“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับทูตโรมาเนีย ถกชวนลงทุนอีอีซี พร้อมอำนวยความสะดวกนักลงทุน ย้ำไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางอาเซียน
วันนี้ (2 พ.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายบ็อกดัน บาเดีย เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ภายหลังการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย ในโอกาสที่มารับตำแหน่ง และแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีไมเคิลที่ 1 แห่งโรมาเนีย ซึ่งเอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณในการต้อนรับ และดีใจที่ได้มาดำรงตำแหน่งในไทย พร้อมกล่าวชื่นชมประเทศไทยที่มีความงดงามทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม ตลอดจนคนไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และกล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีมายาวนานหลายร้อยปี โดยเฉพาะในระดับพระราชวงศ์ จึงขอแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เช่นกัน
พล.ท.วีรชนกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมการพัฒนาประเทศของโรมาเนีย โดยเฉพาะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และโรมาเนียเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในสหภาพยุโรป (EU) โดยในปี 2562 โรมาเนียจะเป็นประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป และไทยจะเป็นประธานอาเซียน ดังนั้น ไทยและโรมาเนียสามารถมีบทบาทในการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างภูมิภาคในช่วงเวลาดังกล่าวได้ พร้อมความร่วมมือในกรอบการดำเนินความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปและเวทีระหว่างประเทศต่างๆ เช่น ASEM และ OSCE โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย ได้แสดงความยินดีที่มีการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป จากการปรับข้อมติที่ผ่านมา ซึ่งมีแนวโน้มว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พล.ท.วีรชนกล่าวว่า ด้านความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทยตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันความร่วมมือไทย-โรมาเนีย ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านการเกษตร ซึ่งไทยมีความสนใจที่จะเรียนรู้ในด้านการปศุสัตว์ และการผลิตผลิตภัณฑ์นมจากโรมาเนีย เช่นเดียวกับฝ่ายโรมาเนียที่สนใจจะร่วมมือกันทั้งในด้านการเกษตรและสาธารณสุข สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ฝ่ายไทยเน้นย้ำถึงศักยภาพและความพร้อมของไทย ในการเป็นศูนย์กลางของตลาดอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้าน จึงหวังว่านักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญชาวโรมาเนียจะเข้ามาร่วมลงทุนและทำงานในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งนี้ รัฐบาลได้เห็นชอบต่อโครงการ Smart Visa ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจที่จะมาลงทุนในโครงการต่างๆ
พล.ท.วีรชนกล่าวว่า ในช่วงท้าย นายกฯ แสดงความขอบคุณที่ฝ่ายโรมาเนียคอยดูแล และอำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาไทยในโรมาเนีย พร้อมขอให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่จะเป็นโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายต่อไป นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ประชาชนทั้งสองประเทศไปมาหาสู่กันมากขึ้นในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะทำงานและให้ความร่วมมือแก่เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างไทยกับโรมาเนียให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไปในทุกมิติ