“บิ๊กป๊อก”ประกาศลั่น พร้อมตอบทุกเรื่อง งั้นขอทวงคำตอบ “โรงแยกขยะ 300 ล้าน” ปมเด้ง “ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์”จริงเท็จเช่นไร **“รัฐบาลอังกฤษ”รีเควสต์เอง ขอตัว“ยิ่งลักษณ์”เป็นผู้ร้ายข้ามแดน **ขยายเวลาสอบ “ผู้กำกับหนุ่ย”หิ้วถุงตามก้น “ยิ่งลักษณ์”

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ตอบหน่อยได้ไหม!! “บิ๊กป๊อก”พ้อเหนื่อยถูกโจมตี ประกาศลั่น พร้อมตอบทุกเรื่อง งั้นขอทวงคำตอบ “โรงแยกขยะ 300 ล้าน” ใช้งานไม่ได้ที่ “เชียงราย” ปมเด้ง “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” จริงเท็จเช่นไร แล้วที่ลือๆ กันว่า "ทายาทบิ๊ก คสช." ออก “โปรไฟไหม้” จ่ายแค่ “8กิโล” แลกกับ “ตั๋วไฟฟ้าขยะ 9.9 เมกฯ”พ่วงออปชั่น “หุ้นลม”ใน “บริษัทพลังงาน”ที่จะถือตั๋วไปเข้าตลาดหุ้น ปั่นราคาปล้นแมงเม่า นั่นเรื่องจริง หรือแค่มโน

อึดอัดอะไรหรือเปล่า .. จู่ๆ “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็โพล่ง “ผมไม่คอร์รัปชัน” ออกมากลางวงนักข่าว ที่ไล่ถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป .. กระจอกข่าวสะกิดถามเบาๆ ว่า เหนื่อยไหม ?? “มท.1” ยืดอกตอบ ทำงานอย่างไรก็ไม่เหนื่อย ตอบคำถามนักข่าว ก็ไม่เหนื่อยตอบได้ทั้งวัน .. แต่มีแอบตัดพ้อว่า เหนื่อยกับการถูกโจมตี ฝากบอกสื่อ ถามได้ทุกเรื่อง จะตอบทุกเรื่อง โดยเฉพาะใครมาโจมตี หนักแค่ไหน ก็จะตอบ .. คำพูดล่าสุดของ “พี่รอง คสช.” ค่อนข้างขัดแย้งกับ “ความเป็นจริง”ที่มักหนักไปทาง “พูดไม่ถึงครึ่ง”ในยามที่มีประเด็นไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับตัวเอง .. ตั้งแต่สมัยเป็นใหญ่ในกองทัพ เรื่อยมาถึงมีอำนาจคับประเทศในวันนี้ ไม่ว่าเรื่องไม้ล้างป่าช้า-เรือเหี่ยว กระทั่ง “ป่ากระทิงแดง”ที่มักจะบุ้ยโบ้ยไปพ้นตัว .. จนต้องถามว่ามีเรื่องไหนที่เคลียร์คัต ชัดเจนบ้างมากกว่า หนักข้อเข้าก็งัดสคริปต์ “จะไม่ชี้แจงเรื่องนี้อีกแล้ว” จริงไม่จริงไปย้อนดูกันได้ .. เอาง่ายๆ เรื่องร้อนๆ อย่างปมเด้ง “ผู้ว่าฯหนึ่ง”ณรงค์ศักดิ์ โอสถาธนากร จากเชียงราย ไปพะเยา ก็หยิบมาพูดเฉพาะงบท้องถิ่นบางตัวที่มีปัญหา ไม่ยักจะพูดถึง “โรงแยกขยะ 300 ล้าน” ที่ “ผู้ว่าฯหนึ่ง”ระบุว่า สร้างไปแล้ว ใช้การไม่ได้ แต่อย่างใด .. หรือ "วาระเรือธง" ของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย "การบริหารจัดการขยะ" ที่เต็มไปด้วย "ความไม่ชอบมาพากล" .. ก็ถามม้า ตอบช้าง ไปเรื่อย อ้างว่า "มหาดไทย" เป็นแค่ระดับนโยบาย ส่วนการปฏิบัติเป็นเรื่องของ "ท้องถิ่น" .. ทั้งที่งบประมาณบานตะไท นับ "แสนล้าน" ของ "เมกะโปรเจกต์ขยะ" ก็ซุกอยู่ใน "งบ อปท.-งบจังหวัด" ในการกำกับของ “รมว.มหาดไทย” ไม่ใช่หรือ .. เมื่อ "ท้องถิ่น" ดำเนินการไม่โปร่งใส อย่าง “โรงแยกขยะ 300 ล้าน” ที่ใช้งานไม่ได้ ของ จ.เชียงราย “ระดับนโยบาย”ไม่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างนั้นหรือ .. แล้วยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า "หลังฉาก" มี "ทายาทบิ๊ก คสช." ทำตัวเป็น "นายด่าน”ตั้งโต๊ะเก็บ "ค่าน้ำชา" แลกกับ “ใบอนุญาตโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ” อย่างเป็นล่ำเป็นสัน สนนราคา “เมกฯละโล”นั่นอีก .. ถึงจะอ้างว่า "มหาเมกะโปรเจกต์โรงไฟฟ้าแสนล้าน" ที่ถูกจับจ้องอยู่ ยังไม่ไปถึงไหน แต่ช่องทางหาประโยชน์มันมีอยู่ตลอดทาง .. อย่าง “ตั๋วไฟฟ้าขยะ” ที่ซื้อๆ กันไป ก็ใช่ว่าต้องรอให้ปั่นไฟได้ก่อนแล้วประโยชน์จะงอกเงย ที่อยากได้กันตัวซีดตัวสั่น แม้โรงไฟฟ้ายังไม่ปักเสาเข็ม ก็เพราะมี “โมเดลอุบาทว์”ใช้เอาไปปั้นบริษัทเข้าตลาดหุ้น ปั่นราคาปล้นแมงเม่า ไม่ใช่หรือ .. แล้วหาก “โมเดลอุบาทว์” ที่ว่าไม่เป็นจริง คนขายตั๋วอย่าง "ทายาทบิ๊ก คสช." คงไม่ออก “โปรไฟไหม้”จ่ายแค่ “8กิโล” แลกกับตั๋วผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ ปริมาณสูงสุดที่เลี่ยงการทำ EIA .. ไม่ใช่จู่ๆ ใจดีลดราคาให้กันเฉยๆ แต่หวัง “กินสองเด้ง”ขอแลกด้วย “ออปชั่นพิเศษ”เป็น “หุ้นลม” ของแต่ละบริษัทที่เตรียมเอา “ตั๋ว”ไปปั่นเรียกแมงเม่าในตลาดหุ้น .. ถามดังๆไปถึง “บิ๊กป๊อก”ที่ว่าจะตอบทุกเรื่อง ว่าที่ “ข่าวปนคนฯ”เวิ่นเว้อมาทั้งหมดเนี่ย เรื่องจริง หรือแค่มโน

**บุคคลไม่พึงปรารถนา!! “รัฐบาลอังกฤษ”รีเควสเอง ขอ “ทูตไทย”ทำเรื่องขอตัว “ยิ่งลักษณ์”เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ผลพวง “ทักษิณ”ชักคะนอง เปิดฟลอร์พูดการเมืองกลางกรุงลอนดอนถี่ยิบ ทำ “เจ้าของบ้าน”เริ่มไม่ปลื้ม ยืมมือทางการไทย ยัดเยียดตำแหน่ง “บุคคลไม่พึงปรารถนา”ให้ ทำเอา “พี่น้องชินวัตร”เปิดแน่บไป “ดูไบ”แทบไม่ทัน

มีนัยบางประการ .. กับท่าทีของ “บุคคลในรัฐบาล”ต่อกรณีที่ เอกอัครราชทูตไทยในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ได้ส่งจดหมาย ลงวันที่ 5 ก.ค. 61 ไปที่กระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ขอให้ส่งตัว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีคดี ในฐานะ “ผู้ร้ายข้ามแดน”กลับมาเข้ากระบวนการยุติธรรมที่ประเทศไทย .. เป็นท่าทีที่ดูเหมือนพยายามบ่ายเบี่ยง ไม่อยากพูดถึง ทั้งที่เป็นผลงานที่น่าจะเอามาโพนทะนา เพิ่มเรตติ้งความนิยมจาก “กองหนุน คสช.” ด้วยซ้ำ .. ตั้งแต่ ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ที่พูดเต็มปากว่า “ทูตอังกฤษ”ทำตามขั้นตอน ไม่ใช่เรื่องนโยบาย .. หรือ “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้เอามาเคลมว่า เป็นผลต่อเนื่องจากครั้งไปเยือนแดนผู้ดี เช็กแฮนด์ เทเรซา เมย์ นายกฯ อังกฤษ อะไรทั้งสิ้น .. ก่อนจะมีเฉลยออกมาจาก วิษณุ เครืองาม รองนายกฯกฎหมาย ที่ระบุว่า การดำเนินการของ “ทูตอังกฤษ”นั้น ต้นสังกัดอย่าง “กระทรวงบัวแก้ว”เพิ่งทราบรายละเอียดทีหลัง .. แล้วยังบอกถึงที่มาที่ไปว่า เป็น “ทางการอังกฤษ”เองด้วยซ้ำ ที่ “รีเควส”ให้ เอกอัครราชทูตไทยในสหราชอาณาจักร ทำจดหมายทางการไปถึงกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ .. ทั้งที่ทาง “อัยการ -ตำรวจ” ของไทยก็ยืนยันว่า ได้เคยประสานไปตามขั้นตอนแล้ว เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ..

ตรงนี้น่าสนใจไม่น้อย เพราะทั้งที่ “รัฐบาลไทย”ทำแค่ “พอเป็นพิธี” เหมือนยอมจำนน รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ แต่กลับได้รับการ “รีเควส”ให้ทำเรื่องกระทุ้งเข้าไปหน่อย .. ยิ่งดูจาก “ไทม์มิ่ง” ที่มีการประสานกันเมื่อต้นเดือนก.ค. ภายหลังจากวันคล้ายวันเกิดครบ 51 ปี ของ “ยิ่งลักษณ์”ไม่นาน .. หากจำกันได้ในปาร์ตี้วันเกิด “อดีตนายกฯปู” ที่ดินเนอร์กันที่ร้านอีสานเขียว กลางมหานครลอนดอน ที่ “พี่แม้ว”ทักษิณ ชินวัตร ตั้งใจให้เป็นประเด็นว่า แม้เป็น “ผู้ต้องหาหนีคดี” ก็ยัง“กินหรู อยู่สบาย”ในต่างแดน .. ไม่เท่านั้น “ทักษิณ” ยังนั่งให้สัมภาษณ์ยืดยาว กระทบกระเทียบกลับมาถึง “รัฐบาล คสช.”และสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย .. น่าจะเป็น “มูฟเมนท์”ที่ “เจ้าของบ้าน” ดูจะไม่ค่อยสบายใจ แม้จะอำนวยความสะดวกให้ “ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์” มาลงหลักปักฐาน แต่ก็ไม่แฮปปี้ ที่ถูกใช้ประเทศเป็นฟลอร์เคลื่อนไหวทางการเมืองถี่ยิบ .. ครั้นจะเอ่ยเอื้อนขอความร่วมมือด้วยตัวเอง ก็อาจถูกตั้งแง่ว่า “ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ” ที่ค่อนข้างเซนซิทีฟ ของประเทศตะวันตก .. จึงเป็นที่มาของการประสานให้ “ทูตไทยที่ลอนดอน”ชงหนังสือขอตัว “ผู้ร้ายข้ามแดน”ที่มีการยก “สนธิสัญญาระหว่างสหราชอาณาจักรและสยาม ปี 1911” ว่าด้วยการส่งตัวอาชญากรผู้หลบหนีคดีกลับประเทศ ขึ้นมา .. กลายเป็นว่า “ทางการอังกฤษ” ยืมมือ “รัฐบาลไทย”ในการกดดัน “พี่น้องชินวัตร”ทางอ้อม .. งานนี้จึงไม่ใช่ว่า “ขุนทหาร คสช.”เดินหมากดับซ่า “ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์” แต่เป็น “รัฐบาลลอนดอน”มากว่าที่ต้องการกำราบ “ผู้มาขออาศัย” .. พลันที่ข่าวหลุดออกมา เหมือนว่า “ทักษิณ”ยักไหล่ชินชากับฐานะ “ผู้ร้ายข้ามแดน”มาหลายปีดีดัก .. แต่พอจับทิศทางลมได้ว่า งานนี้เป็นหมากของ “รัฐบาลอังกฤษ” ในฐานะเจ้าของบ้าน ที่มองว่า “พี่น้องชินวัตร” กลายเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา”ในทางการทูต .. เท่านั้นแหละ “พี่ษิณ” สั่งแพกกระเป๋า หิ้ว “น้องปู”ที่กำลังลั๊ลลาโซ้ยไอติมกับทีมงาน ขึ้นเครื่องกลับฐานที่มั่น “มหานครดูไบ”แทบไม่ทันเลยทีเดียว.

**ไส้ศึกสันติบาล!! ขยายเวลาสอบ “ผู้กำกับหนุ่ย”ปมหิ้วถุงชอปปิ้งตามก้น “ยิ่งลักษณ์”ที่อังกฤษอีก 30 วัน เพิ่มน้ำหนักความไม่ธรรมดาของ “สมุนเอกระบบแม้ว” ที่คงมี “บิ๊กตำรวจมะเขือเทศ”ที่รู้เห็นกับ “นายใหญ่” เป็นแบ็กให้ หวังยื้อเรื่องให้เงียบๆ กันไป เลี้ยงไว้เป็น “ไส้ศึก”ใน “สันติบาล”ที่กำลังจะมีบทบาทสำคัญช่วงเลือกตั้ง

ไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อน .. แปลกใจไม่น้อยกับคิวที่ “กองบัญชาการตำรวจสันติบาล” ต้องขยายเวลาสอบข้อเท็จจริง กรณี “ผู้กำกับหนุ่ย” พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ตำรวจในสังกัดสันติบาล ไปหิ้วถุงชอปปิ้ง ตามก้น “นายปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงประเทศอังกฤษ .. เพราะ “ข้อเท็จจริง” ไม่มีอะไรมาก หนึ่ง “ผู้กำกับหนุ่ย” เป็น “ตำรวจในราชการ” ที่ลาราชการ อ้างว่าจะไปทำธุระหาที่เรียนให้ลูกที่ประเทศอังกฤษ .. แล้วดันมีภาพไปเดินตาม “ยิ่งลักษณ์” ที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีต้อยๆ พอเป็นเรื่อง “ต้นสังกัด”ก็สั่งยกเลิกวันลา เรียกกลับมารายงานตัว .. ก่อนที่ “ผู้กำกับหนุ่ย”จะปรากฏตัวข้างกาย “นายปู” อีกครั้ง ในระหว่างไปชมฟุตบอลโลก ที่ประเทศรัสเซีย .. ก็มีการเปิดเผยภายหลังว่า เบื้องต้น “วทัญญู” ถูกสั่งพักราชการ พร้อมสั่ง "เด้งเข้ากรุ" ให้มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. ขาดจากตำแหน่งเดิม จนมีเวลาไปทำหน้าที่บอดี้การ์ดให้ “นายปู” รวมทั้ง “นายใหญ่”ทักษิณ ชินวัตร ที่ต่างแดน .. แบบไม่ยี่หระกับเรื่องที่ตัวเองกำลังถูก สตช.สอบสวน เป็นพฤติการณ์ไม่เกรงกลัว "ผู้บังคับบัญชา" และไม่เกรงใจ "ประชาชนผู้เสียภาษี" แม้แต่น้อย ..

ข้อเท็จจริงง่ายๆ แค่นี้ ถูกผิดก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า มาทำยักแย่ยักยันแบบนี้ ก็จะเสียหายถึงภาพลักษณ์ของ “กรมปทุมวัน”เอง .. จนอดถามไม่ได้ว่า ไฉนเลย ยังดูเหมือน สตช. ยังเกรงอกเกรงใจ “ผู้กำกับหนุ่ย”อย่างผิดสังเกต ทั้งที่อำนาจเปลี่ยนมือจาก “ระบอบทักษิณ”มาตั้งหลายปีแล้ว .. ก็เลยอดคิดไปไม่ได้ว่า ที่ “บอดี้การ์ดหนุ่ย”ยังมีที่ยืนอยู่ใน สตช. ทั้งที่มีพฤติการณ์ไม่ไว้หน้า “ผู้บังคับบัญชา”เช่นนี้ ก็ด้วยมี “บิ๊กตำรวจมะเขือเทศ”ที่รู้เห็นกับ “นายใหญ่”เป็นแบ็กให้อยู่หรือไม่ .. ตลอดจนข้อสังเกตก่อนหน้านี้ว่า มี “มือที่มองไม่เห็น” จับวาง “สมุนเอกระบอบแม้ว”มาอยู่ที่ “ตำรวจสันติบาล" อันเป็นศูนย์รวม “ด้านข่าวกรอง”โดยเฉพาะในแง่ความมั่นคงของประเทศ หรือไม่ อย่างไร .. เพราะเหมือนเป็นใจให้ "สปายฝ่ายตรงข้าม" มานั่งอยู่กลางศูนย์บัญชาการด้านการข่าวของ “รัฐบาล คสช.” อย่างไรอย่างนั้น .. การยื้อยุด ลากการสอบสวนเรื่องเล็กๆ ออกไปเช่นนี้ ก็คล้ายว่าจะเป็นใจให้เรื่องซาๆ เหมือนหลายเรื่องที่เรื่องเงียบ แล้วก็แล้วกันไป .. อันอาจมีผลให้ “ผู้กำกับหนุ่ย” ยังคงอยู่เป็น “ไส้ศึก”ใน “สันติบาล” ที่จะมีบทบาทสำคัญในช่วงเลือกตั้งหรือเปล่า ??

ช.ชฎา