ข่าวปนคน คนปนข่าว
** เส้นใหญ่ซะอย่าง!! “หจก.ลูกบิ๊กติ๊ก”ไร้ประสบการณ์ใช่ปัญหา หอบทุนจดทะเบียน 1.5 ล้าน ปาดหน้า บ.ทุนจดฯ 75 ล้าน คว้างาน “รพ.ร้อยเอ็ด-รพ.ตาก”ร้อยกว่าล้าน แต่ได้งานแล้วไม่มีปัญญาทำ ต้องโร่ไป “จ้างเหมาช่วง”ให้บริษัทอื่นมาทำแทน แค่ 3 โปรเจกต์ ฟาด “หัวคิว” เหนาะๆ 50 ล้านบาท กินนิ่มแบบนี้ สตง.น่าจะแวะไปดูซักหน่อยนะ
ชั่วโมงทำกิน วันนี้ขอเสนอ .. ธุรกิจ “เสือนอนกิน”ที่ “แบ๊ก” ไม่ “หนา”จริงทำไม่ได้ เป็นเรื่องราวของ “SMEs ดีเด่น” อย่าง “ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเทมโพรารี่ คอนสตรัคชั่น” แห่งเมืองสองแคว จ.พิษณุโลก .. หรือเจ้าของตำนาน “สตาร์ทอัพ ลายพราง”จดทะเบียนที่ตั้งบริษัทใน “ค่ายทหาร”และรับงานก่อสร้างของกองทัพภาคที่ 3 ครบวงจร .. เป็น “หจก.คอนเทมโพรารี่”ที่มี “ลูกแม่ผ่อง”ปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชายคนโต “บิ๊กติ๊ก”พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหุ้นส่วนใหญ่ .. ที่ยังมีชนักปักหลังถูกสอบความผิดปกติ กรณีรับงานของหน่วยงานรัฐหลายแห่ง มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ “ไร้ประสบการณ์” อยู่ในชั้น ป.ป.ช. ที่ค้างเติ่งมานานร่วม 2 ปีแล้ว .. โดยเฉพาะ 9 สัญญา วงเงิน 107 ล้านบาท ที่เป็นคู่สัญญากับ “กองทัพภาคที่ 3”ในช่วงที่ “พ่อติ๊ก”นั่งเป็น “แม่ทัพ 3”อยู่ เข้าข่าย “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ชัดเจน .. แถมแต่ละโครงการมีกลิ่นทะแม่งๆ ใช้ “คู่เทียบหน้าเดิมๆ” ที่นำมาสู่การยื่น “ราคารู้กัน”เฉือนกันแค่ 1-2 หมื่นบาท ส่อผิด “พ.ร.บ.ฮั้ว” อีกต่างหาก .. กิจการ “บริษัทหลานนายกฯ” ยังอยู่ในช่วง “ขาขึ้น”มาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2557 ที่ “พี่ชายของคุณพ่อ” เข้ามาทำรัฐประหารสำเร็จ .. ตามที่เคยรายงานไปแล้วว่า นอกจากรับเหมางานของ “ทัพภาค 3” แล้วก็ยังแตกไลน์ไปคว้างานก่อสร้างให้ “หน่วยงานรัฐ” หลายแห่ง วงเงินเป็นร้อยๆ ล้านบาท .. บางโครงการทำสะเทือนเลื่อนลั่นทั้งวงการ เมื่อ “หจก.ลูกแม่อู๊ด” ทุนจดทะเบียนแค่ 1.5 ล้านบาท โค่นยักษ์ใหญ่วงการรับเหมาได้หน้าตาเฉย ..
อย่างงานก่อสร้างอาคารพักแพทย์ 88 ยูนิต ของโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ราคากลาง 70 ล้านบาท ก็เอาชนะคู่แข่งที่ทุนจดทะเบียน 75 ล้านบาท หรือ 45 ล้านบาท ไปแบบสบายๆ .. ที่แสบกว่านั้น หลังคว้างานประมูลได้ในสนนราคา 64 ล้านบาท ก็ “เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่”ไปจ้าง “บริษัทอื่น” มาทำงานแทน “เกือบทั้งหมด”ในราคาเพียง 46 ล้านบาท ฟาดกำไรไปเหนาะๆ เกือบ 20 ล้านบาท .. ไม่ใช่แค่งานเดียวด้วยนะ ยังมีงานก่อสร้างอาคารพักแพทย์ 88 ยูนิต โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก งบประมาณ-สเกลงาน ประมาณ 70 ล้านบาทเช่นเดียวกัน .. งานนี้ “หจก.คอนเทมโพรารี่ฯ” ชนะประมูลต่ำกว่าราคากลาง แค่ 6 หมื่นบาท ก่อนไปจ้าง “บริษัทเดิม” มาทำงานแทนในสนนราคาเดียวกันเป๊ะ 46 ล้านบาทเศษ ฟาดส่วนต่างไปมากกว่า 20 ล้านบาท .. เช่นเดียวกับงานก่อสร้างสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ เขต 1 ที่ประมูลมาได้ในวงเงิน 9.5 ล้านบาทเศษ ก่อนโยนให้ “บริษัทเดิม” ที่ราคา 6.5 ล้านบาท .. แค่ 3 โปรเจกต์ที่ว่าไป ก็ฟาด “เงินกินเปล่า” ไปเหนาะๆ แล้ว 50 ล้านบาท ซึ่งรูปแบบนี้ ภาษาในวงการเรียก “จ้างเหมาช่วง” ที่เป็นเรื่องปกติในวงการรับเหมาก่อสร้าง .. หากแต่สำหรับ “งานราชการ”ส่วนใหญ่จะมีข้อยกเว้นของการ “จ้างช่วง” ว่าได้แค่ “บางส่วน” ไม่ใช่ “ทั้งหมด” หรือ “ส่วนใหญ่”อย่างที่ “หจก.ลูกบิ๊กติ๊ก”ทำ .. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบบที่ไปจ้างเหมาะทั้งโครงการ แล้วดั๊มพ์ราคาลงได้มากมายก่ายกองถึง 30% เช่นนี้ สะท้อนว่า “ราคากลาง”ถูก “ตีโป่ง”ให้สูงกว่าเนื้องานจริงหรือไม่ .. งานนี้คงต้องวาน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ลงไปตรวจสอบซักหน่อยแล้ว
**ซุกขยะใต้พรม!! ครึ่งร้อยชีวิตทิ้งกลางอันดามัน ประจาน “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”คืนชีพ ทั้งที่เพิ่งปราบกันจริงจังเมื่อ 2-3 ปีก่อน ไล่ชื่อ “ขบวนการ”หน้าเดิมๆ โยง “แก๊ง “ทรานลี่ ทราเวล” ทั้งนั้น งานนี้ถึงมือ “บิ๊กโจ๊ก”ตำรวจดังแห่งยุค คงไม่ปล่อย “ลูบหน้าปะจมูก”หรือ “มวยล้ม”เหมือนครั้งที่แล้วแน่นอน
ประเมินค่าไม่ได้ .. ความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมเรือท่องเที่ยว “ฟีนิกซ์”และเรือยอชต์ “เซเรนาต้า”เจอคลื่นซัดจนอับปางกลางทะเล จ.ภูเก็ต .. นอกเหนือจากชีวิตของ “ลูกทัวร์จีน” ที่ต้องมาทิ้งกลางทะเลอันดามันเกือบครึ่งร้อยชีวิต .. แล้วยังส่งผลกระทบต่อ “ธุรกิจท่องเที่ยวไทย”อย่างย่อยยับด้วย .. ด้วยโศกนาฏกรรมดังกล่าว เป็นเครื่องสะท้อนว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”ยังไม่หมดไปจากแผ่นดินไทย และยังคงหยั่งรากฝังลึก ผ่านการปรับรูปแบบมาตลอด .. ทั้งที่ “รัฐบาล คสช.” เคยยกให้เรื่องนี้เป็น “วาระแห่งชาติ”มีการดำเนินคดีอย่าง “ถอนรากถอนโคน” จนซาๆ กันไปพักใหญ่ .. ก่อนกลับมาหลอกหลอนด้วยอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ครั้งนี้ .. โดยทุกเสียงต่างพูดตรงกันว่า เหตุที่เรือล่ม เพราะ “บริษัททัวร์”ฝ่าฝืนคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา และตำรวจท่องเที่ยว และนำเรือออกจากฝั่ง .. หลังเกิดเหตุมีการระบุว่า “บริษัททัวร์” ที่ว่า เป็น “นอมินีทุนจีน”รับจัดกรุ๊ปทัวร์ราคาถูก หรือที่เรียกกันว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”นั่นเอง ..
โดยมีรายงานระบุว่า เจ้าของเรือฟีนิกซ์ คือ “บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด”ก่อตั้งปี 2559 มี “คนไทย” ถือหุ้น 100% .. ขณะที่เจ้าของเรือเซเรนาต้า คือ “บริษัท เลซี่ แคท ทราเวล จำกัด” ก่อตั้งปี 2557 มี “คนไทย” ถือหุ้น 75% ที่เหลือ 25% เป็น “คนจีน” .. ซึ่งก็เป็น “เทคนิคเลี่ยงกฎหมายไทย” อันเป็นผลพวงจากการปราบปราม “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”อย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2558 ทำให้ “นายทุน”ไม่สามารถเข้ามาถือครองกิจการในประเทศไทยได้ด้วยตนเอง .. “บริษัททัวร์” สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการไทย พ่อค้าแม่ขายชาวไทย เอาเปรียบนักท่องเที่ยว มาเป็นระยะเวลานาน หากไม่เกิดเหตุการณ์สลดครั้งนี้ ทุกอย่างก็เหมือน “ซุกไว้ใต้พรม” .. แม้จะใช้เทคนิคเหนือชั้นเพียงใด แต่ “พฤติการณ์”มันปิดกันไม่มิด ใครหน้าไหนเป็น “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ดูไม่ยาก หาก “เจ้าหน้าที่ไทย-คนไทย”ไม่รู้เห็นเป็นใจด้วย ก็คงกลับมา “คืนชีพ”ไม่ได้ .. ใช้เวลาไม่นาน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช. ท่องเที่ยว ก็สามารถสรุป “ขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ”ออกมาได้เป็นฉากๆ .. “บิ๊กโจ๊ก” บอกด้วยว่า “ถ้าไม่มีคนไทยรับเป็นเจ้าของบริษัท คนต่างประเทศก็เข้ามาทำอะไรไม่ได้ จึงต้องดำเนินคดีกับคนไทยทั้งหมดที่ทำอย่างนี้ .. ส่วนรายชื่อ “นายทุน” ทางตำรวจมีข้อมูลหมดแล้ว โดยเป็น “กลุ่มเดิมๆ” ที่หากินในแถบทะเลอันดามัน ที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญและมีชื่อเสียงของไทย.. ที่ไล่เบี้ยไม่ยาก เพราะเครือข่ายเหล่านี้ เป็นเครือข่ายเดิมๆ ของ “ทรานลี่ ทราเวล”ที่ถูกปราบหนักเมื่อปี 2559 จน “นายทุนจีน”หลายรายต้องหนีออกนอกประเทศ หัวซุก หัวซุน .. หากแต่เกิด “สะดุด” เล็กน้อย ตามข่าวว่า “นายพลดัง”ไปสะดุด “ถุงขนม”เข้าให้ จนทำให้ไม่มีการ “ขยายผล”แบบ “ถอนรากถอนโคน” ..งานนี้ระดับ “บิ๊กโจ๊ก” คงไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ “ลูบหน้าปะจมูก” หรือ “มวยล้ม” เหมือนครั้งที่แล้วแน่นอน.
**ผีไร้ญาติ-ศพไร้หัว!! “ธรรมกาย”ขอเกาะกระแส “ครูบาบุญชุ่ม”โยงอดีต "พระครูบา”รับเป็นศิษย์ “ธัมมชโย" เจอ “ศิษย์เอก”ตอกหน้าหงาย ไม่เคยแม้แต่เอ่ยถึง “ธรรมกาย-ธัมมชโย”โทรโข่งจานบิน “พระสนิทวงศ์”อาการหนัก โหน “โค้ชเอก”เคยบวชในโครงการธรรมทายาท จนได้วิชาเอาตัวรอดในถ้ำ หวังโปรโมตโครงการบวชเข้าพรรษา
โหนกันสนั่นหวั่นไหน .. “กระแส”จากภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย .. ซึ่งทำให้ชื่อของ “เกจิแห่งล้านนา” พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น .. เมื่อ “ครูบาบุญชุ่ม”เดินทางมาทำพิธีให้กำลังใจ ทีมหมูป่า ที่บริเวณถ้ำหลวงไม่นาน ประจวบกับที่ทีมกู้ภัยเข้าไปพบเด็ก และโค้ช ทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ สร้างความฮือฮาให้กับคนทั้งประเทศ .. หลังจากชื่อของ “พระครูบา”โด่งดังมาในชั่วพริบตา ความศรัทธาจากลูกศิษย์ลูกหา ก็เพิ่มเป็นทวีคูณ .. แฟนเพจที่ลูกศิษย์ทำไว้ จากยอดไลค์หลักร้อย ก็พุ่งไปถึงหลักหมื่น หรือเหรียญบูชาต่างๆ ก็ขยับราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว .. กระทั่ง “ลัทธิจานบิน”วัดพระธรรมกาย ที่ใหญ่คับประเทศ ก็ยังอดไม่ไหว ขอ “โหนกระแส” ไปกับเขาด้วย .. เมื่อเพจ “พิทักษ์หลวงพ่อด้วยชีวิต”ที่เป็น “เพจติ่งธรรมกายตัวพ่อ”งัดเอาเรื่องราวที่ “เขียนเอง เออเอง”ขึ้นมารีรันใหม่ .. เป็นเหตุการณ์เมื่อครั้ง “แอดมินเพจ”เดินทางไปนมัสการ “พระครูบา”ถึง อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า .. ก่อนนำมาเขียนเป็นตุ เป็นตะ ในเวบไซต์ตัวเองว่า “ท่าน (ครูบาบุญชุ่ม) ศรัทธาหลวงพ่อธัมมชโย ยกให้หลวงพ่อฯ เป็นอาจารย์ และแทนตัวเองว่าเป็นลูกศิษย์” ..
จากที่เคยโพสต์ปั่นหัว “ติ่งธรรมกาย”สำเร็จอย่างเงียบๆ พอเอามารีรันใหม่ ในยามที่ชื่อ “ครูบา”ดังกระหึ่ม .. ก็ “โป๊ะแตก”ขึ้นมาจนได้ เมื่อศิษย์ผู้ใกล้ชิด “พระครูบา” นาม “กีฎะ อนุราธ”ที่ติดตามพระอาจารย์มาตั้งแต่ ปี 2535 ยืนยันว่า ไม่เคยได้ยินพระอาจารย์พูดถึง “ธรรมกาย-ธัมมชโย” แม้แต่น้อย .. ลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาส “มโน”ไม่เท่าไร ยังมี “โทรโข่งธรรมกาย”พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ก็มามุกเดียวกันเป๊ะ .. ไม่เพียงแต่แชร์ข่าวที่เกี่ยวกับ “ครูบา” แบบรัวๆ แล้ว ยังโยงไปถึง “โค้ชเอก”เอกพล จันทะวงษ์ ที่ติดในถ้ำพร้อมเด็กๆ อีก 12 คน .. ด้วยว่า "โค้ชเอก" เคยบวชใน “โครงการธรรมทายาท”และศึกษาธรรมะ นานถึง 8 ปี จนมีสติในการดูแล “ลูกทีมหมูป่า”ให้ทำสมาธิจนเอาชีวิตรอดภายในถ้ำเกือบ 10 วัน เต็มๆได้ .. แล้วยังทิ้งท้ายแบบ “ฮาร์ดเซล”ด้วยว่า “โอ้ววว..บวชแล้วได้วิชาเอาชีวิตรอด เพราะสติ สมาธิ ปัญญา เลย เจ๋งอ่ะ # เข้าพรรษานี้ ไปบวชกัน” .. ไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ ที่ “ลัทธิธรรมกาย” มักเกาะกระแสคนดัง ยิ่งในยามไม่มี “พระเดชพระคุณหลงพ่อ” ที่ไม่รู้ไปเป็น “สัมภเวสี”ที่ไหน สภาพ “ลัทธิจานบิน”ก็ไม่ต่างกับ “ผีไร้ญาติ -ศพไร้หัว” ตีปิ๊บโปรเจกต์ ดูดเงินสาวกไม่ค่อยจะขึ้น .. ยามนี้มีอะไรเกาะได้ ก็เกาะ มโนปั้นน้ำเป็นตัวตามถนัด แล้วเขียนเป็นนิยาย ปั่นหัวสาวกแก้ขัดไปก่อน
ช.ชฎา