สนช.ตั้ง 15 อนุกรรมการฯ เน้น “นายทหาร” ติดตาม “ไทยนิยม ยั่งยืน” 1.1 แสนล้านบาท ทีมงานลงพื้นที่ 77 จังหวัด 8 หมื่นหมู่บ้าน เข้าไปร่วมศึกษางบประมาณโครงการ เผยกระทรวงมหาดไทยร่วมทำโครงการ “สนช.วิถีไทยนิยม” พบปะชาวบ้าน และตรวจสอบการใช้งบประมาณ
วันนี้ (3 เม.ย.) มีรายงานจากอาคารรัฐสภา เปิดเผยว่า ภายหลังสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. งบกลาง 4.6 พันล้านบาท 2. งบรายจ่ายตามกระทรวง 9.5 หมื่นล้านบาท และ 3. งบบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงและหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรสูงสุด คือ กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน 3.4 หมื่นล้านบาท กระทรวงมหาดไทย 3.1 หมื่นล้านบาท และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2.2 หมื่นล้านบาท
ล่าสุด นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 ได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจำนวน 15 คณะ เพื่อจัดทำโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พบประชาชน ตามวิถีไทยนิยม ยั่งยืน โดยจะมีขั้นตอนและวิธีการในการลงพื้นที่ร่วมกันระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติกับกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ เน้นเข้าไปร่วมศึกษาโครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” ในวงเงิน 1.1 แสนล้านบาท โดยที่ผ่านมา สนช.ลงพื้นที่พบประชาชนครบ 77 จังหวัด และโครงการนี้กระทรวงมหาดไทยจะมาร่วมกับ สนช.ทำไทยนิยม ที่จะพบปะชาวบ้านและตรวจสอบการใช้งบประมาณ
มีรายงานว่า สำหรับคณะอนุกรรมการจำนวน 15 คณะ ประกอบด้วย 1. นายพีระศักดิ์ พอจิต เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย และพิษณุโลก 2. พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.เชียงราย พะเยา น่าน และตาก 3. รศ.ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน และนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ร่วมรับผิดชอบพื้นที่ จ.พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี และกำแพงเพชร 4. นายชาญวิทย์ วสยางกูร เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.บึงกาฬ หนองคาย มุกดาหาร สกลนคร นครพนม และกาฬสินธุ์ 5. พล.อ.โปฎก บุนนาค เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท
6. พล.อ.ศุภวฒิ อุตมะ เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี และหนองบัวลำภู 7. พล.ท.ชัยยุทธ พร้อมสุข และพลโท อำพน ชูประทุม ร่วมรับผิดชอบพื้นที่ จ.สระบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบูรณ์ นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว 8. นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล และนายอนุมัติ อาหมัด ร่วมรับผิดชอบพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล พัทลุง ตรัง และ นครศรีธรรมราช 9. พล.อ.อ.ธงขัย แฉล้มเขตร เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด และยโสธร 10. พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ พล.ร.ท.สนธยา น้อยฉายา และ พล.ร.อ. วีระพันธ์ สุขก้อน ร่วมรับผิดชอบพื้นที่ จ.ชลบุรี ระะยอง จันทบุรี ตราด และฉะเชิงเทรา
11. พล.อ.องอาจ พงษ์ศักดิ์ เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครปฐม และสุพรรณบุรี 12. พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน 13. นายวัลลภ ตั้งคณานุรักษ์ เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และมหาสารคาม 14. พล.ต.กลขัย สุวรรณบูรณ์ เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต และ กระบี่ 15. พล.อ.อ.อดิศักดิ์ กลั่นเสนาะ เป็นประธานอนุกรรมการ รับผิดชอบพื้นที่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสงคราม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
มีรายงานว่า คณะอนุกรรมการจะประกอบไปด้วย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 3 คน, ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ตามจำนวนที่เหมาะสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ และหน่วยงานด้านรักษาความปลอดภัย ประกอบด้วย ฝ่ายทหาร และตำรวจ