คสช.ปัดข้อเสนอแอมเนสตี้ ยุติคดีคนอยากเลือกตั้ง จับตาจุดยืนอนาคตใหม่ผิด กม.หรือไม่

ทีมโฆษก คสช.เผยปิดทางข้อเสนอ “แอมเนสตี้” จี้ยุติคดีคนอยากเลือกตั้ง ระบุเป็นข้อเรียกร้องเกินกรอบกฎหมาย ทำไม่ได้ ย้ำโรดแมปยังเหมือนเดิม ทำตามสัญญา เลือกตั้ง ก.พ. 62 พร้อมจับตา “อนาคตใหม่” ประกาศจุดยืนพรรค ส่อผิดกฎหมายหรือไม่

วันนี้ (31 พ.ค.) ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผบ.มทบ.11 ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีสำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน ชวนสมาชิกทั่วโลก จี้ไทยยุติดำเนินคดี 62 กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพยายามอธิบายตามข้อเท็จจริงให้สังคมเข้าใจหลักกฎหมาย และหลักการปฏิบัติ ทั้งนี้ ยืนยันว่า คสช. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตลอดจนฝ่ายกฎหมายได้ดำเนินตามกรอบกฎหมาย และอำนาจหน้าที่ ไม่ได้ละเมิดสิทธิใคร หรือเลือกปฏิบัติ และไปกลั่นแกล้งใคร

เมื่อถามว่า คสช.จะทำความเข้าใจกับองค์กรดังกล่าวอย่างไร พล.ต.ปิยพงศ์กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร เพราะความต้องการยังไม่ตอบสนอง เราต้องอธิบายตามความเป็นจริง ไม่รู้สึกหนักใจอะไร สิ่งใดเป็นข้อเรียกร้อง และอยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ ถ้าอะไรที่ทำได้ เช่น ปัญหาปากท้องก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ แต่ข้อเรียกร้องใดขัดกฎหมาย คสช.จะอธิบายให้เข้าใจว่าทำไม่ได้

เมื่อถามอีกว่าข้อเรียกร้องของแอมเนสตี้ฯ เกินขอบเขต คสช.หรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์กล่าวว่า หลักการทำงาน อะไรอยู่ในกรอบกฎหมาย อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำได้ ทุกคนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่อะไรที่เกินอำนาจหน้าที่ เกินกรอบกฎหมาย ตนขอชี้แจงว่าไม่สามารถทำได้

ผบ.มทบ.11 กล่าวต่อว่า การดำเนินการกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนั้น ที่ผ่านมาเราอธิบายทำความเข้าใจกับคนทั้งประเทศว่าบ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปได้ ดังนั้นขอเวลาที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งตามที่ทุกคนปรารถนา ในต้นปี 2562 เมื่อเลือกตั้งแล้วจะมีรัฐบาลใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งทางรัฐบาล คสช.จะส่งผ่านอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินให้รัฐบาลใหม่ ส่วน คสช.จะหมดอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ปี2560 อย่างไรก็ตามแต่ยังมีคนไทยจำนวนไม่มากอยากให้เลือกตั้งโดยเร็ว ทาง คสช.ขอความร่วมมือว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ควรอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย หากทำผิดกฎหมาย คสช. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกรอบกฎหมาย

พล.ต.ปิยพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จนหลายฝ่ายเกรงว่าจะกระทบกรอบโรดแมปว่า คสช.สนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้กระบวนการต่างๆ เดินไปตามโรดแมป ในเวลานี้ยังคงเป็นคำตอบเดิม คือ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 ส่วนรายละเอียดเรื่องการขยับเวลาจะเกิดขึ้นหรือไม่ ตนคิดว่าก็เป็นไปตามที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562

พล.ต.ปิยพงศ์กล่าวต่อว่า สำหรับการปลดล็อกพรรคการเมืองนั้น ตนคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งของ คสช.ที่ได้ระบุมาก่อนหน้านั้นว่าให้พรรคการเมืองเก่าและใหม่ทำกิจกรรมได้ในช่วงใดบ้าง ถือว่าเป็นกรอบระยะเวลาเหมาะสมอยู่แล้ว ทั้งนี้ คสช.ขอความร่วมมือว่าถ้าบ้านเมืองสงบเดินหน้าต่อไปได้ การบริหารราชการแผ่นดินและแผนงาน ก็ไม่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันถ้าบ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ก็ต้องมาแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าก็จะเสียเวลาไปอีก

“ขณะนี้ถือว่าบ้านเมืองเดินหน้าไปได้เรียบร้อยมาก ผมจึงขอให้นักการเมืองใจเย็นๆ เพราะทุกอย่างเดินหน้าไปตามโรดแมป ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นฝ่ายกฎหมาย หรือกระบวนการเตรียมการเลือกตั้งเพื่อไปสู่รัฐบาลใหม่ ก็ยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้” พล.ต.ปิยพงษ์กล่าว

เมื่อถามว่า สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า คสช.ทำตามสัญญาหรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์กล่าวว่า ณ เวลานี้ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ แต่อาจมีบางคนรู้สึกว่าช้าจึงออกมาเรียกร้อง ดังนั้น คสช.ก็จะพยายามอธิบาย เพราะต่างคนต่างเป็นคนพี่น้องคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น เราต้องทำความเข้าใจกับประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงนโยบายพรรค หากเป็นรัฐบาล จะมีการนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่ขัดคำสั่ง คสช. พล.ต.ปิยพงศ์กล่าวว่า “คสช.ได้ประเมินและติดตามความเคลื่อนไหว ผมไม่สามารถตอบได้ในเวลานี้ แต่ฝ่ายกฎหมายและส่วนงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดูว่า การออกมาชี้แจงกับสมาชิกพรรคในวันเปิดตัวมีคำพูดใดที่จะเข้าข่ายที่จะทำผิดกฎหมายหรือไม่”