“องอาจ” เผย ปชป. ค้านเลิก ส.ข. ชี้ ให้ ผอ.ตั้ง ประชาคมเขต ทำ ปชช.เสียประโยชน์ ไร้ตรวจสอบ-ถอยหลังเข้าคลอง ไม่ส่งเสริม ปชต. บี้ กทม. เปิดรับฟังความเห็นวงกว้าง
วันนี้ (1 ก.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ กทม. เสนอให้ออกกฎหมายยกเลิกสมาชิกสภาเขต กทม.ว่า สมาชิกสภาเขตถือเป็นผู้แทนของประชาชนระดับท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด ประชาธิปัตย์จึงขอคัดค้านการยกเลิกสมาชิกสภาเขตที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และจะกลับไปใช้ระบบการแต่งตั้งประชาคมเขต โดยผู้อำนวยการเขตคัดเลือกกันเอง ในขณะที่บ้านเมืองกำลังเดินเข้าสู่ประชาธิปไตยจะมีการเลือกตั้ง กลับมีการปิดกั้นไม่ให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น คือ สมาชิกสภาเขต และเปิดโอกาสให้ผู้อำนวยการเขตแต่งตั้งคัดเลือกกันเอง เป็นการกระทำที่ไม่ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย เพราะตลอดสามสิบปีที่มีสมาชิกสภาเขตได้ทำประโยชน์ให้กับประชาชนและพัฒนาพื้นที่ นำปัญหาประชาชนไปสู่การแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อรักษาผลประโยชน์ ของประชาชน
การยกเลิกจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน คือ 1. เป็นการตัดโอกาสประชาชนที่จะใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยที่จะได้อำนาจเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นตัวแทนที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด 2. ถือเป็นการถอยหลังเข้าคลองใช้การคัดเลือกแทนการเลือกตั้ง จึงไม่สามารถคาดหวังว่ากรรมการประชาคมเขตจะทำหน้าที่จริงจังในการรับใช้ประชาชนเหมือน ส.ข.ไม่ได้ เพราะจะทำงานเอาใจผู้อำนวยการเขตให้คัดเลือกตัวเองกลับมาทำงาน กระทบกับประชาชน 3. ทำให้ไม่มีการตรวจสอบผู้บริหารของสำนักงานเขต เพราะกรรมการประชาคมเขตแต่งตั้งกันเองย่อมไม่ตรวจสอบกันเอง จะทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ ด้วยเหตุนี้ประชาธิปัตย์จึงขอคัดค้านการยกเลิกสมาชิกสภาเขต ส่วนที่อ้างว่า สข.เป็นหัวคะแนนนักการเมืองนั้นเป็นความเข้าใจผิด เพราะ สข.เป็นนักการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชนในระดับเขต ซึ่งถือว่าใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า กทม.เปิดโอกาสให้แสดงความเห็นในร่างกฎหมายนี้ผ่านเว็บไซต์ของ กทม. พบว่าในส่วนของการยกเลิกสมาชิกสภาเขต มีช่องให้กากบาทเพียงแค่ช่องเห็นด้วย และอื่นๆ แต่ไม่มีช่องคำว่าไม่เห็นด้วย เป็นการชี้นำ เพราะควรมีทั้งช่องเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อีกทั้งยังให้แสดงความเห็นผ่านช่องทางนี้เพียงช่องทางเดียวถึงวันที่ 19 ก.ค.นี้ เท่านั้น ขณะที่ประชาชนไม่ได้รับทราบเป็นวงกว้าง จึงขอให้ กทม.เปิดรับฟังความเห็นให้กว้างกว่านี้ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง