ข่าวปนคน คนปนข่าว
**Mission Completed!! ปิดจ๊อบปฏิบัติการ “พาหมูป่ากลับบ้าน” ทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัย ขอบคุณทุกแรงกายแรงใจจาก “ฮีโร่”นับหมื่นชีวิต ที่เป็น “น้ำหนึ่งใจเดียวกัน” ร่วมใน “ภารกิจแห่งมวลมนุษยชาติ”จนทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างเหนือความคาดหมาย
สิ้นสุดการรอคอย .. 17 วันเต็มๆ กับปฏิบัติการ “พาหมูป่ากลับบ้าน”ช่วยเหลือนักฟุตบอลและโค้ช “ทีมหมูป่าอะคาเดมี่”ที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย .. หลังทั้ง 13 ชีวิต ได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำอย่างปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย .. งานนี้ไม่เพียงแต่ “ไทยทั้งชาติ” ยังลุกลามไปถึง “คนทั้งโลก”ที่ไม่อาจละสายตาจากการเฝ้าติดตามข่าว และเอาใจช่วยกันแบบนาที ต่อนาที .. ยกระดับ “วาระแห่งชาติ”กลายเป็น “วาระแห่งมวลมนุษยชาติ” จากความช่วยเหลือจาก “เพื่อนร่วมโลก”จากทั่วทุกสารทิศ รวมแล้วนับหมื่นชีวิต .. ที่ทุกคนต่างเป็น “จิ๊กซอว์” ที่สำคัญ ขาดไปเพียงคนใดคนหนึ่ง ก็อาจจะไม่สำเร็จอย่างที่เห็น .. ที่ขาดไม่ได้ ผู้ที่ต้องยกย่องว่า เสียสละที่สุด “จ่าแซม”จ.อ.สมาน กุนัน ซึ่งพลีชีพในภารกิจประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ถือเป็น “วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง”อย่างเต็มภาคภูมิ .. พูดได้ไม่ผิดว่า ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งเบื้องหน้า-เบื้องหลัง ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็น “ฮีโร่ตัวจริง”ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ นำมาซึ่งตอบจบ ที่ “ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว” .. จาก Mission impossible ภารกิจสุดโหด ที่เป็นไปไม่ได้ ภายใต้สภาพแวดล้อมของ “ถ้ำหลวง” ที่ถูกยกเป็น “เอเวอเรสต์แห่งการดำน้ำ”หรือเปรียบเหมือน “การวางแผนไปดวงจันทร์”ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี .. กลายเป็น Mission possible ที่พิสูจน์แล้วว่า ความร่วมมือร่วมใจของ “เพื่อนมนุษย์”จากทั่วทุกมุมโลก ตลอดจน “น้ำใจ”ที่หลั่งใหลมาในรูปแบบต่างๆ สามารถ เอาชนะอุปสรรคได้ทุกประการ .. “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน”นี่เองที่เป็น “กุญแจสำคัญ”ในการไข “วิกฤติ” ครั้งนี้ “ประสบความสำเร็จ”ได้อย่างเกินความคาดหมาย
**ฉาวไปทั้งโลก!! “สื่อนอก”ยกนิ้ว “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์”ระดับโลก พร้อมเปิดปมถูกย้ายไปพะเยา เหตุ “เปิดแผล”งบประมาณผิดปกติของ“ท้องถิ่น” จนถูก “บิ๊กป๊อก”ที่ระบุว่าเป็น “ผู้ทรงอิทธิพลของ คสช.” เสนอย้ายพ้นเชียงราย เสียดายไม่ได้เจาะ “ขุมทรัพย์ขยะพันล้าน”ที่น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้เก้าอี้ผู้ว่าฯเชียงราย ปลิวในพริบตา แต่แค่นี้ คสช.ก็ขายขี้หน้าไปทั้งโลกแล้ว
ขึ้นระดับ “เวิลด์คลาส” อย่างเต็มตัว .. การทำงานของ “ผู้ว่าฯหนึ่ง”ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในฐานะนาย ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย (ผบ.ศอร.) .. นอกเหนือจากเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญจากชาวไทยด้วยกันแล้ว ยังมีเสียงชื่นชมจากต่างประเทศมาการันตีอีกเสียง .. เมื่อ “สถานีโทรทัศน์ ABC”ของสหรัฐฯ ทำสกู๊ปเจาะลึกการทำงานของ “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” ในปฏิบัติการช่วยเหลือ “ทีมหมูป่า 13 ชีวิต” ที่ถ้ำหลวง .. ช่วงหนึ่งเป็นการสัมภาษณ์ “พลเรือโท โรเบิร์ต ฮาเวิร์ด” อดีตหน่วยซีลของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่เปรียบภารกิจครั้งนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า “การวางแผนเดินทางไปดวงจันทร์”เลยทีเดียว .. แล้วยังกล่าวถึง “ภาวะผู้นำ”ของ “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” ที่ควบคุมสถานการณ์ในภาวะเร่งรีบ-บีบคั้น และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้อย่างหมดจด .. รวมทั้งมีความเป็น “มืออาชีพ”มากๆ กับการใช้ทรัพยากร-ประชาคมนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ..
ขณะเดียวกัน The Sydney Morning Herald หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลีย ก็ติดตามการทำงานของ “ผู้ว่าฯหนึ่ง”เช่นกัน .. หากแต่ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” ที่ในบทความแทนว่า “hero of the Thai” ที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับเช่นนี้ ถึงถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งที่ประจำอยู่ .. โดยระบุว่า เป็นความขัดแย้งโดยตรงกับผู้บังคับบัญชาอย่าง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ทำให้ต้องถูกย้ายจาก จ.เชียงราย ไปเป็น “พ่อเมืองพะเยา” จังหวัดที่เล็กกว่า .. ด้วย “ผู้ว่าฯหนึ่ง” ไป “เปิดแผล” เกี่ยวกับการใช้งบประมาณที่ผิดปกติของท้องถิ่น จ.เชียงราย รมว.มหาดไทย จึงเสนอให้ ครม. ลงมติ “เด้ง”ออกจากตำแหน่งดังกล่าว .. น่าเสียดายที่ “สื่อนอก”ยังไม่ได้เจาะลึกลงไปที่ “ขุมทรัพย์ขยะ” มูลค่าหลายพันล้านของ จ.เชียงราย ที่น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้เก้าอี้ผู้ว่าฯเชียงราย “ณรงค์ศักดิ์” ปลิดปลิวในพริบตา .. แต่อย่างน้อย บทความของ The Sydney Morning Herald ก็ประจานระบบราชการของไทย ที่ “คนดีมีความสามารถ” ยังไม่มีที่ยืน .. แล้วยังระบุถึง “บิ๊กป๊อก” ด้วยว่าเป็น “ผู้ทรงอิทธิพลของ คสช.” ส่งผลให้ คสช. ต้องขายขี้หน้าไปทั้งโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
**มะเร็งร้ายท่องเที่ยวไทย!! “ป๋าป้อม”พูดตรงไปหน่อย “จีนทำร้ายกันเอง”จนดราม่าสนั่นโซเชียลแดนมังกร เหตุรับความจริงที่โหดร้ายไม่ได้ พลิกปูมปราบ “แก๊งศูนย์เหรียญ” ไม่สิ้นซาก “นักการเมือง-คนมีสี” มีเอี่ยว ลือกระฉ่อน “นายพลคนดัง”สะดุด “ถุงขนม” หนัก “300 กิโลฯ”จนมวยล้มกลางคัน แล้ว “แก๊งเดิม”ก็หวนมาสวมตอ ขยายพันธุ์มะเร็งร้ายไว้จนเกิดเหตุสลด
ขอโทษแทบไม่ทัน .. จู่ๆ “ป๋าป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯก็เลยกลายเป็น “ตำบลกระสุนตก” เจอ “โซเชียลจีน” ถล่มซะเละ .. หลังให้ความเห็นเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเรือล่มกลางทะเลภูเก็ต จน “ลูกทัวร์” จากแดนมังกรเสียชีวิตไปหลายสิบ .. เป็นความเห็นในทำนองว่า งานนี้ “พี่จีน”ทำร้ายกันเอง ด้วย “บริษัทนอมินีทุนจีน”ห่วงแต่ “เซ็งลี้ฮ้อ” พาพี่น้องจากแผ่นดินใหญ่ไปเสี่ยงภัย ไม่สนคำเตือนจากทางการไทย .. แม้สิ่งที่ “พี่ใหญ่” พูดจะเป็น “ข้อเท็จจริง” แต่ก็เป็น “เรื่องจริงที่โหดร้าย”สะท้อนว่า “จีนทำร้ายจีน”กันเอง .. ยิ่งออกมาจากปาก “คนสำคัญ”ของรัฐบาลไทยก็เลยเกิดเป็น “ดราม่า” ขึ้นมาขนานใหญ่ .. และแม้ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทางการไทยต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ต้อง “ตำหนิ” ให้ถูกจุด .. สิ่งที่ควรตำหนิ และไล่เบี้ยกันจริงๆ คือ “อะไร” หรือ “ใคร” ที่ปล่อยให้ “แก๊งทัวร์ศูนย์เหรียญ” ยังเพ่นพ่านอยู่ได้ในแผ่นดินไทยมากกว่า .. หลัง “รัฐบาล คสช.” ไล่กวาดล้างกับแบบถอนราก ถอนโคน ไปแล้วเมื่อ 2-3 ปีก่อน .. อีกทั้งยังเป็น “วาระแห่งชาติ”ที่ "สี จิ้น ผิง" ประธานาธิบดีจีน ถึงขนาดเอ่ยปากฝากให้ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กวาดล้างให้สิ้นซาก .. แต่วันนั้นแค่เป็นไปในลักษณะ “ต้มตุ๋น-หลอกลวง”แล้วมีคนไปร้องเรียนกับทางการจีน มาวันนี้เสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้ ที่ทำให้กว่า 50 ชีวิต ต้องมาสิ้นชื่อที่กลางทะเลอันดามัน ..
ที่สำคัญขบวนการ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" สร้างความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวไทย และพ่อค้าแม่ขายชาวไทย มาเป็นเวลานาน .. เป็นกลเกมที่ “นายทุน”กินรวบ ตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำ ทั้ง ร้านค้า สถานบันเทิง ร้านจิวเวลรี่ ของที่ระลึก รถบัส เรือท่องเที่ยว .. เรียกว่า ฝ่าฝืนกฎหมายไทยไม่รู้กี่ฉบับ กระทั่งความผิดร้ายแรงอย่าง “ฟอกเงิน” .. เป็นกลเกมที่เดินผ่าน “นอมินีคนไทย” แล้วยังหนักข้อถึงขนาดส่ง “นอมินีต่างด้าว”มาสวมบัตรประชาชนคนตายก็มี โดยมีข้อมูลตรงกันว่า “นายทุนใหญ่”เป็น “คนจีน” ทุกเครือข่าย .. ข้อมูลเหล่านี้เชื่อว่า “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ท่องเที่ยว ที่โดดลงมารับผิดชอบเต็มตัวมีหมดแล้ว .. โดยที่ผ่านมา “เครือข่ายศูนย์เหรียญ” ที่ใหญ่ที่สุดหนีไม่พ้น “ทรานลี ทราเวล”และ “ฝูอัน ทราเวล” ซึ่งสองเครือข่ายที่ว่านั้น ถูกตีแตกไปเมื่อครั้งการปราบปรามใหญ่ .. แต่ก็ยังมี “แก๊งศูนย์เหรียญ” อีกหลายเครือข่าย ที่ “นักการเมือง -คนมีสี” หนุนหลังอยู่ ยังไม่ถูกตรวจสอบ ก็เลยไม่ถูกตรวจสอบอย่างจริงจัง เข้าทำนอง “ลูบหน้าปะจมูก” ..หรือบางแห่งถูกตรวจสอบแล้วกลับหลุดคดีอย่างค้านสายตา อย่างกรณี “บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติไทย”ที่ทำเอา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร้อนเป็นไฟมาแล้ว .. ท่ามกลางกระแสข่าว “นายพลคนดัง”ไปสะดุด “ถุงขนม”ที่น้ำหนักถึง “300 กิโลฯ” จนเป็นเหตุให้ “มวยล้ม”ไปเฉยๆ .. เครือข่ายที่เหลือรอดนี่แหละ ที่มา “สวมตอ”ขยายพันธุ์ “มะเร็งร้าย”อย่าง “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”จนเกิดโศกนาฏกรรมอย่างที่เห็น.
**ซ่าจนหยดสุดท้าย!! “ดราม่าสื่อถ้ำหลวง”เจอโซเชียลถล่มไม่ยั้ง “สำนักข่าว”แถลงการณ์ขออภัย แต่ “บก.ข่าวเวิร์คพอยท์” ตะแบง ศอร.ใช้งบฯจากภาษีประชาชน ต้องเปิดเผยข้อมูลได้ ขนาด“สื่อด้วยกัน”ยังส่ายหัว เจอขุดอดีต เปิดมาแค่ 2 ปี ผิดมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แถมขอโทษเก่ง แต่ไม่เคยปรับปรุงตัว
สะบักสะบอมพอสมควร .. กับภารกิจติดตามเสนอข่าวการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า จากถ้ำหลวงฯ ของ “สื่อมวลชน”ที่ตั้งแต่วันแรกจนภารกิจลุล่วง ก็มีประเด็นให้ “ดราม่า”กันตลอด ..ที่นำพาไปสู่การทบทวนบทบาทของสื่อมวลชนไทยกันจ้าละหวั่น และเสมือนกวักมือเรียก "กฎหมายคุมสื่อ" ที่ขณะนี้ถูกเก็บใส่ลิ้นชักไว้ชั่วคราวให้กลับมาอีกครั้ง .. ที่พีคสุดๆ คงเป็นวันที่ช่วยน้องๆ ชุดแรกออกมา 4 คน ที่หลายสำนักเกิดอาการ “หิวข่าว” จนละเมิด “คำร้องขอ”ของ “ทางการ” ในหลายกรณี .. ทั้งการเปิดภาพ และชื่อของน้องๆ ชุดแรก การใช้โดรนในขณะที่ ฮ.กำลังจะบินขึ้น หรือการเผยแพร่เสียงที่เชื่อว่า มาจากวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่กู้ภัย .. กลายเป็นการ “เปิดชายโครง”ให้สังคมโซเชียลไทย ที่กระหาย “ดราม่า”อยู่เป็นทุน กระหน่ำหมัดกันอย่างไม่ยั้ง .. ซึ่งทุกเสียงจากทั้งคนภายนอก หรือกระทั่งสื่อด้วยกัน ก็มองว่า 3 ประเด็นที่ว่าไปนั้น “ล้ำเส้น”เกินไปจริงๆ .. จนมีการออกแถลงการณ์ “ขออภัย” จาก “สำนักข่าว” ที่ถูกระบุว่าเป็น “ผู้ร้าย”ออกมาในลักษณะ “ยอมรับความผิด”ไปแล้ว ..
และในขณะที่ใครต่อใครกำลังคิดว่า “สำนักข่าวต่างๆ” ที่ถูก “เหมารวม”ไปด้วย จะใช้ “วิกฤติ”หนนี้ เป็น “โอกาส” ในการเรียนรู้แก้ไขต่อไป .. แต่กลับมีความย้อนแย้งเกิดขึ้นจากทาง “สำนักข่าวเวิร์คพอยท์” ที่เป็นผู้เผยแพร่เสียงวิทยุสื่อสาร .. เพราะในขณะที่มีการออกแถลงการณ์ “สั้นๆ”ยอมรับความผิด ว่ากระทำการไม่เหมาะสม และจะระมัดระวังไปแล้ว .. แต่อีกทาง ฤทธิชัย ชูวงษ์ บรรณาธิการข่าวเวิร์คพอยท์ กลับเคลื่อนไหวในลักษณะ “ยังไม่ยอมรับ” .. ไม่ว่าจะเป็นการชี้แจงข้อกล่าวหา “ดักฟังวิทยุราชการ” ไปถึง บรรยงค์ สุวรรณผ่อง ประธานคณะกรรมการจริยธรรมวิชาชีพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แท้ๆ .. แต่บางช่วงบางตอนกลับระบุว่า “ท่าน” เขียนบทความที่มีโอกาส “หมิ่นเหม่”หรืออาจผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ .. ไม่เท่านั้นยัง “ยอกย้อน”ไปถึง ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) อีกด้วย .. ว่าได้ให้ความร่วมมือตลอด แต่ตามหลักการ ไม่ได้หมายความว่า สื่อต้องปฏิบัติตามคำสั่งของ ศอร.ทั้งหมด เพราะ ศอร.ใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน ประชาชนย่อมมีสิทธิ์รับรู้ข้อมูลข่าวสารให้มากที่สุด .. เป็นถ้อยคำ “ตะแบง”อย่างเหลือเชื่อ ที่กระทั่ง “สื่อด้วยกัน” ยังส่ายหัวกับ “ความซ่า”ของ “บก.สำนักข่าวน้องใหม่” แห่งนี้ .. ที่ผ่านมา สำนักข่าวแห่งนี้ได้รับการพูดถึงในแง่ “สำนักข่าวน้องใหม่” ที่ “ขอโทษเก่ง”เหลือเกิน แต่ไม่เคยปรับปรุง .. จนเจอขุดอดีตที่พลาดพลั้ง ทั้งการเสนอราคายางพารา ที่ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย หรืออย่างล่าสุด ตัดต่อความคิดเห็น กรณี Sex toy ในประเทศไทยแค่บางช่วง จนผู้พูดถูกถล่มจมดิน เป็นต้น .. ทุกครั้ง “สำนักข่าวเวิร์คพอยท์” ก็ต้องออกมาขออภัย แต่ก็จนแล้วจนรอด ก็ผิดพลาดซ้ำ แล้วซ้ำเล่า .. มาถึง “ดราม่าสื่อถ้ำหลวง”ที่ร้อนแรงสุดๆ ก็ยัง “ซ่าจนหยดสุดท้าย”นับถือใจจริงๆ
ช.ชฎา