ข่าวปนคน คนปนข่าว
**อยากได้โรงไฟฟ้าถ่านหินจนแอ๊บแตก!! “ประยุทธ์” โยงอุบัติเหตุ “โรงไฟฟ้าหงสา” ทำไทยไฟดับครึ่งประเทศ โทษคนไทยเอาแต่ต้าน-ไม่เปิดใจรับ “ถ่านหิน”จนต้องไปพึ่งไฟจากเพื่อนบ้าน ไม่รู้หรือลืมไปว่าที่ซื้อๆมา ก็จาก “โรงไฟฟ้าสัญชาติไทย” ที่มี กฟผ.เป็นโต้โผใหญ่ แค่ไปตั้งอยู่ที่ สปป.ลาว ทั้งนั้น “รมต.ศิริ”ก็ตามน้ำ ปล่อยให้“เข้าใจผิดๆ” เหมือนทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน
ตีกินเห็นๆ .. เหตุการณ์ไฟดับในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา .. ต้นตอมาจากเหตุขัดข้อง สายส่งไฟฟ้าจาก “โรงไฟฟ้าหงสา ประเทศลาว” ถูกฟ้าผ่าจนชำรุด ทำให้กระแสไฟฟ้า 1,300 เมกะวัตต์ จ่ายมาที่ไทยไม่ได้ .. แม้ส่งผลกระทบในวงกว้าง แต่ก็ต้องชื่นชม ทั้ง “กฟผ. - กฟน. - กฟภ.” ที่ประสานงานแก้ไขปัญหา เพิ่มกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าในประเทศ จนทยอยจ่ายไฟเข้าระบบปกติในเวลาไม่ถึงชั่วโมง .. ถือเป็นบททดสอบการแก้ไขปัญหาในยามฉุกเฉิน ที่ถือว่า “สอบผ่าน” และเป็นกรณีศึกษาที่ดีในอนาคตได้ .. แต่ก็อย่าห่วงไป เห็น “คนในวงการ”เขาว่า เหตุการณ์แบบนี้ 10 ปีมีหน ไม่ได้เกิดกันบ่อยๆ .. ไอ้เราก็นึกว่าผ่านไปแล้ว ก็แล้วกันไป ที่ไหนได้ “บิ๊กไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล อ้างว่า “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ปรารภถึงเรื่องนี้ในที่ประชุมครม.วันก่อน .. เป็นการปรารภแบบ “ไร้ตรรกะ” ที่ไปเหมาเอาว่า ประเทศไทยซื้อไฟฟ้าจาก “โรงไฟฟ้าหงสา”ที่เป็น “โรงไฟฟ้าถ่านหิน” แล้วจะมาต่อต้าน “โรงไฟฟ้าถ่านหิน” ทำไมกัน .. ในทำนอง “เกลียดตัวกินไข่” รังเกียจมลภาวะจากถ่านหิน แล้วไปซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากถ่านหินทำไมกัน พร้อมโทษ “คนไทย” ว่ามัวแต่ต่อต้าน จนต้องหอบเงินไปซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ .. ก่อนโยนเป็นประเด็นให้สังคมได้ขบคิด เปิดใจศึกษาข้อมูลว่า “โรงไฟฟ้าถ่านหิน” มีประโยชน์ หรือมีโทษ มีอะไรเป็นพิษเป็นภัยจริงหรือไม่อย่างไร ..
ดูเหมือนสิ่งที่ “ท่านนายกฯ”พยายามเชื่อมโยง “จับต้นชนปลาย” ออกมาในลักษณะ “คนละเรื่องเดียวกัน” .. ทั้งที่เหตุการณ์ครั้งนี้สรุปได้ง่ายนิดเดียวว่า เป็นเรื่องควบคุมไม่ได้ นานๆ เกิดขึ้นที การแก้ปัญหาทำได้รวดเร็ว ถือเป็นสิ่งที่ดี .. การซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไม่ว่ากี่โรงต่อกี่โรง ล้วนแล้วแต่เป็น “ทุนไทย”ที่เห็นโอกาสทางธุรกิจ ขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเท่าในประเทศ เลยเฮโลไปลงทุนที่ฝั่งนู้น โดยเจรจาซื้อขายไฟกับไทยไว้ล่วงหน้าแล้ว .. ที่สำคัญ “ทุนไทย”ที่ว่านี่ก็มี “กฟผ.” หรือ EGAT รัฐวิสาหกิจเกรดเอ ของรัฐบาล โผล่ไปร่วมวงด้วย ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ.. ดังนั้นที่ว่า “ซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ”จึงไม่ตรงตามที่พูดซะทีเดียว เพราะทั้งหมดเป็น “โรงไฟฟ้าสัญชาติไทย” ที่ตั้งอยู่ที่ สปป.ลาว หากไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ไฟฟ้าก็ยังต้องส่งมาขายให้ไทย เพราะใน สปป.ลาว ไม่ใช้ไฟฟ้ามากมายมหาศาลขนาดนั้น .. แล้วที่ “ท่านไก่อู”อ้างคำ “ท่านนายกฯ”ว่าให้คนไทยเปิดใจรับข้อมูลโรงไฟฟ้าถ่านหิน ก็ต้องบอกว่า ปัจจุบันข้อมูลมีมากเพียงพอแล้ว และตอนนี้มีการศึกษาในเคสของ “กระบี่-เทพา” กันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ .. เป็นฝ่ายรัฐต่างหาก ที่ต้องเปิดใจดู “กระแสโลก” ที่เดี๋ยวนี้ ทยอยเลิกใช้ “ถ่านหิน” กันครึ่งค่อนโลกแล้ว .. อาจจะมีที่เหนือชั้นหน่อย ก็ “มิสเตอร์ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ขวางโลก ที่จู่ๆ ก็ปึ๊งไอเดียตกยุค เตรียมออกมาตรการอุดหนุน “โรงไฟฟ้าถ่านหิน” จนโดนถล่มเละ อยู่ในตอนนี้ .. แล้วอย่าลืมอีกว่า ไทยเองก็ไปร่วมลงนามข้อตกลงลดการปล่อย CO2 กับนานาชาติ ที่กรุงปารีส เมื่อไม่กี่ปีนี้ ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมยังจะมาตะบี้ตะบัน ผลักดันสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่โดดเด่นเหลือเกินในเรื่องปล่อย CO2 อีกล่ะ .. ก็ภาวนาว่า “ท่านไก่อู” คงมาสื่อสารคลาดเคลื่อน ไม่อยากมองแง่ร้ายว่า จงใจ “พูดเอาแต่ได้” .. หรือหากพูดเช่นนั้นจริง ก็อดสงสัยไม่ได้อีกว่า ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ที่นั่งหัวโด่ อยู่ในที่ประชุมด้วย ไม่คิดจะทักท้วงให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือปล่อยเลยตามเลย ให้ “นายกฯตู่”เกิด “ความเข้าใจผิดๆ”เหมือนอีกหลายประเด็นพลังงานอย่างนั้นหรือ .
** ดิ้นพล่านตั้งแต่เริ่ม!! “กำนันเทือก”ไม่รอช้า ลุยอีเวนต์การเมืองถี่ ปั่นกระแสหวังกลบ “จุดอ่อน”ไร้ฐานเสียงหนุน ล็อกเป้าใหญ่เจาะตลาด “พี่น้องพันธมิตรฯ”ที่หูตาสว่างไม่ยอมโดนหลอกอีกแล้ว ขนาด “เสี่ยต้อย เนชั่น”ยังเห็นว่าไม่น่ารอด ถีบส่งร่วมลงประชาทัณฑ์ เหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อน
ไม่รอช้า .. หลังประกาศกลืนน้ำลาย ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย แล้ว “เทพเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตฮีโร่กู้ชาติแห่ง กปปส. ก็เคลื่อนไหวทันที .. ตามคิว “ไต่เส้น”แบบ “พรรคมีเส้น” ในยามที่ คสช. ยังฮึ่มไม่ให้จัดกิจกรรมการเมือง ใครจะประชุม จะเดินสายหาเสียง ต้องขออนุญาตก่อน .. ประเดิมด้วยการเปิด “ฐานบัญชาการ” แปซิฟิคเพลส ย่านสุขุมวิท จัดอบรม “โรงเรียนการเมือง” รุ่นแรกของพรรค .. เนื้อหาอวยตัวเอง ในฐานะนักการเมืองผู้มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 40 ปี ตลอดจนผลงานสมัย กปปส. ล้วนๆ .. ถัดมาอีกวันก็ออกเดินสาย โผล่ไปร่วมแสดงมุทิตาจิตเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ ผู้ก่อตั้งอาศรมสันติอโศก ที่ราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี .. ถือโอกาสเปิดฟลอร์หาเสียงหลายๆ กับ “ชาวราชธานีอโศก” ขนวาทกรรมสวยหรู ในวันที่ได้ประกาศก่อตั้งพรรคมาเต็มๆ ขาดก็แค่ดราม่าน้ำตานองเท่านั้น .. การที่ “เดอะเทือก”ถ่อไปถึง จ.อุบลราชธานี ในงานสำคัญของสำนักสันติอโศก ก็เป็นหมาก “ปิดจุดอ่อน”ออกอาการพล่านตั้งแต่ต้น .. ด้วยรู้ตัวแล้วว่า “มวลชน กปปส.” ที่หวังใช้เป็นฐานเสียงให้ “พรรคกำนัน” นั้นไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการรวมกันเฉพาะกิจเมื่อครั้งขับไล่ “ยิ่งลักษณ์” เท่านั้น ..
เนื้อแท้จริงๆของ “มวลมหาประชาชน” นั้นก็คือ “กลุ่มคนไม่เอาทักษิณ” ที่ถึงเวลานี้ก็กลับป้อมค่าย ทั้งในซีกประชาธิปัตย์ หรือในส่วนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เหลือ “ติ่งลุงกำนัน” ที่ยังหัวปัก หัวปำเพียงหยิบมือ.. เป็น “จุดอ่อน”ที่ “สุเทพ” รู้ตัวมาพักใหญ่ สังเกตจากที่ก่อนหน้านี้ ทำรายการยกยอ “แกนนำพันธมิตรฯ”เป็นรายวัน หลายวาระยังแสดงความเห็นอกเห็นใจ พี่น้องพันธมิตรฯ ที่ต้องคดีร้ายแรง .. จนอาจลืมไปว่า แท้จริงยุคที่ทำให้ “แกนนำ-พี่น้องพันธมิตรฯ”ต้องต่อสู้คดีมาจนบัดนี้ ก็เป็นยุค “รัฐบาลประชาธิปัตย์” ที่มีรองนายกฯ ความมั่นคง ชื่อ “สุเทพ” นั่นเอง ..
การไป จ.อุบลฯ จึงเป็นความพยายามในการทู่ซี้ขอให้พันธมิตรฯ เอนเอียงเทใจให้ ทั้งการโดดเกาะ “สมณะโพธิรักษ์”ที่พี่น้องพันธมิตรฯ ให้ความนับถือ .. หรือกระทั่งการชักภาพร่วมกับ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ก็เพื่อต้องการโชว์ว่า ได้รับการยอมรับจากแกนนำพันธมิตรฯ พอสมควร .. ต้องบอกว่าเป็นไปได้ยาก “พี่น้องพันธมิตรฯ”หูตาสว่างแล้ว กับทั้ง “รัฐบาล คสช.” รวมทั้งรู้เช่นเห็นชาติ “นายสุเทพ” ดี คงไม่ยอมถูกหลอกซ้ำซากอีก .. เอาแค่วาระแอบแฝงในการชู “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ ทั้งที่ไม่เคยทำ “วาระปฏิรูป”ให้เป็นรูปธรรมใดๆ เลย แค่นี้ก็ยากที่จะกลับมานั่งในใจ “พี่น้องพันธมิตรฯ”อยู่แล้ว .. ไม่ใช่แค่ “คนพันธมิตรฯ”หรือคนทั่วๆไป ที่หูตาสว่างเท่านั้น “คนกันเอง” ก็ยังคิดว่า ไม่น่ารอด .. มิเช่นนั้น “ค่ายเนชั่น” ที่มี “เสี่ยต้อย” สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม คุมอยู่ คงไม่ร่วมลงประชาทัณฑ์ ราวกับไม่เคยเกื้อหนุนกันมาก่อนหรอก
** กล้าพอไหม !? “ลุงตู่”เตรียมยกทัพทัวร์ยุโรป ติดสอย “ทีมเศรษฐกิจ”เยือน “อังกฤษ -ฝรั่งเศส” อวดภาพ 2 มหาอำนาจไม่รังเกียจ“รัฐบาลทหาร” ถ้าให้ดีอย่าลืมถามทางการ “เมืองผู้ดี”ให้วีซ่า “ยิ่งลักษณ์”อยู่ยาว 10 ปี จริงเท็จอย่างไร พ่วงด้วยตามตัว “บอส อยู่วิทยา”ผู้ต้องหาฆ่าตำรวจ มาเข้ากระบวนการยุติธรรม ก่อนคดีหมดอายุด้วยก็ดี
ออกทัวร์อีกหน .. สัปดาห์หน้า “นายกฯลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคิวไป ครม.สัญจร ที่ จ.พิจิตร-นครสวรรค์ .. เชื่อเถอะ พอได้เจอชาวบ้าน พร้อมเชียร์ “ลุงตู่สู้ๆ” ก็คงยิ้มเฉ่ง ออดอ้อน ไม่บูดบึ้งเหมือนเวลาอยู่ กทม. .. คิวต่อไปน่าสนใจกว่า กับการจับเครื่องเดินทางไปเยือน 2 ประเทศมหาอำนาจของโลก “อังกฤษ - ฝรั่งเศส” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20-25 มิ.ย.นี้ .. ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ตั้งแต่ขึ้นมาเป็นนายกฯ ที่ “ลุงตู่” ได้คิวไปเยือน 2 ประเทศที่ว่า อาจจะด้วยจังหวะเวลาไม่ตรงกัน .. เพราะเอาเข้าจริง ทั้ง 2 ประเทศ ก็ไม่ได้แสดงความรังเกียจ “เผด็จการทหาร”เท่าไร “ฝรั่งเศส”อาจมีเครื่องหมายคำถามเล็กๆ แต่ชัดๆ ก็ทาง “อังกฤษ” ที่ระดับรัฐมนตรีเทียวไปเทียวมากันประจำ .. ที่ผ่านมา “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ความมั่นคง ก็ได้รับการเชื้อเชิญไปออกจะบ่อย เวลามีงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่กรุงลอนดอน .. ปะเหมาะเคราะห์ดีที่ “ทีมเฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เจรจาด้านการค้า-การลงทุนคืบหน้า รอบนี้ก็เลยถือโอกาสให้ “ลุงตู่” นำคณะไปร่วมโรดโชว์ทางเศรษฐกิจซะเลย .. ฉากสำคัญ หนีไม่พ้น การเข้าพบ เทเรซา เมย์ นายกฯ สหราชอาณาจักร และ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีหนุ่ม ของเมืองน้ำหอม .. เชื่อแน่ว่า ภาพที่ออกมาคงไม่ต่างจากการไปเช็กแฮนด์กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาวเท่าไร สามารถเอามาใช้ตีปิ๊บว่า “นานาชาติ”ให้การยอมรับ “ไพร์มมินิสเตอร์ตู่” เป็นอย่างดี ..
ในสายตาต่างชาติยังไงไม่รู้ แต่ถ้าจะให้ได้ใจคนไทยด้วยแล้ว ก็มีภารกิจบางประการที่ “ลุงตู่” ต้องไม่หลงลืมในการทัวร์ยุโรปรอบนี้ .. โดยเฉพาะที่ “ประเทศอังกฤษ” ที่เพิ่งมีข่าวว่าให้ วีซ่าพักอาศัย “หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ หนีคดี ยาวๆ เป็นทศวรรษ .. น่าจะเป็นหัวข้อสำคัญที่ “ผู้นำไทย”ไถ่ถาม “นายกฯเมย์”ให้แจ่มแจ้งซักที ว่าจริงเท็จประการใด .. ก็จนป่านนี้ทั้งกระทรวงต่างประเทศ หรือฝ่ายความมั่นคง ก็ยังแบ๊ะๆ ไร้ข้อมูลยืนยันไม่เลิก .. อาจเพราะรู้หมายของ “ทัพพญาตู่” ว่ากำลังจะไปเดิน “ดงผู้ดี” พอดี ก็เลยไม่กล้ายืนยันให้แน่ชัด .. แล้วใช้ความที่ “ไม่เป็นทางการ” นี่แหละ
เลี่ยงกระแสกดดัน และสมอ้างได้ว่า ถามไปก็กลัวจะ “เสียมารยาท” .. ในทางกลับกัน หากไม่ไถ่ถามให้ได้ความ แล้วเผอิญมันเป็นจริงอย่างที่สื่อรายงาน หรือ “หลานโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ออกมาเย้ย ก็เหมือนไปยืนให้เขาตบหน้าฉาดใหญ่ .. เพราะเอาเข้าจริง รู้กันดีว่า “มหานครลอนดอน”เป็นที่พำนักหลักของ “ยิ่งลักษณ์”หลังหนีออกไปจากประเทศไทย แค่เท่านี้ก็เพียงพอที่จะ “ประท้วง”หรือไม่คบค้าสมาคมด้วยแล้ว รอบนี้ไปก็อาจจะมีส่งสัญญาณ “ประท้วง”พอเป็นกระษัย มีหือมีอือกับเขาบ้าง .. หรืออย่างน้อย ก็ขอความกรุณาทางการอังกฤษ แจ้งที่อยู่ของ “สาวปู” ให้หน่อย จะได้ไม่เอามาเป็นข้ออ้างว่า มีอุปสรรคในการขอตัว “ผู้ร้ายข้ามแดน”ที่ “ตำรวจไทย - กต.ไทย”ใช้มาตลอด .. แล้วจะให้ดี พ่วงฝากตามตัว “บอส อยู่วิทยา” ผู้ต้องหาฆ่าตำรวจ ที่มีหมายจับตำรวจสากลติดตัวให้ด้วย .. ถือเป็นงานง่ายๆ ที่เชื่อเถอะได้ใจคนไทยแน่ อยู่ที่กล้าพอไหมเท่านั้นแหละ
**ไม่ค่อยฉลาด!! “คุณหนูตั๊น”ทายาททุนใหญ่เบอร์ต้นของประเทศ ทำมึนขอ “กองทุนยุติธรรม”ช่วยเงินประกันคดีกบฏ ทั้งที่รู้ฐานะตัวเองไม่เข้าข่าย “ผู้ยากไร้”ตามเงื่อนไข อีแค่ “เทคนิคทางกฎหมาย”ยื้อเวลาให้อัยการต้องส่งฟ้องล่าช้า เลือกเล่นเกม “ตื้นเขิน -เบาปัญญา” หาเรื่องโดนด่าเสียผู้เสียคน
ไม่นึกไม่ฝัน .. ระดับทายาททุนใหญ่เบอร์ต้นของประเทศ “คุณหนูตั๊น” จิตภัทร์ กฤดากร เซเลป กปปส.คนดัง ต้องยื่นคำขอรับความช่วยเหลือหลักทรัพย์ในการประกันตัวจาก “กองทุนยุติธรรม” ..จนถูกแซวว่า เป็นดัชนีชี้วัด “เศรษฐกิจแย่”อีกตัว ขนาด “ลูกเศรษฐีใหญ่”ยังตกระกำลำบาก ต้องมาขอรับความช่วยเหลือ “เศษเงิน” ช่วยประกันตัวเองจากทางราชการ .. ร้อนถึง "รองฯกุ๊กไก่" ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ต้องทำตามหน้าที่ เรียกหลักฐานทางการเงินมาพิจารณา .. แต่ก็ตอกกลับแบบนิ่มๆ ว่า “กองทุนยุติธรรม” มีเจตนารมณ์ในการ “ลดความเหลื่อมล้ำ” ในการเข้าถึงความยุติธรรม เน้นช่วยเหลือ “ผู้ยากไร้”เป็นอันดับแรก .. ที่ผ่านมากองทุนนี้ก็ถือเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกับ “คนจน - ผู้ยากไร้” ที่ไม่มีเงินประกันในระหว่างสู้คดี ก็มีเงินตรงนี้ช่วยไว้ ทำให้สามารถทำมาหากินในระหว่างขึ้นโรงขึ้นศาล ส่วนผิดถูกอย่างไรก็ตามเนื้อผ้า ..
นอกจากนี้ "รองฯกุ๊กไก่" บอกด้วยว่า ที่ผ่านมามีกรณี “บุคคลที่มีฐานะ”ขอรับความช่วยเหลือบ่อยๆ แต่ทุกเคส มักไม่ยอมส่งเอกสารทางการเงิน เรื่องก็ตีตกไป .. เชื่อเถอะ “จิตภัทร์” ที่ใครต่างก็เรียกกันคุ้นปากว่า “คุณหนูตั๊น - ไฮโซตั๊น” มีฐานะร่ำรวยไม่ได้ลำบากยากจน และมี “สติปัญญา” ที่ถึงขนาดเคยประกาศว่าจะเป็น “นายกฯหญิง”ก็รู้ดีถึง “เงื่อนไขสำคัญ” ของการใช้เงินกองทุน .. แต่ที่ทำมึน ยื่นเรื่องไปทั้งที่รู้ว่าไม่ได้รับการพิจารณาหรอก ก็เป็น “เทคนิคทางกฎหมาย”เพื่อยื้อเวลากระบวนการยุติธรรม ที่ทางอัยการกำลังจะยื่นฟ้องต่อศาล ในคดีร่วมกันเป็นกบฏ เท่านั้น .. ก็ไม่รู้ใครเป็น “กุนซือ” ให้ใช้มุกนี้ ทั้งที่หากจงใจยื้อเวลาจริงๆ ก็มี “เทคนิค” อีกตั้งมากมายให้เลือกใช้ .. อยู่ดีๆ หาเรื่องให้ถูกด่าเสียผู้เสียคนซะงั้น กับการเลือกเล่นเกมที่ “ไม่ค่อยฉลาด”เลยนะจ๊ะหนู.
ช.ชฎา