“ไก่อู” ย้ำ เอ็นบีทีต้องมีโฆษณาเพิ่มประสิทธิภาพสื่อสารกับประชาชน

“สรรเสริญ” ย้ำ ช่องเอ็นบีทีจำเป็นต้องหาโฆษณาเพื่อมีรายได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างประชาชนกับรัฐบาลได้ดีขึ้น ไม่ได้มุ่งเน้นแสวงหากำไร

วันนี้ (15 เม.ย.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงกรณีที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะใช้มาตรา 44 ให้ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ สามารถหาโฆษณาได้ ว่า ยังไม่ทราบว่าเนื้อหาในคำสั่งมาตรา 44 จะเป็นอย่างไร เพราะอยู่ที่ คสช. จะพิจารณาในรายละเอียด เพราะตนมีหน้าที่สะท้อนปัญหาของกรมประชาสัมพันธ์ ให้นายกรัฐมนตรี และ คสช. ฟังเท่านั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และ คสช. ที่จะพิจาณาช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหา

เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีความเร่งด่วนอย่างไรถึงต้องใช้มาตรา 44 พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สื่อของรัฐ มีหน้าที่สร้างความรับรู้ เข้าใจแก่ประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เราไม่ได้บอกว่าจะเปิดให้มีโฆษณาเพื่อจะสร้างหนัง สร้างละคร แต่ต้องการผลิตรายการข่าวเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงต้องการให้ผู้ผลิตที่มีทักษะและความสามารถมาทำรายการให้ช่องเอ็นบีที เพื่อสร้างการรับรู้ที่ดีต่อประชาชน ยืนยันว่า เราไม่ได้ต้องการทำกำไร และการหาโฆษณาที่นี้ ก็จะน้อยกว่าช่องอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ เมื่อมาตรา 44 ประกาศใช้แล้ว ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์สามารถติดต่อมาขอผลิตรายการได้ที่กรมประชาสัมพันธ์