ปธ.สนช.หลบสื่อ หลัง ครม.เบรกงบสภาใหม่ ให้คนใกล้ชิดรับหน้า อ้างแจ้งไปสังคมก็ไม่ฟังหาว่าทุจริตอยู่ดี ขู่หากไม่อนุมัติงบไอที สภาใหม่สะดุดแน่ สร้างตามงบอาจได้อาคารพิกลพิการ ยันไมโครโฟนแพงเพราะระบบไฮเทค
วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงความเคลื่อนไหวของ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายหลังที่ประชุม ครม.ตีกลับคำของบประมาณเพิ่มเติม 8 กว่าพันล้าน สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายพรเพชร แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับหรือรับสายใดๆ นอกจากนี้ เดิมนายพรเพชรมีกำหนดการเป็นประธานในงานสัมมนาที่รัฐสภาเรื่อง “แนวทางการบริหารจัดการปัญหาลิงในพื้นที่วิกฤต” ในวันที่ 16 พ.ค. แต่ได้ให้นายวัลลภ ตังคนานุรักษ์ สนช.ทำหน้าที่แทน
รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดนายพรเพชรระบุว่า นายพรเพชรรับรู้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ไม่รู้จะต่อสู้อย่างไร เมื่อสังคมไปมองว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้น จะชี้แจงมีเหตุผลอย่างไรคนก็ไม่ฟังว่าไม่ได้มีการคอร์รัปชันใดๆ เกิดขึ้น แม้จะมีการแถลงข่าวไปก็ยังมีปัญหาอยู่เหมือนเดิม แต่จะมาโทษไม่ได้ว่าทำหน้าที่บกพร่อง เพราะได้พยายามต่อสู้แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ นายพรเพชรและผู้เกี่ยวข้องต้องทบทวนนำแผนงานมากางดูกันด้วยเหตุด้วยผลเท่าที่ทำได้
แหล่งข่าวระบุว่า วงเงิน 512.50 ล้านบาท ที่ ครม.อนุมัติมา เป็นเพียงงบสำหรับบริษัทควบคุมงานและผู้รับเหมา ส่วนงานระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบไอที ไม่ได้รับการอนุมัติเพราะอยู่ในวงเงินตีกลับ 8 พันกว่าล้านบาท และถ้าไม่ได้รับงบประมาณที่ขอไป การก่อสร้างรัฐสภาอาจสะดุด และล่าช้ากว่าแผนกำหนดเดิม อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สภาผู้แทนราษฎรประสานกับทางสำนักงบประมาณอยู่ตลอดเวลา แต่สังคมไปติดยึดเรื่องเงินไอทีทั้งหมดว่า จำนวนเงินสูง 8 พันกว่าล้านบาท ถ้าทางรัฐสภาชี้แจงอะไรไป พูดอะไรไปสังคมก็จับตาดูว่าจะมีการโกงกินทุจริตคอร์รัปชันอยู่ดี ซึ่งระบบสาธารณูปโภคภายในอาคารทั้งหมด ระบบการสื่อสาร ระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด อาคารมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ถ้าไม่ได้งบจะทำให้การก่อสร้างมีสะดุดแน่นอน เพราะเส้นตายที่ประธาน สนช.กำหนดไว้คือภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2561 จะต้องมีการย้ายที่ทำการทั้งหมด ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญ และทางผู้รับเหมาตกลงแล้วว่าภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2561 จะเร่งก่อสร้างห้องประชุม ส.ว.ให้แล้วเสร็จก่อน เป็นอันดับแรก ส่วนห้องประชุม ส.ส.หรือที่จะใช้ประชุมร่วม จะไปแล้วเสร็จเดือน มี.ค. 62 ซึ่งผู้รับเหมาได้บอกว่า ถ้าเงินไม่มาก็ต้องก่อสร้างตามจำนวนเงินที่มีอยู่ ก็อาจจะได้อาคารออกมาแบบพิกลพิการ
แหล่งข่าวระบุอีกว่า ส่วนราคาไมโครโฟนในห้องประชุมที่ราคาเป็นแสนบาทเพราะเป็นไมโครโฟนที่มีระบบแสดงตน มีระบบหลายอย่างที่ใช้ในห้องประชุมสภา ในการลงมติกดปุ่มเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ก็พยายามปรับลดราคาลง นอกจากนี้ยังมีระบบสารสนเทศสำหรับเจ้าหน้าที่ (Data Center) ซึ่งต้องใช้เงินมาก ทางสำนักงบประมาณกำลังดูอยู่