รัฐบาลยอมเจียด 11.8 ล้าน จ่ายค่าโง่ สร้างอาคาร “หอประชุมราชภัฏอุดรธานี” ความจุ 5,000 ที่นั่ง มูลค่าโครงการกว่า 284 ล้าน “สำนักงบฯ” ชี้ ฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เปลี่ยนแปลงแกัไขสัญญา ทำค่างานเพิ่มขึ้นจากราคากลาง 272 ล้าน เป็น 284 ล้าน และ มติ ครม. เดิม ผูกพัน 3 ปี (55 - 57) พบใช้เงินรายได้สมทบทั้งจำนวน เหตุเข้าใจว่าวงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุมัติต่อ ครม.
วันนี้ (15 มิ.ย.) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ภาคเหนือตอนล่าง 2 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (12 มิ.ย.) ได้มีมติอนุมัติผ่อนผันการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการก่อสร้างและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ความจุ 5,000 ที่นั่ง พร้อมรายการประกอบ จังหวัดอุดรธานี ที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ โดยเป็นโครงการที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลก่อนเมื่อปี 2555 จากเดิมจำนวนเงิน 272,980,000 บาท โดยขอเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอีก 11,800,000 บาท เป็นจำนวนเงินโครงการ 284,780,000 บาท
โครงการนี้เดิม ครม. สัญจร จ.อุดรธานี ของรัฐบาลก่อน ได้มีมติเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2555 อนุมัติให้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารหอประชุม พร้อมรายการประกอบ จังหวัดอุดรธานี เปีบเงินทั้งสิ้น 273 ล้านบาท โดยผูกพันงบประมาณปี 2555 จำนวน 34.1 ล้านบาท งบประมาณปี 2556 จำนวน 87.7 ล้านบาท งบประมาณปี 2557 จำนวน 96.7 ล้านบาท เงินนอกงบประมาณ จำนวน 32.5 ล้านบาท และเงินสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด เป็นเงิน 13 ล้านบาท
“มหาวิทยาลัยชี้แจงว่า มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการก่อสร้างเพื่อให้มีความเหมาะสม ประหยัด เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องดำเนินการควบคู่ต่อเนื่องกับงานโครงสร้างอาคาร หากดำเนินการภายหลัง จะต้องเสียค่าปรับรื้อโครงสร้าง โดยการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดดังกล่าวมีผลทำให้ค่างานเพิ่มจากสัญญาเดิม จำนวน 11,800,000 บาท มหาวิทยาลัยได้ทำการแกัไขสัญญา เป็นวงเงิน 284,780,000 บาท โดยค่างานที่เพิ่มขึ้น มหาวิทยาลัยใช้เงินรายได้สมทบทั้งจำนวน โดยเข้าใจว่า วงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากวงเงินที่ ครม. อนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีโดยใช้เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยนั้น สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุมัติต่อ ครม. ในการเพิ่มวงเงินก่อนดำเนินการแก้ไขสัญญาตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 อันเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน”
โครงการนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีได้กำหนดราคากลางงานก่อสร้างอาคารหอประชุม พร้อมรายการประกอบ เป็นเงิน 275,000,000 บาท และดำเนินการจัดจ้างก่อสร้างอาคารฯ ดังกล่าวโดยวิธีการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบริษัท เลิศพัฒนาวิศวการ จำกัด ผู้เสนอราคาต่ำสุด ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้าง ภายในวงเงิน 272,980,000 บาท โดยอธิการบดีฯ ในขณะนั้น ได้อนุมัติจ้างก่อสร้างอาคาร พร้อมประกาศผลผู้ชนะการประกวดราคาเรียบร้อยแล้ว
โครงการดังกล่าว สำนักงบประมาณได้เห็นชอบความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้างหอประชุม พร้อมรายการประกอบ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 34,125,000 บาท ซึ่งได้รับจัดสรรแล้ว ส่วนที่ขาดอีก 204,732,400 บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป และใช้เงินนอกงบประมาณสมทบ 34,122,400 บาท
“แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี อ้างว่า ได้เปลี่ยนแปลงแบบรูปรายการที่มืผล ทำให้ประมาณราคากลางสูงกว่าวงเงินงบประมาณรวมวงเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดที่ ครม. ได้อนุมัติ ให้ก่อหนี้ผูกพันไม่เกินร้อยละ 4 โดยไม่ได้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการประกวดราคา อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักงบประมาณ ว่า การดำเนินการก่อสร้างหอประชุมดังกล่าว ยังคงแบบรูปรายการ ขนาด 5,000 ที่นั่ง ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายการแต่อย่างใด และถือว่าไม่ผิดขั้นตอนการปฏิบัติตามมติ ครม.”
ขณะที่ กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้พิจารณาจากเอกสารแล้ว เห็นว่า มหาวิทยาลัยได้ทำสัญญาจ้างบริษัทเป็นผู้รับจ้าง ก่อสร้างอาคารฯ ดังกล่าว จำนวนเงิน 272,980,000 บาท ระยะเวลาคำเนินการ 750 วัน โดยสัญญาสิ้นสุดในวันที่ 10 ต.ค. 2557 ประกอบกับสำนักงบประมาณ เห็นชอบความเหมาะสมของราคา ค่าก่อสร้างหอประชุม พร้อมรายการประกอบ ในวงเงิน 272,980,000 บาท ซึ่งอยู่ในวงเงินที่ ครม. ได้อนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ต่อมามหาวิทยาลัยโดยอธิการบดี ได้อนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารฯ จำนวน 7 ฉบับ ทำให้สัญญาสิ้นสุดในวันที่ 20 พ.ค. 2555 รวมทั้งปริมาณงานที่เพิ่มคิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 11,800,000 บาท รวมวงเงินค่าก่อสร้างที่มีเงินเพิ่มทั้งสัญญาเป็นจำนวนเงิน 284,780,000 บาท ประกอบกับสำนักงบประมาณ เห็นชอบให้มหาวิทยาลัยเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการดังกล่าว ซึ่งมีผลทำให้วงเงินค่าก่อสร้างฯ เพิ่มขึ้น จากจำนวน 272,980,000 บาท เป็นจำนวน 284,780,000 บาท โดยมีค่าก่อสร้างส่วนที่เพิ่มขึ้น 11,800,000 บาท
“อย่างไรก็ตาม ครม. เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. มีความเห็นว่า การดำเนินการตามแผน/โครงการต่างๆ ในครั้งต่อไป ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องกำชับหน่วยงานในสังกัดถือปฏิบัติตามมติ ครม. 21 มี.ค. 60 ที่กำหนดให้ในชั้นตอนการริเริ่มโครงการให้สว่นราชการตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการนั้นๆ อย่างละเอียดรอบคอบให้ถูกต้อง ครถ้วนในทุกมิติก่อน อย่างเคร่งครัด”