“เจ๊แดง”ชู “ผัว” ออกศึก “บิ๊กทหาร” คึก ย่ามใจใน “อำนาจ” ระวังพลาด เกมพลิก “พัง” ทั้งกระดาน

ป้อมพระสุเมรุ

คำถามฮิต พ.ศ.นี้ “เมื่อไหร่จะได้เลือกตั้ง?” กระทั่ง “จะมีเลือกตั้งเหรอ?” ยังคงวนเวียนให้ไถ่ถามกันไปอีกนาน

ก็มีอย่างที่ไหน ขนาด “ประธานปุ๊”อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แค่แสดงความพร้อมจัดเลือกตั้ง ได้ตั้งแต่คิวแรก 24 ก.พ.62 ตาม “โรดแมป” ที่ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยลั่นวาจาไว้เองแท้ๆ

ไม่ทันไร “บิ๊กไก่อู”พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล โร่แก้ข่าวทันควันว่า เป็นแค่การกะเกณฑ์ทาง “ทฤษฎี” เท่านั้น ยันต้องดู “ปัจจัยอื่น” ประกอบด้วย สร้อยท้ายว่า ถ้ายังไม่สงบก็ไม่มีเลือกตั้ง

ทำเอา “นักการเมือง - นักเลือกตั้ง” ฝันค้าง มองหน้ากันเลิ่กลั่กว่า สรุปจะมีเลือกตั้งหรือเปล่า กระทั่งภายใน “พรรคทหาร” ก็ยังดูไม่มั่นใจเลยว่าจะได้เข้าคูหากาบัตรกันเมื่อไหร่

แต่ก็ยังมีสัญญาณดีๆ อยู่บ้าง ทั้งการประกาศอนาคตทางการเมืองของ “ลุงตู่” ที่นัดแนะกันว่าจะรู้แน่ในเดือนหน้า ก.ย.นี้ หรือคิวที่กำลังจะออกคำสั่ง “มาตรา 44” เพื่อ “คลายล็อก” กิจกรรมทางการเมืองในเร็ววัน

กระนั้นก็เถอะความเคลื่อนไหวทางการเมือง “หลังฉาก” ก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะ “ค่ายเพื่อไทย” ที่อยู่ในสภาพ “ผีหัวขาด” ต้องมีวาระสำคัญในการหา “หัวหน้าพรรค” ตลอดจน “แม่ทัพคนใหม่” ที่จะมาเป็นผู้ชูธงนำศึก ในฐานะ “แคนดิเดตนายกฯ” ด้วย

รายชื่อในตะแกรงก็ยังหน้าเดิม จาตุรนต์ ฉายแสง-พงศ์เทพ เทพกาญจนา-สมชาย วงศ์สวัสดิ์-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์-ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นอาทิ

หรือจะหน้าใหม่ใสปิ๊งอย่าง “เสี่ยพงศ์” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ บอสใหญ่เอสซีแอสเสท สามี “คุณแม่เอม” พินทองทา ชินวัตร ก็ดูจะซาๆไป ก่อนมาถึงรายล่าอย่าง “อาจารย์เชน”ผศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ลูกชายหัวแก้วของ “สมชาย” กับ “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็มีการพูดถึงกันอยู่

ปล่อยชื่อลูกชายโยนหินเช็กกระแสได้ไม่ทันไร “คุณแม่แดง” ก็ออกมาปฏิเสธ ประมาณว่า “ลูกชายอิชั้นไม่สนใจการเมือง” พร้อมส่งสัญญาณเข้ม เก้าอี้ “แม่ทัพระบอบทักษิณ” จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก “สามีสุดที่เลิฟ” สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ไม่เคยได้เข้ามาเหยียบทำเนียบรัฐบาล

น่าสนใจที่ว่าการส่งสัญญาณจับจองเก้าอี้ให้ “สมชาย” นั้นเกิดขึ้นหลังจากการแวะมาเยือนเกาะฮ่องกง ของ “พี่ษิณ” ทักษิณ ชินวัตร ที่ใครต่อใครต่างพากันไปเยี่ยมโซ้ยติ่มซำ พร้อมพูดคุยทิศทางยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย รวมไปถึงบรรดาแกนนำ-แกนตาม ที่ไปไถ่ถาม “นายใหญ่” ถึงคชัดเจนของการวางตัว “แม่ทัพ” ที่จะเข้าสู้ศึกครั้งใหม่

หนึ่งในนั้นก็มี“คุณหญิงหน่อย” ที่รู้กันดีว่าจดๆ จ้องๆ ไม่วางตา ทั้งเก้าอี้หัวหน้าพรรค หรืออย่างน้อยก็ 1 ใน 3 รายชื่อผู้เสนอเป็นนายกฯของพรรค

อ่านไม่ยากว่า ข่าวที่ปล่อยออกมาก็คงมาจาก “หลังบ้านวงศ์สวัสดิ์” เพื่อตีกัน “เจ๊ใหญ่นครบาล” ดั่งที่เคยลั่นวาจาไว้ว่า “ใครก็ได้ ไม่ใช่...หน่อย” นั่นเอง

ประมาณว่าใครจะปฏิรูป ปรับยุทธศาสตร์อะไรยังไงไม่สน โจทย์ของพรรคนี้ง่ายๆ แค่ยังไงก็ต้อง “ชินวัตร” ที่อาจหลุดมาเป็น “เขยชินวัตร” ก็ไม่น่าเกลียด

น่าสนใจในหมากกระดานนี้ของ “ทักษิณ” รวมไปถึง “เยาวภา” เพราะว่ากันว่าตลอดเวลาที่ คสช.เรืองอำนาจ มี “รีเควส” ในทางลับเพื่อขอความร่วมมือให้ “คุณแดง” หยุดความเคลื่อนไหวในทุกกรณี โดยเฉพาะวงศ์วานสายธุรกิจการเมืองที่วางรากฝังลึกไว้ เพื่อแลกกับการทำเป็นลืม “เรื่องเก่าๆ” ที่อาจจะโยงใยไปถึง “แม่เลี้ยงแดง” ได้

ดังนี้การที่โยนชื่อ “สมชายสุดเลิฟ” ออกมายืนตระหง่านเป็นแถวหน้านั้น ก็เหมือนสัญญาณ “แตกหัก” ไม่เกี๊ยะเซียะ เลิกศิโรราบกับข้อตกลง “คุณขอมา” ของฝ่ายทอปบูตหรือไม่อย่างไร

หันมาดูที่ฝ่าย “พรรคทหาร” กันบ้าง แน่นอนว่าความน่าสนใจย่อมหนีไม่พ้นการขยับของ “พลังดูด” ที่พะยี่ห้อ “สามมิตร” ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เดินสายกันอย่างเมามัน จนเพื่อนร่วมวงการต้อง โอดโอยว่าแบบนี้มันเอาเปรียบกับครับกรรมการเดิม “บิ๊กทหาร” ก็ดูท่าจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ว่ากระไร ถึงขนาดบอกว่าเขาเป็นกลุ่มการเมือง ยังไม่ใช่พรรคการเมือง จะไปทำอะไรเขาได้ แต่คงกลัวน่าเกลียดเกินไป ก็เลยถึงคิว “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รอง คสช.ที่ออกมาคอมเมนท์ปราบๆว่า ระวังล้ำเส้นนะน้อง

ทำเอาช่วงนี้กระแส “สามมิตร” ชักจะกร่อยๆไปหน่อย ผนวกกับเสียงลือเสียงเหล่าอ้างว่า “ท่อตัน-น้ำเลี้ยงไม่เดิน” จนมีข่าวว่า “อดีตรัฐมนตรี” ที่เคยประกาศตีจากต้นสังกัดเก่าอย่างไม่ใยดี ถึงขนาดฝาก “อดีตสารวัตรคนดัง” ไปขอโทษ “เจ้านายเก่า” กลางวงไวน์ที่เกาะฮ่องกง พร้อมแย็บๆถึงโอกาสให้การหวนคืนรัง อ้างว่าไปหลงกล “พลังดูด” ที่ไม่มีอยู่จริง ข่าวว่า “นายใหญ่แดนไกล” เซย์โนนิ่มๆ คล้ายเป็นการสั่งสอนให้ “ลิ่วล้อ” ที่คิดปันใจได้เห็นตัวอย่าง

แล้วท่อน้ำเลี้ยงยี่ห้อ “สามทหาร” ที่ตีบตันไม่สมราคาคุยนี้ ก็ทำเอากระทั่ง “คู่หู 2 ส.” ที่เป็นแกนนำสามมิตรก็ยังไม่แน่ใจว่าตกลง “คุณพี่ทหาร” จะเอายังไงแน่ ครั้งมาทาบทามให้มาช่วยเดินเกมปั้น “พรรคทหาร” ให้ ก็สัญญิงสัญญาดิบดีถึง “บัดเจตท์” ก้อนงาม ทั้งที่ก็ทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง โดยเฉพาะการที่ต้องนำทุกหัว “ดาวฤกษ์-ดาวเคราะห์” ที่ดูดมาได้ไปให้ “บ้านใหญ่” เคาะกะโหลก ก่อนรับ “ถุงขนม” กลับบ้านเป็นอันเสร็จพิธี

พอถึงเวลาจริง “เด็ก” ที่เข้าไป “บ้านใหญ่” ออกมาหน้าหงอยกันทุกราย ทั้ง “น้ำเลี้ยง” ที่กระเด็นมาแค่ “ค่าน้ำมัน” รวมทั้งเนื้อหาการพูดคุยก็มีเงื่อนไขซ้อนเงื่อนไขไปอีกว่า “ห้ามต่อรองทุกประการ” จนถูกเอามานินทาลับหลังถึงความตืดของ “หัวจ่ายสามทหาร”

ที่ไม่ควักเหมือนอย่างรับปากไว้ คล้ายเป็นการแสดงความมั่นอกมั่นใจของ “บิ๊กทอปบูต” ว่าไม่ต้องแคร์ “นักเลือกตั้ง” อะไรให้มาก ด้วยช่วงนี้ “พี่ทหาร” กำลังสนุกกับการเดินหน้าโกยคะแนนเอง ไม่ต้องพึ่ง “แสตนอิน”

ไมว่าจะเป็นคิวที่ “นายกฯลุงตู่” วางโปรแกรมลงพื้นที่ถี่ยิบ ท่ามกลางเสียงเชียร์ “ลุงตู่สู้ๆ” ที่ดังกระหึ่ม ระบาดมาจนถึง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่นึกคึกว่างคิว “บินเดี่ยว” ลงพื้นที่พบปะแฟนคลับบ้าง แถมเลือกประเด็นโดนใจ แก้หนี้นอกระบบ-ขจัดอิทธิพล อย่างเมื่อครั้งไปคืนโฉนดที่ดินให้ชาวบ้านที่โดนนายทุนเอาเปรียบมา 2 รอบที่ ขอนแก่น-อุดรธานี เสียงเชียร์ “ลุงป้อมสู้ๆ” ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน

ไม่เพียงเท่านั้นยังเริ่มโลเลกับแผนการที่วางไว้ว่าสรุปแล้ว “พรรคทหาร” จะไปออกที่พรรคไหน พรรคพลังประชารัฐที่คอยท่าอยู่ หรือกลุ่มสามมิตรที่พร้อมยกระดับจากกลุ่มเป็นพรรคได้ทุกวินาที กระทั่งยังมีข่าวที่สะท้อนถึง “ความไม่เป็นเนื้อเดียวกัน” ของภายใน “รัฐบาล คสช.”

เมื่อ “บิ๊กทหารบางคน” มองว่า “สามมิตร” จะแอบอิงไปทาง “ทีมเศรษฐกิจ” มากกว่า จึงเล่นเกมหลายกระดาน ส่งนักการเมืองมุ้งอื่นไปปั้นฐานเสียง-ล่าหัวนักเลือกตั้งเผื่อทางขึ้นทางลงเอาไว้ ข่าวว่าให้จับตาไปที่ “เสี่ยอี๊ด” สิทธิชัย โควสุรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย สมัยรัฐบาลสมัคร แกนนำกลุ่มวังพญานาค ที่มี พินิจ จารุสมบัติ - ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ เป็นหัวหอก

โดย “เสี่ยอี๊ด” ที่ฐานที่มั่นอยู่ที่ ตลาดเขมราฐ จ.อุบลราชธานี มีสัมพัน์อันดีกับ “บิ๊กกี่” พล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิก สนช.คนดัง ที่รู้กันดีว่าซี้กับใคร

กลายเป็นเกมที่เดินสะเปะสะปะ จนหวาดระแวงกันเองภายใน จนกลัวว่า “บิ๊กทหาร” คึกมากกว่านี้ จะพังไม่เป็นท่า ด้วยมาตบตีแย่งชิงพื้นที่กันเอง ไม่ต่างจากผลงานรัฐบาลที่หากแยกให้ชัดจะเห็นว่าที่ผ่านมา “รมต.พลเรือน” ก้มหน้าก้มตาปั้นผลงานจนเรตติ้งที่ต่ำตมเริ่มผงกหัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มักจะมีวีรกรรม “รมต.สายทหาร” มาฉุดรั้งไว้ทุกทีไป

และถ้าจะว่าไปแล้ว ความมั่นใจในพลังอำนาจแบบแบเบอร์ของ “บิ๊กทหาร” อาจกลายเป็นจุดอ่อนที่บั่นทอนกำลังกันเองภายใน กระทั่งทำให้ “ฝันหวาน” ของตนเองมีสิทธิล้มพังครืนไม่เป็นท่าในที่สุด ก็เป็นได้.