พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ เปิดโครงการ ก.ศึกษาฯส่วนหน้าเคลื่อนที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พบประชาชน โชว์ผลงานเด็กเก่งยะหริ่ง ทั้งเด่น-ดี-มีประโยชน์
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เป็นประธานพิธีเปิดโครงการกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้าเคลื่อนที่จังหวัดปัตตานี ครั้งที่ 4/2561 ภายใต้แนวคิด กิจกรรมกระทรวงศึกษาธิการเคลื่อนที่พบประชาชน อำเภอยะหริ่ง เพื่อเผยแพร่ผลงานการศึกษา “เด่น ดี มีประโยชน์” สู่ประชาชน พร้อมขยายผลเพื่อยกระดับการจัดการศึกษาในพื้นที่ระดับอำเภอ เมื่อวันพุธที่ 4 กรกฎาคม 2561 ณ โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกมิติ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และศาสตร์พระราชา หลักการทรงงานข้อ 23 “รู้ รัก สามัคคี” เป็นหลักคิดในการพัฒนางานในระดับชุมชน อำเภอ และพื้นที่ให้ดีขึ้นในหลายส่วน อาทิ การยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ทัดเทียมกับภูมิภาคอื่น และมีมาตรฐานตามเกณฑ์ระดับประเทศ, การสร้างการรับรู้และถ่ายทอดผลสำเร็จของการจัดการศึกษาอย่างกว้างขวางมากขึ้น, การดูแล ป้องกัน และรักษาสุขภาพอนามัยของเด็กเยาวชน พ่อแม่ผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชน ให้มีสุขภาวะที่ดี ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขอย่างยั่งยืน
สำหรับการจัดโครงการกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้าเคลื่อนที่จังหวัดปัตตานี ครั้งที่ 4/2561 ภายใต้แนวคิดกิจกรรมกระทรวงศึกษาธิการเคลื่อนที่พบประชาชน อำเภอยะหริ่ง เพื่อเผยแพร่ผลงานการจัดการศึกษา “เด่น ดี มีประโยชน์” เพื่อสร้างการรับรู้แก่นักเรียนนักศึกษาและประชาชนในพื้นที่ 12 อำเภอของจังหวัดปัตตานี พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางการจัดการศึกษาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำมาบูรณาการและยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความมุ่งหวังของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษา มีแหล่งเรียนรู้ อยู่ร่วมกันตามอัตลักษณ์และวิถีชีวิตท้องถิ่น ด้วยการรู้รักสามัคคีและเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยมีผลความสำเร็จด้านการศึกษาเรียนรู้ที่น่าสนใจในหลายส่วน อาทิ
- กิจกรรมเกษตรสานฝัน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และรางวัลด้านการกีฬา ในโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ อาทิ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ประเภทวอลเลย์บอลชาย ในการแข่งขันกีฬา-กรีฑา นักเรียนนักศึกษาจังหวัดปัตตานี ประจำปี 2560, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รายการ ADUL Sport ฟุตบอลหญ้าเทียม 7 คน อายุไม่เกิน 13 ปี เป็นต้น
- โครงการสถานศึกษาพอเพียง เพื่ออาหารกลางวัน ของโรงเรียนบ้านมะปริง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ซึ่งได้รับรางวัล Best Practice เศรษฐกิจพอเพียงระดับประเทศ ปี 2559 “หลักปฏิบัติ สู่อัตลักษณ์ รักความพอเพียง”
- ศิลปะการป้องกันตัว “เทควันโด” ของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอยะหริ่ง
- นิทรรศการถ่ายทอดความรู้ “มหัศจรรย์สมุนไพรใบขลู่” ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
- การจัดระบบช่วยเหลือผู้พิการเพื่อเข้ารับการศึกษา ของศูนย์บริการช่วยเหลือระยะเริ่มแรกและเตรียมความพร้อมคนพิการ ของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดปัตตานี
- กิจกรรมส่งเสริมการอ่านของเด็ก เยาวชน และประชาชน ด้วยแนวคิด “สร้างสังคมการอ่าน หว่านเมล็ดพันธุ์การเรียนรู้สู่การพัฒนาตลอดชีวิต” ของห้องสมุดประชาชนอำเภอยะหริ่ง
- หลักสูตรฝึกอาชีพ 108 อาชีพ ของวิทยาลัยเทคโนโลยีการเกษตรและประมงปัตตานี
- โครงการปลูกผักในโรงเรียนเพื่ออาหารกลางวัน ของสำนักงานเกษตรอำเภอยะหริ่ง
- โครงการร่วม 3 ฝ่าย “เกศาสานใจ สระไดร์ไร้เหาเพื่อน้อง” ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42
- อุทยานการเรียนรู้ปัตตานี (TK park Pattani) แหล่งเรียนรู้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โชว์อัตลักษณ์ท้องถิ่น “ตัวเรือกอและ-รังผึ้ง” สะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม ผ่านกิจกรรมก้าวแรกทางความคิด “จินตนาการไม่รู้จบ” ด้วยกิจกรรมอ่านหนังสือ เล่นดนตรี การเรียนรู้ และสื่อมัลติมีเดีย
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องของการศึกษาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก ทั้งต่อตัวนักเรียนเอง ที่จะต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่อให้มีความรู้ มีทักษะและมีความสามารถอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา ศิลปวัฒนธรรม หรือแม้แต่ด้านวิชาการต่างๆ และต้องตั้งความหวังที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต มีงานมีอาชีพเลี้ยงดูตัวเอง เป็นที่พึ่งพาแก่ครอบครัว ชุมชน สังคม และเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและมีคุณธรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ส่วนการจัดการศึกษาของหน่วยงานทางการศึกษาและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ถือแนวทางการทำงานแบบประชารัฐอย่างเข้มแข็ง เพื่อร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมให้การสนับสนุนการจัดการศึกษาของเด็กเยาวชน เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในภายภาคหน้า และกลับมาช่วยพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นบ้านเกิดในทุกมิติ