“บิ๊กตู่” สั่ง “กองทัพบก” ส่ง 47 โครงการขุดลอกฟื้นฟูแหล่งน้ำ 468 ล้าน ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พิจารณาการใช้งบประมาณทุกโครงการ หลังพบเกิดความซ้ำซ้อนในการเสนอของบประมาณ ต.หนองจิก อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เฉพาะของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ขอแค่ 1.9 ล้าน แต่กองทัพบก เสนอใช้งบ 7.8 ล้าน เผย 3 ปีงบประมาณ “กองทัพบก” ใช้งบโครงการขุดลอกฟื้นฟูแหล่งน้ำ แล้ว 2 พันล้าน
วันนี้ (6 ส.ค.) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 31 ก.ค. มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 468,912,800 บาท ให้กองทัพบก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2561 (ความร่วมมือกองทัพบก-มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์) ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเสนอ
โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า โครงการดังกล่าวที่กองทัพบกขอรับสนับสนุนตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 พบว่ากรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้เสนอคำของบประมาณรายจ่ายฯ เพื่อดำเนินโครงการขุดลอกสระเก็บน้ำสาธารณะบึงหญ้า หมู่ที่ 8 ต.หนองจิก อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย งบประมาณ 1,950,000 บาท
“โครงการที่ดำเนินการในพื้นที่เดียวกันของกองทัพบก คือ โครงการบึงหญ้า ต.หนองจิก อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ใช้งบประมาณถึง 7,887,000 บาท มีมูลค่าสูงกว่า ครม.จึงขอให้กองทัพบกประสานไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อบูรณาการไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการเสนอของบประมาณ”
ขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เสนอให้ตรวจสอบและบูรณาการโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ คูคลองต่างๆ ในปีต่อๆ ไปของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ซึ่ง ครม.ขอให้กระทรวงกลาโหมส่งแผนการดำเนินการโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2561 (ความร่วมมือกองทัพบก-มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์) ไปยังสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อคณะกรรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานรับทราบด้วย
มีรายงานว่า งบประมาณจำนวน 468,912,800 บาท จะลงพื้นที่จำนวน 47 โครงการ ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ พะเยา พิจิตร สุโขทัย เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี และพัทลุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ การเก็บกักน้ำ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอและให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติไปดำเนินการ
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2560 คณะรัฐมนตรีอนุมัติ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 235,361,300 บาท ให้กองทัพบก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำ (มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์) จำนวน 22 โครงการ ในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แพร่ สุโขทัย ขอนแก่น บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี นครปฐม กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี หนองคาย สุรินทร์ พะเยา เชียงราย พิษณุโลก และพัทลุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก การกระจายน้ำให้กับพื้นที่การเกษตร ประมาณ 2,600 ไร่ มีน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3.57 ล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ ปีงบประมาณ 2559 ครม.อนุมัติ ให้ “กองบัญชาการกองทัพไทย และกองทัพบก” วงเงินรวม 1,342 ล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำในปี 2560 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจำนวน 1,027 โครงการ แยกเป็นส่วนการดำเนินการของกองบัญชาการกองทัพไทย 106 โครงการ วงเงิน 158 ล้านบาท ส่วนของกองทัพบก จำนวน 921 โครงการ วงเงิน 1,142 ล้านบาท
โดย 3 ปีงบประมาณ (2559-2561) รัฐบาลอนุมัติเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำ แล้วจำนวน 2,046,174,100 บาท