นายกฯ เผยให้ปลัด พม.-รองปลัด พม.-ผู้ตรวจฯ ออกจากราชการไว้ก่อน ไม่มีเงินเดือน หากอนาคตไม่ผิด กลับมาเรียกร้องสิทธิได้ อวย “ปรเมธี” เก่งจึงโยกมา ปัดข้ามห้วย
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการโยกย้ายนายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ไปเป็นปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่าเป็นเรื่องที่ทางกระทรวง พม.เสนอมา โดยให้นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. และผู้ตรวจราชการอีกคนหนึ่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ไม่มีเงินเดือน และหากวันข้างหน้าเขาไม่ผิดก็กลับมาได้ โดยสามารถเรียกร้องสิทธิเหล่านี้คืนได้
นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนพวกที่ยังค้างๆ อยู่จำนวนหนึ่งก็จะต้องสอบต่อ ไม่ใช่ลงโทษแค่นี้ ยังมีอีกเยอะ ทุกอย่างบางทีก็อยู่ที่กลไกในการบริหารเหมือนกัน เรื่องการจ่ายเงินจ่ายทอง ระเบียบเก่าเป็นอย่างไรก็ต้องมาแก้ไขกันหมด บางทีก็หวังดีตั้งโน่นตั้งนี่ขึ้นมาและจะทำให้เร็วขึ้น แต่ปรากฏว่ามีการทุจริตขึ้นมาก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจนขึ้นในทุกกระทรวง และอาจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเสริมด้วย เช่น ป.ป.ท. เพราะมีอำนาจอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาให้ตนใช้ ม.44 ใช้อำนาจปกติไป ม.44 จะใช้ให้น้อยลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลที่ตั้งนายปรเมธี วิมลศิริ มาเป็นปลัด พม.เพราะอะไร ทำไมตั้งข้ามห้วยมา นายกฯ กล่าวว่า “เขาเก่งไง ผมไว้ใจเขา ทำไม เขามีความสามารถ ทางกระทรวง พม.เขาเสนอมา ผมก็พิจารณาหาคนที่เหมาะสมไว้วางใจได้ไปทำ ข้ามห้วยอะไร ก็ข้าราชการด้วยกันทั้งหมด”
ด้าน พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ เห็นชอบให้นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายณรงค์ คงคำ รองปลัดกระทรวงฯ ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอผลการสอบสวนการทุจริตเงินช่วยเหลือคนยากไร้ และแต่งตั้ง นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) ไปดำรงตำแหน่งปลัด พม. แทน โดยนายกรัฐมนตรีต้องการให้นายปรเมธี เข้ามาช่วยงาน ในการเตรียมการพัฒนาสังคมในอนาคต ทั้งเรื่องผู้สูงอายุและเด็ก ที่รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาแต่งตั้งรองปลัด พม.คนใหม่แทน ในการประชุม ครม. ครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ไม่ใช่การแก้อาถรรพ์ในกระทรวงที่ก่อนหน้านี้มีการทุจริตอยู่บ่อยครั้ง แต่ถือเป็นจังหวะของการปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
พล.อ.อนันตพร กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้และคนไร้ที่พึ่ง ล่าสุดมีข้อมูลพบข้าราชการเข้าข่ายทุจริตประมาณ 95 คน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่งรายชื่อมายังกระทรวง และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาแล้ว 14 คน ส่วนอีก 81 คน ให้ทาง ป.ป.ท. เป็นผู้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา หากพบว่า มีมูลความผิด ก็สามารถส่งเรื่องมายังกระทรวง เพื่อให้มีการลงโทษได้ทันที