยังดีว่าได้ “ลูกแม่เลี้ยง”มานำทัพ ด้วยขยาดกับภาวะ “น้ำเลี้ยงตีบตัน”มาตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา .. อีกทั้งยังจะทำให้ภายในพรรค เลิกตบตีแย่งกันใหญ่ เพราะหากชื่อ “หนุ่มพงศ์”โผล่พรวดขึ้นมาจริงๆ ก็ เท่ากับว่าได้ไฟเขียวจากทั้ง “นายใหญ่ดูไบ - นายหญิงจันทร์ส่องหล้า”เป็นที่เรียบร้อย.

**ไร้แรงกระเพื่อม!! จัดแถว “บิ๊กทหาร”ลงตัวอย่างไม่เชื่อ ทั้งที่เปลี่ยนตัว ผบ.ทุกเหล่าทัพ แถมมี “ตำแหน่งหลัก”ให้เกลี่ยกันวุ่น “บิ๊กแดง”นั่ง ผบ.ทบ. “บิ๊กณัฐ”ปลัด กห. “บิ๊กลือ”ผบ.ทร. กลายเป็น “สัญญาณดี”ของฟากฝั่งของ “คนถืออำนาจ”ไร้ร่องรอย “ขบเหลี่ยม”ระหว่าง “ฝ่ายบริหาร - ขุนทหาร”ให้ “ฝ่ายตรงข้าม”หาช่องเสี้ยมให้ป่วยการ
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์  และ  พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ
พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์  และ  พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน
ลงตัวอย่างไม่เชื่อ .. หลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการจำนวน 935 นาย มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61 เป็นต้นไป โดยรายชื่อเป็นไปตามที่มีการคาดหมายแทบทั้งสิ้น .. ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กณัฐ”พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกระทรวงกลาโหม นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 20 (ตท.20) น้องเลิฟของ “ป๋าป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ คสช. ที่ได้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม .. "บิ๊กกบ" พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (ตท.18 ) เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด .. "บิ๊กลือ" พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รองผู้บัญชาการทหารเรือ (ตท.18) ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ .. “บิ๊กต่าย" พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ (ตท.18) ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ .. ขณะที่ “5 เสือกองทัพบก” ก็ลงตัว ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดหนีไม่พ้น "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ( ตท.20) ที่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ตามไลน์ที่วางมาหลายปี .. ตามมาด้วย “บิ๊กเล็ก”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก (ตท.20) ขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก “แม่ทัพตู่” พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.20) และ “แม่ทัพตี๋”พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 (ตท.18) ขึ้นมาเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. .. ส่วนตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ก็เป็น “บิ๊กเป้ง”พล.ท.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก (ตท.19) ไม่มี “ม้ามืด” มาสอดไส้ให้ยุ่งยากใจ .. ทั้งๆ ที่ปีนี้ถือเป็นการโยกย้ายทหารครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ด้วยมีการเปลี่ยนตัว “ผู้นำเหล่าทัพ”ทั้งหมด อีกทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนแม่ทัพนายกอง “ตำแหน่งหลัก”อีกเพียบ .. จากที่เคยคาดการณ์กันว่า จะมีการวิ่งกันจนฝุ่นตลบอบอวล แถมด้วยรายการ “คลื่นใต้น้ำ” ของนายทหารแถว 2-3 กลายเป็นราบรื่นอย่างเหลือเชื่อ .. ถือเป็น “สัญญาณที่ดี”ในฟากฝั่งของ “คนถืออำนาจ”ที่ไม่มีร่องรอย “ขบเหลี่ยม”ระหว่าง “ฝ่ายบริหาร - ขุนทหาร” ให้ “ฝ่ายตรงข้าม”หาช่องเสี้ยมให้ป่วยการ .. ในทางกลับกันก็เป็น “สัญญาณไม่ค่อยดี”ของ “ฝ่ายตรงข้าม”ที่หวังพลิกขั้วอำนาจ.

**อย่าปล่อยไอ้โม่งลอยนวล!! "รมว.เกษตรฯ" รื้อใหญ่ “โครงการนมโรงเรียน”แก้ปมผลประโยชน์ตามที่ ป.ป.ช.ทักมา ลั่นต่อไปนี้จะไม่ปล่อยให้ “ทุจริต-จ่ายใต้โต๊ะ”เหมือนยอมรับกลายๆ ว่าที่ผ่านมา “กิน”กันเละ จนมีดรามา “นมบูด - นมไม่ได้คุณภาพ” บ่อยๆ ทว่าในข้อเสนอปรับโครงการที่ชงกลับ ป.ป.ช.-ครม.ไม่ยักจะพูดการไล่เบี้ยทุจริตอะไรเลย เหมือนเลี้ยงเชื้อไว้ให้กลับมา “ทำมาหารับประทาน” กันได้อีก
กฤษฎา บุญราช
เห็นดีด้วย .. คิวที่ “ปลัดปุ้ย”กฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กำลังไล่สะสาง“ขบวนการหาผลประโยชน์” ใน “โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน” หรือ “นมโรงเรียน”ที่งบประมาณไม่ใช่เด็กๆ ปัจจุบันพุ่งกระฉูดไปถึง 1.4 หมื่นล้านบาท ต่อปีเลยทีเดียว .. แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโครงการดีๆ เป็นประโยชน์กับเด็กและเยาวชน ตลอดจนการกระจายรายได้สู่เกษตรกรโคนม กลับมีแต่เรื่องที่ส่อเค้าไปในทาง “ทุจริต”มาตลอด .. อันส่งผลทำให้ได้มาซึ่ง “นมบูด - นมไม่ได้คุณภาพ”ที่เป็นอันตรายต่อเด็กนักเรียน จนเป็นข่าวใหญ่โตมาหลายครั้ง หลายพื้นที่ แต่น่าแปลกที่เรื่องหายเข้ากลีบเมฆแทบทุกครั้งไป .. จนเมื่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งผลการศึกษาการบริหารจัดการ “โครงการนมโรงเรียน” ที่สรุปได้ว่า “ไม่มีประสิทธิภาพ-ไม่โปร่งใส-ไม่เป็นธรรม” .. พร้อมเน้นด้วยว่าบางพื้นที่มีลักษณะเข้าข่าย “ผลประโยชน์ทับซ้อน-ผูกขาด-ส่อทุจริต”ยิงตรงมายังกระทรวงเกษตรฯ .. เสมือนเป็น “ไฟต์บังคับ” ที่ “ปลัดปุ้ย”ลงมาลุยเอง ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ พ่วงเก้าอี้ประธานคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) โดยตำแหน่ง เมื่อปลายปีกลาย .. ล่าสุดเริ่มเห็นมรรคเห็นผล ปล่อยมาตรการปรับปรุงออกมายาวเหยียด เพื่อส่งให้ ป.ป.ช.และ ครม.พิจารณา .. ตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อเป็น "โครงการอาหาร (เสริม) สำหรับเด็กและเยาวชนไทย" พร้อมมาตรการควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ก็พอจะอนุมานได้ว่า “มาถูกทางแล้ว” ..

แต่เผอิญเห็นทาง “สำนักข่าวไทย” รายงานว่าเมื่อวันที่ 14 ส.ค.61 “ปลัดปุ้ย” ได้กล่าวถึงการขันนอต “โครงการนมโรงเรียน” ในการมอบนโยบายแก่ผู้แทนสหกรณ์ทั่วประเทศ .. วรรคตอนหนึ่งระบุว่า “..ซึ่งจากนี้ไปจะไม่ให้มีการทุจริต จ่ายเงินใต้โต๊ะ เพื่อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการรายหนึ่งรายใด แต่จะพิจารณาอย่างโปร่งใส..” ..คำพูดลักษณะนี้พอจะ “ถอดรหัส” ตีความได้ว่า เหมือน “ยอมรับ”ว่าที่ผ่านๆ มามีการ “ทุจริต-จ่ายเงินใต้โต๊ะ” จนโครงการมีปัญหา .. ย้อนกลับไปอีกนิดช่วงต้นเดือน ส.ค. “ปลัดปุ้ย”ก็เพิ่งประชุมร่วมกับ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนมโรงเรียน ภาคเรียนที่ 1/2561 .. ในการประชุม นอกจากจะกำชับให้ผู้ประกอบการดูแล ควบคุมกระบวนการผลิต-ขนส่งอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้นมดีมีคุณภาพถึงเด็กๆ .. แล้วยังขอ “ขอความร่วมมือ”กับผู้ประกอบการที่คิดจะใช้ “เงินใต้โต๊ะ”เพื่อให้ได้โควตานมโรงเรียนด้วยว่า ให้เลิกคิด แล้วยังแจก “เบอร์มือถือ”เป็นสายตรงถึง รมว.เกษตรฯ หากถูกเรียกรับผลประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องด้วย .. เพิ่มน้ำหนักว่า “ขบวนการเหลือบไร”ที่จ้องหากินกับ “โครงการนมโรงเรียน”มันยังมีอยู่จริง .. แต่เมื่อไล่แสกนข้อเสนอที่ “มิลด์บอร์ด”เตรียมชงให้ ป.ป.ช.-ครม. ไม่ยักจะมีเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตในอดีตที่ผ่านมาแต่อย่างใด .. เรื่องแบบนี้จะคิดว่า “แล้วๆกันไป”หรือ “ปล่อยโจรลอยนวล” คงไม่ถูก แม้จะมีการปรับเปลี่ยนหน่วยงานดูแลโครงการก็จริง แต่อย่าลืมว่าคนพวกนี้วนเวียนอยู่ในวงการ .. ก็ไม่ต่างจากการเปลี่ยน “เจ้ามือ” แต่ “ผู้เล่น” ยังหน้าเดิมๆ หากไม่จัดการให้สิ้นซาก วันหนึ่งก็หาช่องกลับมา “หารับประทาน” กันได้อีก.

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น