รองนายกฯ มอบโอวาทผู้ผ่านโครงการผู้นำศาสนายุคใหม่ แนะ ให้ยอมรับสังคมพหุวัฒนธรรม ไม่มีการแบ่งแยก ร่วมมือกันทำงาน
วันนี้ (23 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบประกาศนียบัตรและให้โอวาทแก่ผู้ผ่านโครงการพัฒนาภาวะผู้นำเป็นผู้นำศาสนายุคใหม่ หลักสูตร 1 รุ่น 2 จำนวน 60 คน โดย นายวิษณุ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่ง 49/2557 ระบุใน 2 เรื่อง คือ ต้องการให้ผู้นำศาสนาหลักของไทยทุกศาสนาให้ความสำคัญกับบุคลากรในศาสนาของตนให้เพิ่มการมีบทบาท อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบมากขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาให้บุคลากรมีความเข้าใจในทางที่ถูกต้องและบริสุทธิ์ตามหลักศาสนา มีการสร้างศาสนสัมพันธ์กับศาสนาต่างๆ ให้เกิดความร่วมมือกัน อุดมการณ์เหล่านี้มีมานานตั้งแต่ยังไม่มีคำสั่ง คสช. แต่ในระยะหลังเริ่มมีความหย่อนยานลง คสช. จึงอยากย้ำเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติภารกิจตามคำสั่ง คสช. ให้มากขึ้น
นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลรับทราบจากสำนักจุฬาราชมนตรี ว่า มีการดำเนินการตั้งสถาบันพัฒนาผู้นำศาสนาอิสลาม เพื่อฝึกอบรมบุคลากร มีหลักสูตรภาวะความเป็นผู้นำสอดแทรกอยู่ด้วย เพื่อพัฒนาบุคลากรในศาสนาของตน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และยังตอบสนองกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาคน ตามที่รัฐบาลดำเนินการ จึงขอให้สถาบันได้พัฒนาหลักสูตรต่างๆ ของสถาบัน ให้เกิดประโยชน์กับบุคลากรที่อบรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาร่วมอบรมด้วยในอนาคต พร้อมกันนี้ ตนจะเสนอให้นายกฯพิจารณาใช้งานบุคคลที่เป็นศิษย์เก่าของสถาบันตามความเหมาะสมของงานต่อไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเคารพในหลักศาสนาสัมพันธ์ การมีส่วนร่วมของทุกศาสนา จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการปฏิรูป การทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อให้เกิดความปรองดอง รัฐบาลจึงอยากให้ทุกคนในสังคมยอมรับว่าไทยเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ไม่มีการแบ่งแยกว่าเขาหรือเราการทำงานก็จะสำเร็จได้