xs
xsm
sm
md
lg

เปิดวาร์ปลูกชายบิ๊ก มท.1 !! “เสี่ยอ้อ-ยุทธพงษ์ เผ่าจินดา”เจ้าของธุรกิจชื่อดัง **เจ้ามือกินรวบ!! “ก.พลังงาน”สับสนในตัวเอง จู่ๆ กลับลำ จ่อเคาะซื้อไฟฟ้าขยะชุมชน ตามที่ “มหาดไทย”รีเควส ** พี่เสกองค์ลง!! “เสก โลโซ”ไลฟ์สดด่ากราดไปทั่ว

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว


**เปิดวาร์ปลูกชายบิ๊ก มท.1 !! “เสี่ยอ้อ-ยุทธพงษ์ เผ่าจินดา”เจ้าของธุรกิจชื่อดัง ไม่กี่เดือนก่อน “คอลัมนิสต์แนวหน้า”เพิ่งเขียนถึง หลังมีคนไถ่ถามมาว่าเป็นใคร มาจากไหน ทำไมมี “ผู้กล่าวหา”ว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการประมูลของ “กระทรวงมหาดไทย” ขมวดปมตอนท้ายไว้แค่ว่า “ยังไม่มีข้อมูล” ก่อนที่ “พ่อป๊อก”มาเอ่ยถึงอีกครั้งว่า ไม่เกี่ยวข้อง “โปรเจกต์โรงไฟฟ้าขยะแสนล้าน”
ยุทธพงษ์ เผ่าจินดา
เล่นเอาต่อมเผือกทำงาน .. หลัง “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เอ่ยถึง “ลูกชาย”ว่าไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยว หรือร่วมทุนกับใคร ในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ .. ก็เลยอดไม่ได้ ขอไปสืบเสาะดูซะหน่อย เพื่อสร้างความกระจ่างว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างที่ “คุณพ่อ”ว่าไว้จริงๆ .. โดยตามประวัติ “มท.ป๊อก” มีบุตร 2 คน เป็น ชาย 1 หญิง 1 คนโตผู้ชายชื่อ “อ้อ”ยุทธพงษ์ เผ่าจินดา ส่วนคนเล็กผู้หญิง ชื่อ “ปุ๊กวิมลิน เผ่าจินดา .. ทั้งคู่ค่อนข้าง “โลว์โปรไฟล์”แต่ก็พอมีชื่อร่วมงานใน “สังคมชั้นสูง”อยู่บ้าง วันนี้คงว่าเฉพาะ “ลูกชาย”ตามที่ “เผ่าจินดาผู้พ่อ”ให้ “เบาะแส” ไว้ .. เดชะบุญไปเห็น “ธรรมกร”คอลัมนิสต์แห่ง “ค่ายแนวหน้า”เคยรวบรวมประวัติของ “ยุทธพงษ์”ไว้โดยสังเขป เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านนี่เอง .. ความว่า “มีผู้ถาม ธรรมกร ว่า รู้จักไหมว่า ยุทธพงษ์ เผ่าจินดา เป็นใคร ธรรมกร ตอบว่า ไม่รู้จักชายหนุ่มผู้นี้เป็นการส่วนตัว แต่รู้ว่า เขาคือลูกชายของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ของรัฐบาล คสช. และเท่าที่รู้เบื้องต้น คือเขาคนนี้เป็นเจ้าของบริษัท สปามนตรา เฮลธ์ แอนด์ สปา และ เจ้าของบริษัท โซลิด เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่ผลิตรายการทีวี ในกลุ่มบันเทิงเริงรมย์ ส่วนเรื่องที่มาก และลึกไปกว่านี้ ธรรมกร ไม่ทราบ เพราะเขาค่อนข้างจะ low profile อ้อ! แล้วก็รู้เพียงว่า ยุทธพงษ์ แต่งงานกับ อนัญญา เมื่อต้นปี 2556 ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขาว่ากันว่าเป็นงานแต่งงานใหญ่ แต่ทว่าเป็นข่าวน้อยมาก ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่มีผู้กล่าวหาว่าเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการประมูลของกระทรวงมหาดไทย ขอตอบ ณ ตรงนี้ว่า ไม่ทราบ และยังไม่มีข้อมูล ถ้าหากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะมาบอกกล่าวให้ทราบโดยเร็ว” ..

เพิ่มเติมอีกนิด “ยุทธพงษ์”หรือ “เสี่ยอ้อ”วันนี้อายุใกล้แตะเลขสี่ แต่งงาน มีครอบครัวเรียบร้อยโรงเรียน “พ่อบ้านใจกล้า” .. สรุปแล้วหลักๆ “เสี่ยอ้อ”ก็จับธุรกิจด้านสปา ทำมานาน 7-8 ปี เคยเปิดใจกับ “สื่อใหญ่”ถึงที่มาของธุรกิจว่า “คุณพ่อชอบนวด” .. แล้วยังมีชื่อเป็นเจ้าของบริษัทผลิตคอนเทนต์ ด้านบันเทิง มองตามเนื้อผ้าแล้ว ก็คงไม่ได้ไปมีเอี่ยวร่วมหุ้น ลงขันอะไรเกี่ยวกับ “โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ” อย่างที่คุณพ่อท่านว่าจริงๆ .. แต่ที่ “สะกิดใจ”ก็ตรงช่วงท้ายๆ ที่ “ธรรมกร”ว่าไว้ “ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่มีผู้กล่าวหาว่า เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการประมูลของกระทรวงมหาดไทย ขอตอบ ณ ตรงนี้ว่า ไม่ทราบ” ..จนพออนุมานได้ว่า เรื่องที่ระแคะระคายไปเข้าหู “พ่อป๊อก”มันกระหึ่มจนหลุดไปเข้าหู “สื่อ”มานานแล้ว

**เจ้ามือกินรวบ!! “ก.พลังงาน”สับสนในตัวเอง เคยยืนกรานไม่รับซื้อ “ไฟฟ้าขยะชุมชน”เพิ่ม อ้างมีเพียงพอตามแผน ถึงปี 2579 แถมปิดรับซื้อ “ไฟฟ้าทดแทน”ทุกประเภท อย่างน้อย 5 ปี จู่ๆ กลับลำ จ่อเคาะซื้อไฟฟ้าขยะชุมชน เพิ่มอีก 400 เมกะวัตต์ ตามที่ “มหาดไทย”รีเควส กลายเป็น “เกมกินรวบ”ของ “เจ้ามือคนใหม่” ที่ “คนแจกไพ่”ทำไพ่สารพัดรูปแบบ จน “เจ้ามือ”ป๊อกแล้ว ป๊อกอีก ไล่กิน “ผู้เล่น”ที่ทำมาหากินมาอย่างถูกต้อง อาจหมดตัวในไม่ช้า
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ  ศิริ จิระพงษ์พันธ์
ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย .. วลีอมตะนิรันดร ที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆ ว่ากันด้วยเรื่อง “เรกูเรเตอร์” คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เกิดเปลี่ยนใจ 360 องศา .. ทั้งที่มีข่าวว่า “ขัดใจขาใหญ่”ไม่ยอมเพิ่มโควตารับซื้อไฟฟ้าจาก “ขยะชุมชน”จาก 500 เมกะวัตต์ เป็น 900 เมกะวัตต์ ในแผนพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก ปี 2558-2578 (เออีดีพี 2015 ) ตามที่ “กระทรวงมหาดไทย”เสนอมา .. ก็เล่นขอเพิ่มกัน “เกือบเท่าตัว” ทำเอา “เรกูเรเตอร์”รับไม่ไหว เห็นๆ อยู่ว่า “มากเกินจำเป็น”ก็เลยยันกลับไปที่จำนวนเดิม .. ก็ด้วยการรับซื้อไฟฟ้าทางเลือกเพิ่ม ก็ เท่ากับรัฐต้องเสีย “ค่าแอดเดอร์”เพิ่มขึ้น ดีไม่ดี กระทบชิ่งต้องมาขึ้นค่าไฟฟ้า ปล้นเงินในกระเป๋าชาวบ้านไปโปะอีก .. แล้วยังขยาดไม่หายกับ “โครงการนำร่อง”โรงไฟฟ้าชีวมวล ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ครม.อนุมัติ “โควตา”รับซื้อไว้แค่ 36 เมกะวัตต์ .. แต่พอส่งเรื่องไปให้กระทรวงมหาดไทย ทำอีท่าไหน ก็ไม่รู้ กลับมาให้ ครม.อนุมัติอีกที “โควตาบวม”ขึ้นมาเป็น 300 เมกะวัตต์ ซะงั้น .. โดยอ้างว่ามีผู้เสนอขายมากถึง 547 เมกะวัตต์ และผ่านการพิจารณา 224 เมกะวัตต์ ข่าวลึกๆ พาดพิงไปถึง “ไอ้โม่ง”ที่พกดีกรี “ลูกผู้มีอำนาจ”ไปเร่ขาย “ตั๋ว” สนนราคา “เมกฯละล้าน” จนโควตาบวมเป่ง .. เห็นแบบนี้แล้ว กกพ.ลองดีดลูกคิดแล้ว ได้ไม่คุ้มเสีย ก็เลยไหว้วาน ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ให้เป็นผู้ทำหนังสือแจ้ง “ข่าวร้าย”กลับไปยังกระทรวงมหาดไทย .. ท่ามกลางกระแสข่าว “บิ๊ก คสช.”กดดันให้ กรรมการ กกพ. “บางราย”สมัครใจลาออก อ้างว่าเพื่อให้เป็นไปตามวาระที่กำหนดในกฎหมาย ..

พลันที่กระแสข่าวกดดันให้ กกพ. ลาออกสร่างซาไป ก็มีข่าวสวนขึ้นมาทันทีว่า กระทรวงพลังงาน มีแนวโน้มที่เพิ่ม “โควตา”ซื้อไฟฟ้าขยะ เพิ่มอีก 400 เมกะวัตต์ ตามที่ “มหาดไทย”รีเควสมาก่อนหน้านี้ .. อ้างง่ายๆ ว่า ขยะมันแยะ ไฟฟ้ามันก็เลยเยอะ แล้วยังเป็นหนทางในการแก้ไขปัญหามลพิษของประเทศอีกด้วย .. ทั้งที่หากปล่อย “โควตาบวม”อีกครั้งจริงๆ แน่นอนว่า “มหาดไทย”โดย “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เจ้ากระทรวง ก็คงแฮปปี้ ใช้เป็น “ปัจจัย”ในการผลักดันแก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองได้เต็มที่ .. แต่ในแง่ “ผลกระทบ”เรียกว่าประเมินค่าไม่ได้ หากจำกันได้ ในขณะที่ “กระทรวงคลองหลอด” พยายามเร่ง “โปรเจกต์โรงไฟฟ้าแสนล้าน”ขนาดยังไม่เกิด ยังมีนโยบายแปร่งๆ ออกมาจาก “รมต.ศิริ” .. เมื่อครั้งที่สั่งชะลอรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ในช่วง 5 ปีจากนี้ เว้นไว้เฉพาะ “ไฟฟ้าพลังงานขยะ”เท่านั้น .. ทำเอา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาชิกกลุ่มพลังงานทดแทนกว่า 200 ราย ออกมาโวยวายกันโดยพร้อมเพรียง เพราะมันส่งผลกระทบจนธุรกิจเสียหาย หลายบริษัทอาจต้องปิดตัวลง เนื่องจากไม่มีที่ขายไฟ .. ซึ่งก็มีการวิเคราะห์กันว่า ก็เป็นผลพวงมาจาก “โควตาบวม” ของไฟฟ้าชีวมวลที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เบียดบังจนต้องลดการรับซื้อพลังงานทางเลือกประเภทอื่น ..

ตรรกะเดียวกัน ในเมื่อปริมาณพลังงานทดแทนเพียงพอ จนกระทรวงพลังงานกล้าที่จะงดรับซื้ออย่างน้อย 5 ปี แล้วเหตุใดถึง “เปลี่ยนใจ” จะเปิดโควตาซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนเพิ่ม .. เท่ากับว่า “ตัดวงจร”ไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกทุกประเภท แล้ว “บายพาส”จิ้มตรงไปที่ “ไฟฟ้าขยะชุมชน”ของกระทรวงมหาดไทย เพียงรายเดียว .. แล้วแบบนี้จะไม่ให้เรียกว่า “กินรวบ”แล้วจะเรียกว่ายังไง .. กลายเป็นว่า “ธุรกิจพลังงาน”วันนี้มี “เจ้ามือคนใหม่”โดยที่ “คนแจกไพ่”ก็พร้อม “สนองงาน”ทำไพ่สารพัดรูปแบบ จน “เจ้ามือ”ป๊อกแล้ว ป๊อกอีก ไล่กิน “ผู้เล่น”ที่ทำมาหากินมาอย่างถูกต้องจนอาจต้องหมดตัวกันในไม่ช้า

** พี่เสกองค์ลง!! “เสก โลโซ”ไลฟ์สดด่ากราดไปทั่ว เจอทักเล่นยาจนของขึ้น วกไปถึง“โอ๊ค-พานทองแท้”ก่อนเข้าประเด็นการเมือง จิกหัว “แม้ว - ปู” เละเทะ วอนเลิกเถอะ สู้ไปก็ไม่ชนะ แวะอวย “สมศักดิ์ เทพสุทิน”ชูเป็นนายกฯ เหมือนโดน “พลังดูด”ไปกับเขาด้วย หนักสุดเพื่อนซี้ “เสี่ยเต้น -ณัฐวุฒิ” ที่เจอกระชากหน้ากาก “สู้แล้วรวย”วันๆ เอาแต่หลอกเงิน “นายใหญ่”ไล่หลังฝ่ายแรกที่เพิ่งบอก “ขาดทักษิณไม่ได้”
เสกสรรค์ ศุขพิมาย
ของขึ้นแบบรัวๆ .. คุ้นชินกันดี กับวีรกรรม ร็อกเกอร์ชื่อก้อง “เสก โลโซ”เสกสรรค์ ศุขพิมาย ที่ไลฟ์สดผ่านแฟนเพจส่วนตัว ด่ากราดไปทั่ว คำหยาบเพ่นพ่านไปหมด .. 2-3 วันนี้ พีคสุด ไลฟ์กันแบบไม่หลับไม่นอน ขนาด ตี 2 ตี 3 ยอดคนดูยังเกือบ 2 หมื่น .. จนเจอทักว่า“โดนตัวไหนมา”เท่านั้นแหละ เหมือนองค์ลง ตอกกลับคนที่กล่าวหาไม่เท่าไร ยังโยงไปถึง “เสี่ยโอ๊ค”พานทองแท้ ชินวัตร แบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ .. พร้อมกับท้าทาย “แฟนคลับ” ว่าแชร์ครบ 2 หมื่น จะตรวจฉี่โชว์ไลฟ์สด .. พอยอดแชร์ครบ 2 หมื่นปุ๊บ “พี่เสก”ก็วานให้ “อีฟ” แฟนสาวคนปัจจุบัน ไปซื้อที่ตรวจฉี่ โชว์ตรวจกันแบบ จะจะ ปรากฏว่า “สองขีด”พออนุมานได้ว่า ไม่พบสารเสพติด .. บางช่วง บางตอน ก็พาลไปถึงเรื่องการเมือง พูดจาท้าทาย ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยกตัวว่า มีบุญคุณกับสองศรีพี่น้องซะอีก .. พร้อมฝากไปถึง “ทักษิณ”แบบสนิทสนมว่า “กูรักมึงนะพี่ ถึงเตือนมึง เลิกเถอะ สู้ไปไม่ชนะ สงสารครอบครัว” .. แล้วบอกด้วยว่า ที่พร่ำพูด ก็เพราะเป็นห่วงบ้านเมือง อยากให้ประชาชนรักกัน อยากให้ประชาชนสามัคคี เสียสละเพื่อบ้านเมือง ก่อนจะร้องห่มร้องไห้ แล้วบอกว่า “สงสารทักษิณ”เออ เอากับเขาสิ ..
ทักษิณ ชินวัตร และ  สมศักดิ์ เทพสุทิน
ที่น่าแปลกก็ในขณะที่ดากราดชาวบ้านชาวช่องไปทั่ว กลับชื่นชม สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร แค่คนเดียว .. พูดถึงขนาดขอสนับสนุนให้ “พี่สมศักดิ์”เป็นนายกฯ เพราะ “น่ารัก นิสัยดี เก่ง”อวยกันขนาดนี้ สงสัยโดน “พลังดูด”ไปแล้วซะละมั้ง .. อีกคนที่สะดุ้งโหยง ก็ซี้ปึ้กอย่าง “เสี่ยเต้น”ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ที่เพิ่งออกมาสารภาพว่า “ขาดทักษิณไม่ได้”นั่นแหละ .. งานนี้ “เพื่อนเสก” จัดการกระชากหน้ากาก “หัวหน้ามุ้ง สู้แล้วรวย”จนเละเทะ เมื่อแฉเป็นขดๆ ออกมาว่า “เพื่อนเต้น”วันๆ เอาแต่คิดจะหลอกเงินจาก “นายใหญ่” .. จนเหมือนเป็นคำเฉลยไล่หลังว่า ทำไม “เสี่ยเต้น”ถึงกับต้องออกมาบอกว่า “ขาดทักษิณไม่ได้” .. เพื่อนกัน ก็ไปเคลียร์กันเอาเองนะ .


ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น