ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ระดมทุนเลือกตั้ง!? “บิ๊กฉัตร”ลุยแก้ใบเหลือง IUU ลุ้นประเมิน ก.ย.นี้ อีกรอบ วิจารณ์หึ่ง ปัดฝุ่นโครงการซื้อเรือคืน งบ 3 พันล้านบาท เกาไม่ถูกที่คัน กางชื่อเรือร่วมโครงการ ชื่อ “เศรษฐี”เป็นเจ้าของทั้งนั้น ท่ามกลางเสียงร่ำลือวาระ “ยัดไส้”แก้ปัญหา “ตังเก”บังหน้า ทำงบฯบวม ตุน“ทุนการเมือง”ไว้เท “เลือกตั้ง”
ลุ้นกันมาหลายยก .. จนแล้วจนรอด ผ่านไป 3 ปี “สหภาพยุโรป”(EU) ก็ยังไม่ปลด “ใบเหลือง” การประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing)ให้ไทยเราเสียที .. งานนี้จะเจ๊ง จะเจี๊ยะ คนรับผิด และรับชอบ หนีไม่พ้น “บิ๊กฉัตร”พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหา IUU ที่ดูเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยยังเป็น รมว.เกษตรฯ นู่น .. เห็นว่ามีนัดหมาย “ผู้แทน EU” จะเดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหา ในเดือนก.ย.นี้ ก่อนตัดสินใจปลดใบเหลือง หรืออาจจะชักใบแดง ก็ว่ากันไป .. ทำเอาช่วงนี้ “บิ๊กฉัตร”เร่งคลอดมาตรการแก้ไขปัญหาออกมายกใหญ่ โดยเฉพาะการ “ปัดฝุ่น”โครงการซื้อเรือคืน วงเงินประมาณ “3,000 ล้านบาท”ที่ ครม.เคยเห็นชอบไว้ตั้งแต่ พ.ย. 58 ขึ้นมาอีกครั้ง .. เป็นทางแก้แบบกำปั้นทุบดิน ให้รัฐควักกระเป๋าซื้อเรือที่ผิดกฎหมาย เพื่อนำออกจากระบบดื้อๆ จะได้ไม่ไปก่อเรื่องที่สุ่มเสี่ยงผิดข้อตกลงกับทางยุโรปอีก .. นอกจากจะถูกวิจารณ์ยับเยินว่าไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด เนื่องจากไม่ได้ตอบโจทย์พฤติกรรมการทำประมงที่เข้าข่าย “IUU” แต่อย่างใด จนโครงการถูกพับมาร่วม 3 ปี แล้ว ..
รอบนี้รื้อฟื้นโครงการนี้ขึ้นมา ก็ถูกจับจ้อง “ความไม่ชอบมาพากล”บางประการเคลือบแฝงอยู่ .. โดยเฉพาะรายชื่อเรือ พร้อมชื่อเจ้าของเรือ ที่เข้าร่วมโครงการ ปรากฏว่า ส่วนใหญ่เจ้าของไม่ใช่ “ชาวประมงรากหญ้า” แต่เป็น “นายทุนใหญ่”แทบทั้งสิ้น บางราย มีชื่อที่จะได้รับการซื้อเรือถึงมากกว่า 10 ลำด้วยกัน .. อีกทั้งยังมีข้อมูลระบุด้วยว่า หลายๆ ลำในรายชื่อ เป็นเรือที่ไม่มีการใช้งานมานาน จอดเทียบท่ามานานนับ 10 ปี ไม่เท่านั้น “เจ้าของเรือ”บางรายก็ยังติดคดี มีหมายจับในคดีค้ามนุษย์อีกต่างหาก .. จนอดห่วงไม่ได้ว่า งบประมาณ 3,000 ล้านบาท อาจต้องสูญเสียไปฟรีๆ โดยไม่ได้ก่อมรรคผลให้กับการแก้ไขปัญหา IUU แม้แต่น้อย .. เมื่อย้อนที่มาที่ไป เห็นว่าเจ้าของไอเดีย คือ “เสี่ยจ๊ะ” ธนพร ศรียากูล ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ สมัย “บิ๊กฉัตร” .. โดย “เสี่ยจ๊ะ”มีเพื่อนคู่คิดคนหนึ่งชื่อ มงคล สุขเจริญคณา มหาเศรษฐีผู้กว้างขวางวงการไต้ก๋ง-ตังเก แถบแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ปัจจุบันก็มีตำแหน่งเป็น นายกสมาคมประมงแห่งประเทศไทย .. เมื่อ “โครงการซื้อเรือคืน”งบประมาณ 3,000 ล้านบาท ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ภาพของ “เสี่ยจ๊ะ - เสี่ยมงคล”ก็ลอยเด่นขึ้นมาอีกครั้งเช่นกัน .. ภาพของ “บิ๊กฉัตร”ที่อยู่ในโผ “เพื่อนลุงตู่”ที่แต่งเนื้อแต่งตัวเตรียม “ไปต่อ”หลังเลือกตั้ง ก็ลอยเด่นขึ้นมาเช่นกัน .. ท่ามกลางมีเสียงร่ำลือในวงการว่า มีวาระ “ยัดไส้”ทำให้งบประมาณบวมเป่ง เพื่อตุน “ทุนการเมือง”ไว้สำหรับเตรียมการเลือกตั้ง โดยอาศัยการแก้ปัญหา“ตังเก”บังหน้า
**ไม่เกรงกลัวกฎหมาย!! “เสี่ยอ้วน”มือยิง 2 หนุ่มสาว “น้องสปาย - น้องฟอส”ดับคาเขาชีจรรย์ ได้ใจ กม.เอาผิดไม่ได้ เหตุปีก่อนเคยซัลโว “คนขายไอศกรีม”ตายหน้าหอพักตัวเองมาแล้ว แต่รอดคุก หลัง ตร.ส่งสำนวน “ยิงป้องกันตัว”ก่อนประกาศศักดา “เงินซื้อตำรวจได้”ยิงคนตายไม่ติดคุก ด้วยสนนราคา 2 ล้านบาท ย้ำ “รูรั่ว”การทำหน้าที่ “ต้นธารความยุติธรรม”
คดีสะเทือนขวัญเกิดกันแบบรัวๆ .. จากกรณีคนร้ายดักยิง 2 หนุ่มสาว “น้องสปาย - น้องฟอส”เสียชีวิตอย่างอุกอาจ กลางลานจอดรถ เขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี .. ก่อนที่ทางตำรวจจะสืบทราบว่า ผู้กอ่เหตุคือ “เสี่ยอ้วน บางลา” หรือ นายปัญญา ยิ่งดัง เจ้าของสถานบันเทิงใน จ.ภูเก็ต พร้อมพวก รวม 3 คน .. มูลเหตุจูงใจมาจากการความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ “น้องสปาย”หนึ่งในผู้เสียชีวิต .. กลายเป็นปมที่สะท้อนให้เห็นถึง “ความบิดเบี้ยว”ของการทำหน้าที่ “ต้นธารความยุติธรรม”ของตำรวจไทยอีกเรื่อง .. หาใช่การไล่ล่าจับกุมไม่สำเร็จ จนผู้ก่อเหตุหลุดรอดเงื้อมมือกฎหมาย เชื่อว่าไปซุกประเทศเพื่อนบ้าน ตามสคริปต์ “ผู้ร้ายเมืองไทย”อะไรหรอก .. หากแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ “เสี่ยอ้วน”กล้าก่อเหตุฆ่าคนต่อหน้าธารกำนัล อันเป็นผลพวงของ“ความไม่เกรงกลัวกฎหมาย” .. เป็นไปตามหลักคิด “เงินคือพระเจ้า”ซื้อได้ทุกสิ่ง ซื้อได้แม้กระทั่ง “ความยุติธรรม”..
เมื่อมีการขุดคุ้ยประวัติ “เสี่ยอ้วน” พบว่า เมื่อเดือน พ.ค.60 ก็เคยก่อเหตุยิง “คนขายไอศกรีม”เสียชีวิตหน้าหอพักที่ตัวเองเป็นเจ้าของมาแล้ว .. แต่ก็หลุดรอดโทษทัณฑ์มาได้ หลัง“ตำรวจ”สรุปสำนวนว่า “เสี่ยอ้วน”กับผู้ตาย ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เกิดมีปากเสียง และยิงกันตาย เพื่อ “ป้องกันตัว”.. ที่สุด “อัยการ”สั่งไม่ฟ้อง น่าจะทำให้ “เสี่ยอ้วน”ได้ใจ และกล้าก่อเหตุสะเทือนขวัญเพื่อแก้ปัญหาอีกครั้ง .. แล้วที่ว่าเป็น“ความบิดเบี้ยว” ของการทำหน้าที่ “ต้นธารความยุติธรรม”ของตำรวจไทยนั้น ก็ไม่ได้กล่าวหากันลอยๆ .. มีปากคำจาก “แม่น้องสปาย”ว่า เคยถูก “เสี่ยอ้วน”ข่มขู่ว่า เป็น “ผู้มีอิทธิพล”หลายครั้ง พร้อมมั่นใจใน “อำนาจเงิน”ที่ซื้อได้ทุกอย่าง .. แล้วยังประกาศศักดาด้วยว่า เคยซื้อตำรวจมาแล้ว ก่อนหน้ายิงคนตาย ก็ไม่ติดคุก ด้วยสนนราคา 2 ล้านบาท .. จริงเท็จอย่างไร คงต้องให้ทางตำรวจเป็นผู้ตอบ “ข้อกล่าวหา”ที่ว่านี้ แค่ลองรื้อคดีที่ “เสี่ยอ้วน”ยิงคนตายเมื่อปีกลายมาคลี่ดู ก็น่าจะรู้ ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว .. เป็นเรื่องราวที่คล้ายคลึงกับคดีไล่เลี่ยกัน อย่างการเสียชีวิติอย่างมีเงื่อนงำของ “น้องหญิง”สาวตกรถเทรลเลอร์ที่ อยุธยา ท่ามกลางข่าวว่ามีการวิ่งเต้น 3 แสนบาท เพื่อล้มคดี
**วิกฤตศรัทธา!! “ไทยลีก”กระแสฟุบ แฟนบอลหด สมาคมฯ บริหารไม่มืออาชีพ “ทุนการเมือง”ที่เคยอู้ฟู่ เริ่มไม่วิ่ง เหตุร้างเลือกตั้ง จน “นักการเมือง” ที่หวังใช้ธุรกิจลูกหนังสร้างฐานเสียง เริ่มเบือนหน้าหนี “งบท้องถิ่น”ที่เคยหมุนมาใช้ ก็ถูกตรวจสอบ-จับจ้อง จนขยับไม่ออก ปล่อยไว้แบบนี้ น่ากลัวต้องรูดม่าน ปิดฤดูกาลแบบถาวร
ขุนไม่ขึ้นซะล่ะมั้ง .. ขนาด “ฟุตบอลไทยลีก” ลีกสูงสุดของประเทศ ที่ก่อนหน้านี้เคยพีคสุดๆ เผลอแผลบเดียว แฟนบอลหายวับ บางตาซะเหลือเกิน ขนาด “บิ๊กแมตช์”ทีมใหญ่ดวลเดือด ยังเอาตัวกันแทบไม่รอด .. สถานการณ์เช่นนี้มีเพียง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของ “เสี่ยเป็ด”เนวิน ชิดชอบ เท่านั้น ที่ดูจะพอเอาตัวรอดไปได้ ด้วยการคว้าสิทธิ์ไปเตะ “ระดับทวีป”แทบทุกปี .. แล้วยัง “หัวเซ็งลี้” แตกไลน์ธุรกิจ โกยกำไรมันมือ อย่างปีนี้ก็ “เม็ดเงิน” จากสปอนเซอร์ รวมทั้งภาครัฐ ในการสนับสนุนศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโต จีพี ที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นครั้งแรกของเมืองไทย แล้วกำลังผุดโปรเจกต์ตั้ง “ทีมอีสปอร์ต” ตามสมัยนิยมขึ้นมาอีก .. ขนาด เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ลีกหลายสมัย ยังแย่ เพิ่งได้ค่าตัวของ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ตัวกลั่น ที่ขายขาดให้ทีมในเจลีก เข้ามาช่วยสภาพคล่อง .. รวมถึง ชลบุรี เอฟซี ที่ยึดนโยบายปั้นดาวรุ่งขึ้นมาในช่วง 2-3 ปีหลังนี้ ทำให้ไม่เสียเงินไปกับการทุ่มซื้อนักเตะ ส่วนบางทีมที่พออยู่ได้ แต่ไม่อาจเสริมทัพระดับซูเปอร์สตาร์ ทีมก็เติบโตไม่ได้ ก็คือ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ “ทุนหนา” ก็เพิ่งขาย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ดีกรีทีมชาติ เพื่อเอาเงินมาจุนเจือทีม ..
วิเคราะห์ไม่ยาก นอกเหนือปัญหา “ความเอาแน่นอนไม่ได้”ของสมาคมฟุตบอลฯ ตั้งแต่ที่ “เสี่ยอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เข้ามาเป็นนายกฯ กระแสบอลลีก ที่มาดีๆ ก็ปักหัวลงซะเฉยๆ .. พ่วงกับการที่ “เจ้าของทีม”ส่วนใหญ่ มีพื้นฐานมาจาก “นักการเมือง” ทั้งระดับชาติ-ท้องถิ่น ที่เคยคิดจะใช้เป็นฐานสร้างคะแนนนิยมในพื้นที่ให้กับตัวเอง ใช้ธุรกิจฟุตบอลสร้างภาพให้ดูดี .. แต่ดันมาโป๊ะเชะ ช่วงที่ “ทหาร”เข้ามาใหญ่ ร้างสนามการเลือกตั้ง ทุนที่ทุ่มลงไปก็ไลฟ์บอย ไม่ก่อมรรคก่อผล อะไร นานเข้า “ทุนการเมือง”ที่สะสมไว้ ก็ร่อยหรอ .. แถม “งบท้องถิ่น” ที่เคยหมุนมาใช้ ก็ถูกตรวจ สอบ และจับจ้อง อย่าง “ป้าต่าย”กรุณา ชิดชอบ นายก อบจ.บุรีรัมย์ ก็ยัง “งานเข้า”มาแล้ว .. หรือบางทีม ฟู่ฟ่าอยู่ดีๆ “ผู้ใหญ่”ดันมาพัวพันกับ “ธุรกิจสีเทา”เป็นคดีดัง จนทีมเซไปก็บ่อย ข่าวคราว “ล้มบอล-ล็อกผล”ก็ยังไม่จาง .. ปล่อยไว้แบบนี้ น่ากลัวว่า อาจจะซ้ำรอยลีกประเทศเพื่อนบ้าน ที่เคยฟีเวอร์สุดๆ จู่ๆ ก็ฟุบ จนแทบรูดม่านปิดฤดูกาลแบบถาวร
ช.ชฎา