“ประยุทธ์” โชว์ลงมือพายเรือชมนาบัว พร้อมปลุกคนไทยต้องไปเลือกตั้ง สร้าง ปชต.สากลยั่งยืน ฉะ We Walk เดินประท้วงไม่เกิดประโยชน์ อย่าเชื่อคนบอกจะแจกเงิน ไม่มีของฟรี อย่าให้ใครบิดเบือนราคาข้าว ลั่นโครงการไทยนิยมต้องไร้ทุจริต ทุกบาททุกสตางค์ไม่รั่วไหล
วันนี้ (21 ก.พ.) เวลา 11.00 น. ที่บ้านศาลาดิน ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เยี่ยมชมแปลงนาบัวลุงแจ่ม สวัสดิ์โต บ้านศาลาดิน หมู่ที่ 3 ซึ่งเป็นที่ดินพระราชทาน และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีได้ลงเรือพร้อมพายเรือด้วยตัวเอง โดยกล่าวว่าไม่ต้องมีใครมาพายให้ พายเองได้ เพราะบ้านติดคลองเคยพายมาก่อน ขณะเดียวกัน ได้ให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีสอบถามเรียนรู้วิธีการปลูกบัวเพื่อนำไปปลูกที่ทำเนียบรัฐบาล และปลูกอย่างไรไม่ให้ปลากินบัวหมด
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวทักทายข้าราชการและประชาชนที่มาให้การต้อนรับ และชื่นชมว่าปลูกแปลงนาบัวได้สวยงามดี พร้อมสอบถามสายพันธุ์บัว วิธีการปลูก และรายได้ผลตอบแทนว่าคุ้มค่าไหม เกษตรกรทำแล้วอยู่ได้หรือเปล่า จากนั้นชมผังแสดงพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร และชมแผนที่ “เลียบคลองคล้องใจ มหาสวัสดิ์สู่ลัดมะยม” ซึ่งเป็นแผนที่คลองรับน้ำและระบายน้ำ พร้อมกล่าวว่าขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าให้มีขยะหรือผักตบชวากั้นขวางทางน้ำ
ต่อมานายกรัฐมตรีได้พบปะกับประชาชนที่เวทีประชาคมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ระดับตำบล พร้อมกล่าวกับชาวบ้านตอนหนึ่งว่า วันนี้มารับฟังปัญหาเพื่อนำไปแก้ปัญหาให้ประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน สิ่งที่รัฐบาลนำมาแนะนำมีทั้งการเกษตรการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ โดยประชาชนต้องรวมกลุ่มกันเพื่อให้รัฐบาลสนับสนุน รัฐบาลไม่ต้องการให้ทุกคนทิ้งการเกษตร แต่ทำอย่างไรที่จะให้อยู่ได้ ต้องปรับรูปแบบการเกษตรใหม่ทั้งหมด พร้อมสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์ อย่าทำแบบเดิมเราต้องหันกลับมาดูเพื่อนบ้านด้วยและภาคเอกชนก็ต้องมาช่วยกันในเรื่องของการตลาดพร้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การลงมาวันนี้ถือเป็นโครงการแรกที่รัฐบาลเปิดทั่วประเทศและวันนี้มาเพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน และส่งเสริมให้มีรายได้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สำหรับโครงการไทยนิยมยั่งยืน หมายถึงคนไทยนิยมการสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ ซึ่งโครงการไทยนิยมนี้ จะไม่ยอมให้เกิดการทุจริต ทุกบาททุกสตางค์จะต้องไม่รั่วไหล หากพบมีการทุจริตขอให้แจ้งนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการให้ และขออย่าให้ใครมาบิดเบือนว่าจะทำอะไรให้อีก ทั้งนี้ในวันข้างหน้าจะต้องใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า รัฐบาลจะให้ทุกคนทุกครัวเรือนไม่ได้ วันนี้ประชาชนต้องช่วยตัวเอง อย่าให้เขามาบิดเบือนว่าจะให้ราคาข้าวเท่านั้นเท่านี้ เพราะจะยิ่งจะทำให้ราคาข้าวตกกว่าเดิม ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้แก้ปัญหาไปแล้ว และคำว่าไทยนิยมคือคนไทยนิยมในการสร้างคุณงามความดีให้แก่ประเทศชาติ ให้กับส่วนรวมและครอบครัวอย่างยั่งยืน อย่าให้ใครมาปลุกปั่นว่าราคาข้าวจะขึ้นเท่านั้นเท่านี้ เพราะเมื่อขายไม่ออกจะเก็บไว้ที่ไหน นั่นคือปัญหาถูกหรือผิด ซึ่งสิ่งที่เขาทำมา มันไม่ถูกประชาชนต้องมีหลักคิด ไม่ใช่ได้ประโยชน์นิดหน่อยก็เอา อย่าให้ใครมายุแยงให้เกิดปัญหาอีกต่อไป การดำเนินโครงการต่างๆจะต้องไม่เกิดการทุจริตในทุกบาททุกสตางค์ ถ้าโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ครั้งหนึ่งไปได้ก็ต้องมีสอง-สาม-สี่
“ส่วนเรื่องของประชาธิปไตยไทยจะต้องเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนเป็นสากล ถึงเวลาเลือกตั้งก็ต้องไป ถ้าบอกไม่ไปเลือกตั้งดีกว่า อันนี้เสร็จเลย ต้องเลือกให้ดี ต้องรู้เรื่องประชาธิปไตยเป็นอย่างไร ประชาธิปไตยไม่ใช่การมาเดินประท้วง ดังเช่นที่กลุ่ม We Walk ทำนั้น ไม่เกิดประโยชน์ ควรหันหน้าหารัฐบาลมาให้ข้อมูลจะดีกว่า ส่วนการเลือกตั้งขอให้ทุกคนไปเลือกตั้ง ไม่ว่าจะกาช่องเลือกใครหรือไม่เลือกใครก็ตาม ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแล้วไม่ไปเลือกตั้ง เพราะเมื่อรวมคะแนนแล้ว อาจส่งผลต่อการมีรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้รัฐบาลที่ดีเป็นของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า รัฐบาลที่ดีต้องเป็นของปวงชนชาวไทย คำว่าปวงชนนั้นแตกต่างจากประชาชน ถ้าประชาชนคือคนนั้นคนนี้ กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ มันไม่ใช่ ปวงชนชาวไทยคือคนทุกอาชีพ รัฐบาลต้องทำหน้าที่แทนทุกคน รัฐบาลนี้ดูทุกคน ปัญหาถึงได้เยอะ ผมพูดด้วยความจริงใจ หากมีคนมาแจกเงินถือว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ เพราะคงไม่มีอะไรที่จะได้มาเปล่าอย่าให้ใครมาบิดเบือน สร้างความร้าวฉานอีก ส่วนตัวไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้อยู่แล้ว และทุกคนต้องรู้กฎหมายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะได้เยี่ยมชมตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ โดยนายกฯ ได้ชิมชมพู่น้ำดอกไม้ หรือชมพู่น้ำตาลทราย ผลไม้พื้นบ้าน สับปะรด เกี๊ยวน้ำจิ้มซีฟูด ทอดมันปลากราย และอาหารอีกหลายชนิด ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวัน