xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิตร” เยือนมะกัน ย้ำเดินหน้าเลือกตั้งถก รมว.กลาโหมชื่นมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประวิตร” เยือนสหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์กลาโหม ไทย-สหรัฐฯ ชื่นมื่น ย้ำหุ้นส่วนยุทธศาสตร์และพันธมิตรใกล้ชิด เผยเตรียมลงนามแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านวิจัยและพัฒนาทางทหารในเดือน ก.ย. และขอบคุณสหรัฐฯ หนุนไทยพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

วันนี้ (24 เม.ย.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 61 เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมด้วยปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้แทนเหล่าทัพ ได้เดินทางไปกระทำพิธีวางพวงมาลา เพื่อแสดงความรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตจากสงคราม ณ สุสานแห่งชาติ ( Arlington National Cemetery) กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา

ต่อจากนั้นได้เดินทางไปกระทรวงกลาโหม (Department of Defense) เพื่อเยี่ยมคำนับและหารือกับ พล.อ.เจมส์ แมตทิส (James Mathis) รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและมีมิตรไมตรียิ่ง

พล.อ.เจมส์ ได้แสดงความยินดีกับ พล.อ.ประวิตร ที่ได้พบกันอีก หลังจากที่ได้เดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อ ต.ค. 60 ซึ่งไม่เคยเห็นประชาชนประเทศใด ที่จะเทิดทูนและให้ความเคารพรักสถาบันพระมหากษัตริย์เท่ากับประชาชนชาวไทย และขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่เดินทางมาเยือนและร่วมแสดงความรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตจากสงคราม

รมว.กลาโหมสหรัฐฯ กล่าวถึงความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 200 ปี และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศย้อนไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1818 โดยสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้เสนอส่งช้างมาสนับสนุนสหรัฐฯ ในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐฯ แม้ว่าประธานาธิบดี Lincoln จะมิได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว แต่สหรัฐฯ มีความซาบซึ้งใจและเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงมิตรไมตรีที่มีมายาวนานของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี

พร้อมทั้งกล่าวว่า สหรัฐฯ ตระหนักว่าไทยเป็นศูนย์กลางที่จะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค ในฐานะที่เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิด สหรัฐฯ ยึดมั่นที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อคงความมีเสถียรภาพและการเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน ระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ที่เปิดกว้างและเสรี (Free and Open Indo - Pacific) ของสหรัฐฯ และได้เน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทย กับ สหรัฐฯ โดยเฉพาะภายหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศระหว่างไทย-สหรัฐฯ ค.ศ. 2012 (2012 Joint Vision Statement for Thai-U.S. Defense Alliance) นอกจากนั้น ยังคาดหวังว่า ความสัมพันธ์อันดีที่ผ่านมากว่า 200 ปี จะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันแนบแน่นในอีก 200 ปีข้างหน้าเช่นกัน

พล.อ.ประวิตรได้กล่าวแสดงความขอบคุณ พล.อ.เจมส์ ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 200 ปี แห่งมิตรภาพไทย-สหรัฐฯ ( 200 years of U.S.-Thai Friendship) ในปีนี้ โดยเมื่อ 20 มี.ค. 61 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการ ฉลองความสัมพันธ์ “Great and Good Friends” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นลึกซึ้งและเป็นมิตรที่ดีต่อกัน

รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวย้ำว่า สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทย และขอให้เชื่อมั่นว่า ไทยจะยังคงเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของสหรัฐฯ อยู่เช่นเดิม ซึ่งความสัมพันธ์ทางทหาร ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เป็นหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีทั้งสองประเทศ รวมทั้งต้องการเห็นการยกระดับความเป็นพันธมิตรระหว่างกันให้ก้าวหน้าและแนบแน่นยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ และความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ภายใต้แถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมที่กำหนด

นอกจากนั้น ไทยพร้อมสนับสนุนสหรัฐฯ ในการสร้างความตระหนักรู้ทางทะเล (Maritime Domain Awareness : MDA) และความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลในกรอบอาเซียน เพื่อความสงบสุขร่วมกันของภูมิภาค และพร้อมสนับสนุนแนวคิดของสหรัฐฯ เรื่องความริเริ่มความร่วมมือด้านการขนส่งทางอากาศในภูมิภาค (Movement Coordination Center-Pacific : MCC-P) และแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการส่งกำลังบำรุง (Regional Logistics Center) พร้อมทั้งคาดหวังการสนับสนุนและเสนอแนะจากสหรัฐฯ เพื่อความสมบูรณ์ในการทำหน้าที่ของไทย ในตำแหน่งประธานอาเซียน ปี 62

สำหรับความคืบหน้าการจัดทำความตกลงระหว่างกลาโหมของกับกลาโหทมสหรัฐฯ ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการวิจัยและพัฒนานั้น (Master Information Exchange Agreement : MIEA) คาดว่าจะสามารถลงนามร่วมกันได้ภายใน ก.ย. 61 ซึ่งจะเป็นส่วนผลักดันให้เกิดการวิจัยและพัฒนาทางทหารร่วมกันมากขึ้น รวมทั้งเกื้อกูลต่ออุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย ตลอดจนแนวนโยบาย Thailand 4.0 และในตอนท้าย รองนายกฯ และรมว.กลาโหมได้กล่าวแสดงความขอบคุณ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ที่พร้อมให้การสนับสนุนความพยายามของรัฐบาล ในการเดินหน้าจัดการเลือกตั้งสู่การเป็นประเทศประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เพื่อเสถียรภาพที่มั่นคงและยั่งยืนของประเทศไทย




กำลังโหลดความคิดเห็น