อธิบดีกรมชลประทานย้ำไม่วิกฤต แต่เตือนประชาชนใน อ.เมืองเพชรบุรี เตรียมรับมือน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.เป็นต้นไป โดยน้ำจะขังประมาณ 7-10 วัน ส่วน อ.บ้านแหลม น้ำจะท่วมขังเป็นเดือน อย่างไรก็ดีมีแนวโน้มในทางบวกเมื่อน้ำไหลเข้าเขื่อนแก่งกระจานลดลง
เมื่อเช้าวันนี้ (8 ส.ค.) ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่าขณะนี้มีน้ำ 730 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำล้นสปิลเวย์สูงประมาณ 46 เซนติเมตร ปริมาณน้ำดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน ยกเว้นรีสอร์ตที่มีตลิ่งต่ำจะได้รับผลกระทบอยู่บ้าง
สำหรับเขื่อนเพชรปริมาณน้ำท้ายเขื่อน 95 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะไม่ส่งผลต่อ อ.ท่ายาง และอ.เมืองฯ ที่มีคนบอกน้ำจะท่วมเมื่อคืน ตนยืนยันว่าในช่วงนี้ไม่มีผลกระทบ ทั้งนี้ คาดว่า อ.เมืองฯ จะได้รับผลกระทบประมาณวันที่ 12 ส.ค. เนื่องจากน้ำจะผ่านเขื่อนเพชรปริมาณ 140-160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้อ.เมืองฯ และ อ.บ้านแหลม มีปริมาณน้ำสูงขึ้น 20-50 เซนติเมตร ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานเกี่ยวจะป้องกันให้ดีที่สุด
อธิบดีกรมชลฯ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันบริเวณหน้าเขื่อนเพชรตรงคลองระบายน้ำ D9 ที่ยังไม่เสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ คาดการณ์ว่าหากเสร็จแล้วจะรองรับน้ำได้ 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะเป็นตัวช่วยตัดน้ำ ไม่ให้เข้า อ.เมืองฯ แต่อย่างไรก็ตาม น้ำจะท่วมขังในพื้นที่บ้านแหลมเป็นเดือน เพราะพื้นที่ติดกับทางออกของน้ำ โดยเราจะใช้วิธีการผลักดันน้ำเพื่อลดระดับ และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำกว่า 40 เครื่อง รวมทั้งมีการคิดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยงหลายพื้นที่ ขณะที่ในส่วนตัวเมืองจะมีปริมาณน้ำขัง 30-50 เซนติเมตร จะอยู่ประมาณ 7-10 วัน แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำปัจจุบันที่ไหลเข้าเขื่อนแก่งกระจานลดลงทุกวัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
