xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” ย้ำ สตช.เสนอเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนไม่ใช่วิธีจัดจ้างให้ ครม.อนุมัติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (แฟ้มภาพ)
“เทพเทือก” ไลฟ์สดแจงกรณีสร้างโรงพักต่อเนื่อง ชี้อนุ กก.ป.ป.ช.สับสน ยัน สตช.เสนอเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนไม่ได้เสนอเปลี่ยนวิธีจัดจ้างให้ ครม.อนุมัติ

วันนี้ (27 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่อาคาร ทู แปซิฟิค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงกรณีสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า ข้อกล่าวหาของคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ข้อที่ 6 กล่าวหา หาก สตช.ต้องการเปลี่ยนแปลงวิธีการก่อสร้างก็ต้องนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อน ดังเช่นที่ สตช.ได้เคยปฏิบัติมาแล้วเมื่อคราวที่ สตช.มีบันทึกลงวันที่ 14 พ.ย. 2551 ขอเปลี่ยนแปลงวิธีจัดจ้าง ตรงนี้ที่ผมได้เรียนต่อกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ว่าคณะอนุกรรมการไต่ส่วน ป.ป.ช.สับสน อ่านหนังสือทางราชการแล้วไม่เข้าใจ อ้างว่า สตช.เคยเสนอขอเปลี่ยนวิธีการจัดจ้างมาแล้ว ตามหนังสือลงวันที่ 14 พ.ย. 2551 ซึ่งไม่จริง ความจริงคือหนังสือลงวันที่ 14 พ.ย. 2551 ทาง สตช.เขาเสนอ ครม.ขอเปลี่ยนแปลงรูปแบบการลงทุนจากวิธีแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ มาเป็นวิธีการงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามปกติ เพราะว่า วิธีแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ตามที่บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ เสนอมานั้นมันแพงกว่าวิธีปกติ 4,700 กว่าล้านบาท ต้องไปดูว่าทำไมเขาถึงได้เสนออย่างนี้เพราะมันมีที่มาที่ไป ที่มาคือ ครม.สมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ มีมติ 6 พ.ย. 2550 ครม.มีมติออนุมัติ ในหลักการ ตามที่ สตช.เสนอให้ สตช.และบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ร่วมกันดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สถานีตำรวจทดแทน โดยให้ สตช.และไปจัดทำและนำรายละเอียดโครงการที่ได้ทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง สำนักงบฯ กรมธนารักษ์ และบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ รวมทั้งรูปแบบแผนการระดมทุน แผนการใช้จ่ายเงิน และภาระผูกพันของภาครัฐ บทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาเสนอ ครม.อีกครั้งหนึ่งเพราะ ครม.เห็นว่า โครงการนี้มีวงเงินสูง มีผลผูกพันรัฐบาลหน้า จึงควรพิจารณาแนวทางดำเนินโครงการให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด จึงให้ สตช.ไปทำรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วนทุกด้าน และพิจารณาทางเลือกในการดำเนินการและบริหารจัดการด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบถึงความเหมาะสม คุ้มค่าในการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถระบุข้อดี-ข้อเสียที่ชัดเจนในทุกๆ ด้าน ให้ทำรายงานมาประกอบ เพื่อ ครม.จะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการต่อไป โดยให้ชะลอการดำเนินโครงการนี้เอาไว้ก่อน

นายสุเทพกล่าวต่อว่า เมื่อ ครม.มีมติให้ สตช.ไปจัดทำรายละเอียดไปคุยกับกระทรวงการคลัง สำนักงบฯ และไปดูว่ามีวิธีการดำเนินการในทางเลือกอื่นหรือไม่ จึงเป็นที่มาของหนังสือลงวันที่ 14 พ.ย. 2551 สตช.ก็ตอบ ครม.ว่าไปตั้งคณะกรรมการเสร็จแล้วเห็นสมควรเปลี่ยนวิธีการลงทุน จากวิธีเดิมมาเป็นการตั้งงบประมาณตามปกติ ในหนังสือทั้งฉบับ ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่า สตช.ขอเปลี่ยนแปลงวิธีจัดจ้าง เพราะ ครม.ไม่ได้สั่งให้ไปพิจารณาวิธีจัดจ้างมาเสนอ จึงกราบเรียนว่าอนุกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งข้อหาต่อตนด้วยความสับสนของตัวเอง ด้วยความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงของตัวเอง และตนไม่ได้อ้างเหตุผลอื่นมาหักล้าง ตนอ้างหนังสือวันที่ 14 พ.ย. 2551 ของ สตช.ที่อนุกรรมการ ป.ป.ช.ยกมาเป็นข้อกล่าวหา


กำลังโหลดความคิดเห็น