นายกฯ กินข้าวร่วมเด็กนักเรียน สอนเด็กรับอะไรมาต้องไม่ผิด กม. ฝากบอกพ่อแม่ให้ไปเลือกตั้ง ปัดสืบทอดอำนาจ ปล่อยมุกไร้คู่แข่งดีใจไม่มีเด็กอยากเป็นนายกฯ โต้ไทยนิยมเทงบฯ เพื่อเล่นการเมือง แนะยึดเบญจศีล เบญจธรรม เพื่อสังคมสงบสุข ด้าน “ณัฏฐพล” ดอดรับ
วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์จาก จ.ชลบุรี มายัง จ.ระยอง และเดินทางต่อโดยรถตู้โฟสก์ทะเบียน 3 กฒ 2961 กรุงเทพมหานคร ไปยังโรงเรียนวัดเกาะ ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต อาหารกลางวันนักเรียน และการจัดการศึกษา เพื่อเตรียมเข้าสู่โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา โดยมีข้าราชการ 200 คนมาต้อนรับ และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตผอ.พรรคประชาธิปัตย์ และประธานสโมสรบางกอกเอฟซี และภริยา นางทยา ทีปสุวรรณ ในฐานะภาคเอกชนที่มาสนับสนุนโครงการ ร่วมต้อนรับนายกฯด้วย
ทั้งนี้ ทันทีที่นายกฯ เดินทางถึงได้ทักทายและพูดคุยข้าราชการที่มาต้อนรับว่า เราทุกคนต้องช่วยกันขับเคลื่อน ไม่ใช่ตนคนเดียว เกษตร อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม ต้องเดินหน้า อย่างราคาพืชผลการเกษตร เช่น สับปะรด เวลานี้รัฐบาลก็ต้องอุ้ม นี้คือที่มาของการใช้งบประมาณที่ผ่านมา และไม่ใช่ปีนี้ไม่ใช่หยุดประท้วง แต่ต้องไม่มีการประท้วงอีกต่อไปในเรื่องของปัญหาราคาพืชผลการเกษตร ทุกจังหวัดทุกพื้นที่ต้องมีเกษตรและอุตสาหกรรมเพื่อที่มีรายได้ 2 ทาง ถ้าฝากไว้ที่เกษตรกรรมอย่างเดียวจะเป็นแบบเดิม เรื่องการเกษตรต้องแก้ที่สหกรณ์ที่มีหลายประเภท แต่ทุกคนมุ่งแต่ออมทรัพย์อย่างเดียวไม่ได้ รัฐบาลคิดใหม่ให้ทั้งหมดต้องช่วยกัน ทั้งข้าราชการท้องถิ่นและครู
สิ่งที่สำคัญสุด คือ โครงการไทยนิยมที่ลงไป เป็นการให้ทุกคนคิดไม่ใช่เอาเงินไปเล่นการเมือง แต่ก่อนมี ส.ส.ลงพื้นที่ แต่วันนี้ลงไปทุกกระทรวง ลงไปในพื้นที่บอกเขาว่าจะทำอะไรต่อไป ไม่ใช่มายื่นแต่ละพวก แต่ละกลุ่ม แต่ต้องทำด้วยกันตามแผนปฏิรูปเพื่อความยั่งยืน ถ้าทำแบบเดิมก็จะกลับไปที่เก่า
ส่วนเรื่องการศึกษาเราไม่ได้เลวร้าย แต่รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการพัฒนาการศึกษา และต้องแก้ไขที่ตัวเราเองก่อน ไม่อย่างนั้นปฏิรูปไม่ได้ ทุกคนไม่ยอมกันหมดก็ไม่ได้ ทุกคนต้องรู้ปัญหาอยู่ตรงไหนและจะแก้ไขอย่างไร โดยแก้ไขได้ด้วยครู บุคลากรทางศีกษา กระทรวงศึกษา ผู้ปกครอง และความต้องการของประเทศชาติ
จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมโรงอาหารพร้อมร่วมรับประทานกลางวันกับเด็กนักเรียน โดยเป็นถาดหลุม โดยเมนูเป็นข้าวกล้อง ผัดถั่วฝักยาวใส่หมู ต้มยำไก่ใส่เลือดและเห็ดนางฟ้า ไข่เจียว และผลไม้เป็นสับปะรด โดยจัดอาหารตามโปรแกรม Thai school lunch การจัดอาหารกลางวันโรงเรียน ที่สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนาขึ้น พร้อมแนะนำให้ทางโรงเรียนเปิดเพลงระหว่างเด็กรับประทานอาหารกลางวันด้วย ขณะที่นายกฯกล่าวว่า เราจะชอบกินอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ จะทำให้เกิดกิเลส เพราะฉะนั้นเวลากินอาหารก็ต้องการให้กินให้ครบทุกหมู่ ก่อนอธิบายถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยยืนยันว่าตนไม่ได้ออกมาเพื่อสืบทอดอำนาจ จึงขอให้กลับไปช่วยบอกผู้ปกครองและครอบครัวด้วยว่า ในเรื่องของโครงการไทยนิยมที่รัฐบาลนั้นไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่ทำเพื่อให้บ้านเมืองและทุกคนเข้มแข็งไปด้วยกัน
ขณะที่เด็กนักเรียนถามนายกฯ ว่า ทำไมจึงอยากมาที่โรงเรียนแห่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทราบว่าโรงเรียนแห่งนี้เป็นแบบอย่างที่ดีอาหารกลางวัน มีการจัดทำโครงการที่เป็นประโยชน์มีโปรแกรมออกมา โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยบริหารจัดการเรื่องอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ งบประมาณที่รัฐบาลให้มานั่นไม่เพียงพอเพราะเรามีหลายโรงเรียน จำเป็นต้องเสริมในกิจกรรมต่างๆทั้งการปลูกผัก เลี้ยงไก่ ต้องเสริมซึ่งโรงเรียนนี้มีความก้าวหน้าปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงไก่ เราต้องทำแบบยังยืน
จากนั้นนายกฯ สอบถามความต้องการของเด็กว่าโตขึ้นต้องการความเป็นอะไร และแนะนำว่าแม้ว่าอยากจะเป็นชาวไร่หรือเกษตรกร ก็ขอให้เป็นคนยุคใหม่เป็นเกษตรกร 4.0
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหนึ่งนายกฯสอบถามเด็กว่าอยากเป็นอะไรซึ่งส่วนใหญ่อยากเป็นชาวไร่ เป็นครู แต่ไม่มีใครอยากเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าทำไมไม่อยากเป็นนายกฯ พร้อมพูดกระเซ้าว่า “ไม่มีใครอยากเป็นนายกฯ หรือ ก็ดีลุงจะได้ไม่ต้องมีคู่แข่ง แต่ไม่ต้องการจะแข่งกับใครอยู่แล้ว ใครอยากเป็นก็เป็น อย่างไรก็ตาม ต้องช่วยพ่อแม่ผู้ปกครองประหยัดในครัวเรือน และต้องพัฒนาอีกมากและที่บรรดาคุณปู่ คุณตา (ครม.) เข้ามาทำงานทุกวันนี้ก็เพื่ออนาคตของเยาวชนทุกคน”
โดยเด็กนักเรียนคนหนึ่งถามว่าทำไมจึงอยากเป็นทหาร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เพราะพ่อลุงเป็นทหาร แม่เป็นครู เกิดมาลืมตาก็เห็นทหารแล้ว รู้ว่าเป็นทหารแล้วจะแข็งแรง ในฐานะลูกผู้ชายก็อยากเป็นทหารมาตั้งแต่ต้น ก็สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารและในร้อย จปร. ซึ่งมีความตั้งใจอยู่เท่านั้นไม่ได้อยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีนายก แต่เมื่อเป็นแล้วเราก็ต้องพัฒนาตัวเองเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด เด็กนักเรียนถามว่า นายกรัฐมนตรีชอบผู้หญิงแบบไหน พล.อ.ประยุทธ์หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “ไอ้นี่ร้ายกาจ ถามนายกฯ ว่าชอบผู้หญิงแบบไหน ก็ต้องตอบว่าชอบผู้หญิงที่เป็นภรรยาอยู่ทุกวันนี้”
นักเรียนถามว่า ลุงตู่เรียนเก่งหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ชอบอ่านหนังสือ การเรียนก็ได้ 80 กว่าคะแนนทุกครั้ง เราต้องตั้งไจเรียนในห้อง และย่อความหลังจากเรียนหนังสือแล้วเพื่อทำความเข้าใจ เราต้องหาหัวใจให้เจอ ลุงเป็นคนชอบอ่านหนังสือและชอบเขียนหนังสือมาจนถึงทุกวันนี้
“ในทุกวิชาของการเรียนมีเนื้อหาของชีวิตสอดแทรกไว้ทั้งหมด ดังนั้นถ้าไม่ต้องการให้เกิดความจัดแย้งกันก็ต้องตั้งใจเรียนวิชาหน้าที่ ศีลธรรม และยกระดับหัวใจของเด็กๆ ทุกคน
ช่วงหนึ่งมีเด็กนักเรียนได้ถามนายกฯ ว่าทำอย่างไรถึงจะเรียนเก่ง นายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่ตัวเราเองที่ต้องมีความตั้งใจ ขยันหมั่นเพียร ความอดทน จำคำพูดของลุงตู่ ลุงป๊อกไว้ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรือได้มาเพราะยื่นมืออย่างเดียว เป็นเด็กได้มาก็ซาบซึ้งบุญคุณ ทุกอย่างหากรับมาต้องไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องมีการพัฒนาตนเองไปด้วย ไม่ใช่เรียนแค่เพื่อรับใบปริญญา แต่ต้องคิดว่าการศึกษาจะทำให้มีชีวิตในวันข้างหน้าในสังคมที่เปลี่ยนแปลงและมีความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร ซึ่งรัฐบาลกำลังทำไม่ให้เหลื่อมล้ำโดยใช้ประชารัฐ
นายกฯ กล่าวว่า ลุงไม่ได้เรียนเก่ง แต่ขยันเป็นคนดีไม่เคยเกเร และตอนเด็กพ่อแม่ลุงดุเป็นทหารและเป็นครู มีความเข้มงวดแต่ช่วยให้ดี มีวินัย ถ้าวันนี้บอกประชาธิปไตยอะไรก็ไม่ได้ มันไม่ใช่ ต้องมีระเบียบและกฎหมาย ก่อนจะหันไปอ่านชื่อนักเรียนคนหนึ่งที่ชื่อว่า ธนาธิป แล้วถามว่าเกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยตรงไหน ส่วนเรื่องการเลือกตั้งรออีกนิดได้หรือไม่ และอย่าลืมไปบอกพ่อแม่ว่าต้องออกไปเลือกตั้งทุกคน ส่วนจะเลือกใครก็เลือกไป และบอกพ่อแม่ด้วยว่าโครงการไทยนิยมไม่ใช่การเมือง แต่ก็ทำให้หมู่บ้านของเราแข็งแกร่ง
จากนั้นได้พูดคุยกับเด็กๆ พร้อมแนะนำโภชนาการทางอาหาร และขอให้รับประทานอาหารให้หมด ซึ่งในโรงเรียนก็ขอให้แบ่งหน้าที่กัน เหมือนกับรัฐบาลที่แบ่งหน้าที่กันทำงานสุดท้ายห้องเรียนก็เรียบร้อย
จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมห้องเรียนที่อยู่ระหว่างการสอนวิชาต่างๆ โดยได้มีการแนะนำการเรียนการสอนให้กับครูผู้สอนว่า จะต้องมีกิจกรรมและความต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ อย่างเรื่องการสอนภาษาอังกฤษ เมื่อสอนคำว่า สวมเสื้อ ต้องสอนต่อเนื่องคำศัพท์ที่แปลว่า ถอดเสื้อ คำศัพท์ภาษาอังกฤษคืออะไร จากนั้นได้เรียก ด.ช.ธนวัฒน์ แสนสุข นักเรียนชั้น ป.5 ให้ออกมาสาธิตการถอดเสื้อ พร้อมอธิบายสร้างความสนุกสนานให้แก่เด็กในห้อง จากนั้นได้เข้าไปดูการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยในช่วงเพลงพื้นบ้าน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้แนะนำเด็กว่า เพลงพื้นบ้านจะทำให้รู้ประวัติความเป็นมาของชุมชน รวมทั้งแนะนำครูผู้สอนด้วยว่า อย่าให้มีการเขียนคำตอบลงไปในแบบเรียน เพื่อนำแบบเรียนไปให้รุ่นน้องเรียนต่อได้เพื่อประหยัดงบประมาณ รวมถึงได้สอนเด็กได้รู้ถึงความหมายของคำว่าเบญจศีล เบญจธรรม เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้สังคมสงบสุขไม่เกิดความขัดแย้ง เมื่อคนมีคุณธรรม สังคมมีจริยธรรม บ้านเมืองก็จะมีแต่ความสงบ
ต่อมานายกฯ ได้เดินไปห้องสอนคอมพิวเตอร์ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่เปิดโปรแกรมการสร้างภาพ แต่มีเด็กนักเรียนผู้หญิงคนหนึ่งเปิดกูเกิล พิมพ์หาความหมายของชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้นายกฯ ชอบใจ พร้อมกล่าวว่า “ไอ้นี้มาแปลหาความหมายของชื่อนายกรัฐมนตรี ก่อนจะนั่งลงข้างเด็กดูความหมายของชื่อ พร้อมกล่าวว่า “แหม่ พอกดชื่อประยุทธ์ก็ขึ้นมาเลยบทบาททางการเมือง เอาเข้าไป รัฐประหารประเทศไทย 2557 เอากันเข้าไป ลุงไม่จำเป็นลุงไม่มาหรอก แต่เข้ามาก็เพื่อพวกเรา ทำให้ดีขึ้นทุกวัน”
จากนั้น ผอ.โรงเรียนวัดเกาะ นำนายกฯ เยี่ยมแปลงผักผสม ผักไฮโดรโปรนิกส์ โรงเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน และเมลลอน โดยนายกฯ ให้ความสนใจสอบถามกับเด็กๆ ที่สาธิตการเพาะพันธุ์ และช่วงหนึ่งนายกฯ ได้ถามเด็กนักเรียนว่า “มีใครอยากเป็นทหารบ้าง ถ้าอยากเป็น ต้องไม่อ่อนแอ” พร้อมกันนี้นายกฯ ได้ถ่ายภาพรวมกับเด็กนักเรียนและข้าราชการที่มาต้อนรับ ขณะที่เด็กนักเรียนได้มอบภาพวาดเป็นรูปนายกฯ พร้อมข้อความ “ลุงตู่สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ลุงตู่” ให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นที่ระลึก จำนวน 3 ภาพ จากนั้นตัวแทนครูได้มอบรูปเหมือนหลวงปู่ทิน อิสริโก วัดละหารไร่ บ้านค่าย จ.ระยอง หน้าตัก 7 นิ้วแก่นายกฯ รวมถึงผลิตผลไม้แปรรูปจากโครงการ 9101 ให้นายกฯ ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับ
ต่อจากนั้นนายกฯ เดินทางไปวัดละหารไร่ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นมัสการพระครูวิจิตรธรรมาภิรัต หรือหลวงพ่อเชย และเยี่ยมชมการดำเนินการศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร จ.ระยอง