รบ.ห่วงตัวเลขซีพีไอ ตั้งเป้าอันดับดีขึ้น เร่งผลักดันบิ๊กดาต้ารวมข้อมูลเป็นประโยชน์

“วิษณุ” ยังไม่เห็นผลโพลนิด้า ปชช.ประทับใจการทำงานรัฐบาล พร้อมระบุเป็นห่วงตัวเลขซีพีไอ ดัชนีการรับรู้การทุจริต ทำอย่างไรให้ไทยเลื่อนอันดับดีขึ้น พร้อมเร่งผลักดันบิ๊กดาต้ารวมข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศ

วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนมีความประทับใจในการทำงานของ ครม.ประยุทธ์ 5 โดยเฉพาะการทำงานของรองนายกฯ ว่า ยังไม่เห็นผลโพล แต่มีคนเล่าให้ฟังเมื่อเช้าก็มีคนมาถาม ตนก็ยกประโยคที่เคยพูดหลายครั้ง คนเราอยู่กับโลกธรรม ลาภยศสรรเสริญ สุขทุกข์ สามวันดีสี่วันร้าย พอวันใหม่ก็เป็นอีกแบบ แต่ที่เราเป็นห่วง คือ ตัวเลขที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : IT) เปิดเผยคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (ซีพีไอ) ประจำปี 2560 ปรากฏว่าประเทศไทย ได้ 37 คะแนน อยู่ในอันดับ 96 จากทั้งหมด 180 ประเทศ เราจะทำอย่างไรให้ขยับอันดับได้ดีกว่านี้ ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่มากกว่า โดยหนึ่งปีจากนี้ก็ต้องทำให้ดีขึ้น ทุกคนรู้ดีว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน ทั้งนี้ เราตั้งเป้าหมายในระยะ 5 ปี 10 ปี ว่าตัวเลขจะดีขึ้นกว่านี้อย่างไร ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ต้องตั้งเป้าหมายไว้ด้วย

นายวิษณุยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นประธาน ว่าที่ประชุมมีการรายงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการจัดทำบิ๊กดาต้า (Big Data) ที่เป็นภาพรวมใหญ่ของข้อมูลระดับชาติ ขณะนี้ทุกกรมมีหมดแล้ว นายกฯจึงต้องการให้มีจุดที่รวมกันหนึ่งจุดเพื่อที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้านี้ได้ เพราะหากรวบรวมมาแล้วมีคนที่อ่านและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นจะสามารถคาดการณ์และพยากรณ์อะไรได้หลายอย่าง เช่น เรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค ที่สามารถใช้ในทางธุรกิจได้ หรือทางบริหารประเทศ สามารถดึงข้อมูลมาใช้ประโยชน์ เพื่อที่จะตอบโจทย์ 3 ข้อ คือ 1. ที่ว่าคนไทยจน ใครคือคนจน 2. เราวัดอย่างไร และ 3. จะช่วยเหลือตอบสนองคนจนได้อย่างไร ทั้งหมดนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อเรามีบิ๊กดาต้า อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังเห็นว่าน่าจะมีการจัดประชุม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องบิ๊กดาต้า เพื่อให้การทำงานเกิดความรวดเร็วยิ่งขึ้น