“ประยุทธ์” ระบุปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์เกิดจากความไม่ซื่อสัตย์ของผู้ประกอบการ ขอทุกฝ่ายร่วมมือ สั่งทำข้อมูลสร้างการรับรู้เกษตรกรก่อนปลูกพืช หลังสินค้าเกษตรล้นตลาดทำราคาตกทั้งหมด
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.05 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในวันที่ 20 มิถุนายน คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน จะพิจารณาหาแนวทางแก้ไขว่า เรื่องนี้ตนได้มอบหมายมานานแล้ว ในเรื่องการตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรม การตรวจสอบการขึ้นทะเบียนทั้งหมด ตนได้กำชับมาโดยตลอดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล และวันนี้ได้เร่งรัดในเรื่องการตรวจสอบ แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของความไม่ซื่อสัตย์ เมื่อจดทะเบียนขอใบอนุญาตบริษัทไปแล้วกลับไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พอเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจจับก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีก ส่งผลหลายอย่างเกิดขึ้น
“ในการประชุม ครม.วันนี้ผมได้กำชับไปว่าขอให้ทุกหน่วยงานลงไปตรวจสอบงานในกิจกรรมของตัวเองทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างคณะกรรมการตรวจสอบมาตรฐานทั้งหมด ไม่ต้องรอการร้องเรียนเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็มีน้อยจึงจำเป็นต้องเปิดหลายช่องทาง วันนี้สามารถไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมก็ได้ รัฐบาลเองก็รับทุกเรื่องมา มีการสรุปให้ทราบในทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละหลายร้อยเรื่อง บางเรื่องแก้ไขได้ก็ลงไปแก้ไขในทันที แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องดำเนินการตามคดีและกฎหมายไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จากปัญหาความไม่ซื่อสัตย์ในการดำเนินการต่างๆ ทำให้เกิดภาระขึ้นอย่างมาก เช่น การพบถุงพลาสติกจำนวนมากในซากปลาวาฬ เรื่องนี้จะมาโทษรัฐบาลอย่างเดียวคงไม่ใช่ ต้องไปดูว่าถุงพลาสติกดังกล่าวมาจากไหน ใครเป็นคนใช้ รัฐบาลเองมุ่งหวังการลดใช้ถุงพลาสติกมากขึ้น มีการขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการร้านค้าให้ลดการใช้ถุงพลาสติกหรือการบริการการขาย รวมทั้งส่งเสริมประชาชนให้หันมาใช้ถุงผ้าให้มากขึ้น รัฐบาลก็ทำได้อย่างนี้ แต่ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ต้นทาง คือ ประชาชนทุกคนต้องเรียนรู้และช่วยกัน ถ้ามัวแต่โทษกันไปมาคงไม่เกิดประโยชน์อะไรและแก้ปัญหาทุกอย่างไม่ได้