xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิรูปคือจุดอ่อน-จุดเดือด ลุ้นรื้อตำรวจผลงาน “โบแดง”!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



กลายเป็นอารมณ์เดือดแบบมาคุกันเลยทีเดียว สำหรับเสียงวิจารณ์และคำถามเรื่องผลงานการ “ปฏิรูป” ที่อารมณ์ความรู้สึกไปกันคนละทาง และที่สำคัญ มีเสียงขัดคอจากคนกันเองอย่าง “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” ที่เวลานี้นั่งเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย ที่วิจารณ์แรงๆ ทำนองว่า “ไม่ได้เรื่องได้ราว” หรือไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะถูกขัดขวาง หรือใช้ข้าราชการมาทำงานปฏิรูปแบบนี้มันก็ต้องล้มเหลวอะไรประมาณนี้ แม้ว่าในตอนท้ายยังให้เครดิต “บิ๊กตู่” ว่า มีความตั้งใจจริงก็ตาม

งานนี้หากพิจารณากันตามอารมณ์ความรู้สึกแล้วก็ต้องเข้าใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เหมือนกันว่า หากคนที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้เป็นพวกนักการเมือง ไม่ว่าจะฟากประชาธิปัตย์ อย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือฝ่ายพรรคเพื่อไทย ที่ว่าการปฏิรูปไม่เอาอ่าว ก็ยังพอเข้าใจได้ แต่เมื่อคนกันเองออกโรงพูดกันกลางตลาดแบบนี้ เป็นใครก็ต้องโมโหเป็นธรรมดา

แม้ว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ พูดมานั้น มันเป็นการพูดกันตามความรู้สึกของชาวบ้านที่รับรู้กันอยู่ก็ตาม เพราะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อ้างว่า มีผลงานปฏิรูปออกมามากมาย มีการออกกฎหมายหลายร้อยฉบับในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มันก็อาจจะจริงไม่มีใครเถียง แต่ปัญหาก็คือมันสัมผัสไม่ได้ หรือว่ามันไกลตัว หรือว่าการออกกฎหมายดังกล่าวมันเป็นงานของฝ่ายบริหารที่ต้องทำ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ก้าวหน้า

ปัญหาก็คือ มันไม่ตรงใจประชาชน ชาวบ้านยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะยกตัวอย่างเช่น เรื่องใหญ่อย่างการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่อ้างว่านี่คือหนึ่งในผลงานการปฏิรูป แบบนี้มันก็มีการปฏิรูปได้เป็นร้อยเรื่องจริงอย่างที่ว่าจริงนั่นแหละ อีกทั้งเมื่อรัฐธรรมนูญเพิ่งบังคับใช้ยังไม่เห็นผล ทั้งในเรื่องกฎหมายพรรคการเมืองที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เป็นเจ้าของพรรคการเมือง เช่น มีการทำไพรมารีโหวต หรือหยั่งเสียงเลือกผู้สมัครของพรรคในเขตเลือกตั้ง แม้ว่าจะมองเห็นอนาคตที่ดี มีแนวโน้มที่ดี แต่เมื่อยังไม่เกิดขึ้นผลงานก็ยังไม่ปรากฏ

อีกด้านหนึ่งมันก็เหมือนกับมันไม่ใช่ความต้อวการหลักของชาวบ้านที่ปรารถนาให้ทำในอันดับหนึ่ง คล้ายๆ กับว่าไปทำงาน “นอกสั่ง” แน่นอนว่า เมื่อมีการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทิ้งไป แล้วก็ต้องร่างฉบับใหม่ขึ้นมา ต้องมีกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ฉบับใหม่ มันเป็นขั้นตอนที่ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ และหากผลออกมามีความก้าวหน้า มีกลไกในการป้องกันการทุจริตซื้อเสียง เกิดธรรมาภิบาลในการบริหารงานมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

แต่คำถามก็คือสิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ “การปฏิรูปตำรวจ” การปฏิรูปพลังงาน เป็นต้น เหล่านี้กลับไม่คืบหน้า กลับไปตั้งคณะกรรมการขึ้นมาร้อยแปด และยังเอาคนที่สมควรจะต้องปฏิรูปก่อน มานั่งเป็นประธานคุมการปฏิรูปเสียอีก ในทางตรงข้ามถ้าเริ่มด้วยด้วยการจัดการเรื่องการ “ปฏิรูปตำรวจ” เหมือนกับที่ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่แบบ “ครบวงจร” อย่างชุดที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ทำอยู่ในเวลานี้และคลอดออกมาเป็นกฎหมายตั้งนานแล้ว ขณะเดียวกัน ก็ดำเนินการออกกฎหมายเรื่องอื่นไปด้วย แบบนี้ก็เห็นหน้าเห็นหลังกันตั้งนานแล้ว

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา อาจจะเกิดความประมาทว่าถึงอย่างไร “กองหนุน” คงจะหลับหูหลับตาหนุนกันต่อไป เพราะคิดว่าดีกว่าให้พวก “ทักษิณ ชินวัตร” เข้ามา แต่นานวันเข้าเมื่อมีหลายเรืาองประดังเข้ามาพร้อมๆ กันในช่วงหลังๆ มันก็ต้องเหนื่อย จนต้องปรับบทบาทกันใหม่ เลิกใช้เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ยังติดอยู่กับระบบราชการจ๋าออกไปหลายคน งานบริหารจึงเริ่มมีสีสันมากขึ้น

ดังนั้น นาทีนี้คงไม่ต้องเดาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปต่อหรือไม่ แม้จะไม่ประกาศออกมา แต่ลีลาท่าทางมันก็มองเห็นกันอยู่แล้วว่า “ชัวร์” แต่ที่สำคัญก็คือต้องสร้างผลงานให้เป็นที่จดจำให้ได้สักอย่าง แม้ว่าการปฏิรูปหลายเรื่องจะยังไม่เห็นภาพชัดเจน และเปล่าประโยชน์ที่จะเถียงเรื่องนี้ เอาเป็นว่าเรื่องการ “ปฏิรูปตำรวจ” ต้องทำให้เห็นผลให้ได้สักเรื่อง เพราะนี่แหละคือความหวังของชาวบ้าน และจะเป็นผลงาน “โบแดง” ให้เกิดความจดจำปักหมุดได้เลย!!


กำลังโหลดความคิดเห็น