xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว : กาฝากสีกากี!! “ประทิน”จี้ถอดยศ “เสี่ยอ๊อด”พูดจาหมิ่นเกียรติองค์กร **หนาไม่พอ!! ประท้วงแค่ครึ่งวัน “ผอ.เซนต์คาเบรียล”ยอมยุติบทบาท **“ม็อบต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน”เทหมดหน้าตัก ทวง “คำมั่นเป็นทางการ”จากรัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด

พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ
ข่าวปนคน คนปนข่าว



** กาฝากสีกากี!! “ประทิน”จี้ถอดยศ “เสี่ยอ๊อด”พูดจาหมิ่นเกียรติองค์กร ลากไส้ “ดาบนัส ลอยฟ้า”มือแจกอั่งเปา อยู่ในราชการแต่ชื่อ ไม่เคยโผล่ทำงาน ทัวร์นอกโดยไม่รับอนุญาตเกือบร้อยหน เปิดภาพลับ“ดาบนัส”หิ้วกระเช้าอวยพรปีใหม่ “บิ๊กหยม”ผู้การนครบาล พบไวน์ลังละครึ่งแสน โผล่กลางโต๊ะทำงานด้วย

รุ่นใหญ่ต้องออกโรง .. องค์กรอันเป็นที่รักถูกย่ำยีต่อเนื่อง พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ในวัย 83 ปี ออกมากระซวก “เสี่ยอ๊อด ไซด์ไลน์”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ที่เปรียบ“อาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”เป็นแค่“อาชีพไซด์ไลน์” ..ถือเป็นคำพูดที่ทำลาย “เกียรติ-ศักดิ์ศรี”ของตำรวจเป็นอย่างมาก อีกทั้งตำแหน่ง ผบ.ตร. เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ได้รับการโปรดเกล้าฯ รวมทั้งการเป็น“ผู้นำตำรวจ”แต่ไปหยิบยืมเงิน “เจ้าของอาบอบนวด”นั่นก็อีก .. พฤติการณ์ลักษณะนี้“ขอโทษ”ไม่เพียงพอ ต้องเจอโทษสถานเดียวคือ“ถอดยศ”เท่านั้น .. งานนี้ก็ไม่รู้ว่า “ผู้มีอำนาจ”จะนำพาข้อชี้แนะของ“ผู้อาวุโส”แค่ไหน ..

ไปกันต่อที่ “อั่งเปาสีกากี”ที่ตำรวจนับร้อยชักแถวมารับกับ ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ เจ้าของฉายา“อ้วน ลอยฟ้า”ที่มีชื่อพัวพัน“ธุรกิจสีเทา” ..ข้อมูลชวนอึ้งที่ “ร.ต.ต.มานัส”ปัจจุบันยังเป็น “ตำรวจในราชการ”ระดับ“รองสารวัตร”สังกัด “สันติบาล”ที่ถูกขอตัวไปทำหน้าที่อารักขา พล.ต.อ.ไพศาล เชื้อรอด อดีตที่ปรึกษา (สบ10) ที่เพิ่งเกษียณไปเมื่อปีกลาย .. พอมีปม“อั่งเปาร้อน”ก็แอคชั่นเอาเรื่องกันขึ้นมาที ตามตัวเรียกกลับต้นสังกัดกันให้ควั่ก ปรากฏว่า ยังตามตัวไม่พบ .. แถม “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เพิ่งออกมาแฉด้วยว่า “ดาบนัส”มีประวัติ “ละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่” ไปต่างประเทศ “โดยไม่ได้รับอนุญาต”เกือบ 100 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงปี 58 เป็นต้นมาเสียด้วย .. ซึ่งตามระเบียบก.ตร. “ละทิ้งหน้าที่”แค่ 15 วัน ก็ไล่ออกได้แล้ว ก็น่าสงสัยว่าไฉน“อดีตดาบมนัส”ถึงยังอยู่รอดปลอดภัย จนได้ติดยศนายร้อย อยู่กินภาษีประชาชนได้สบายใจเฉิบ .. ชีวิต“ตำรวจไซด์ไลน์”มันดี๊ดี อย่างนี้นี่เอง เพราะแค่เงินเดือนราชการ ไม่น่าจะทำให้อู้ฟู่ ขนาดใจป้ำเลี้ยงโต๊ะจีน “ตำรวจชั้นผู้น้อย”ในสังกัด บช.น.7 นับร้อยนาย แถมแจกอั่งเปา ซองละ 500 พร้อมยันต์คุ้มภัยให้แบบไม่เสียดาย ..ฟังเสียง“บิ๊กหยม”พล.ต.ท. ชาญเทพ เสสะเวช ผู้การนครบาล กำกับดูแล บช.น.7 ช่วงวันแรกๆ ที่เกิดเรื่อง ดูแปร่งๆ ที่เบี่ยงประเด็นให้ดูมูลค่าในซองอั่งเปา ว่า ผิดกฎหมายป.ป.ช.หรือไม่ .. ทั้งที่ภาพออกมา มันประจานท่นโท่ว่าไม่เหมาะสม “บิ๊กอวบ”พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ก็เพิ่งประกาศหลั่ดๆ ห้ามรับแต๊ะเอีย-อั่งเปา-ประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น ในช่วงตรุษจีน
ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ มอบกระเช้าอวยพรปีใหม่ พล.ต.ท. ชาญเทพ เสสะเวช
.. แล้วก็ถึงบางอ้อ สาเหตุที่ทำให้“บิ๊กหยม” เสียงแปร่งๆ เมื่อมีเรื่องเกี่ยวกับ“ดาบนัส ลอยฟ้า”เมื่อ “มือดี”ปล่อยภาพ “ดาบนัส”เข้ามอบกระเช้าอวยพร “บิ๊กหยม”เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานี่เอง .. เจ้ากระเช้ากาแฟ-คอฟฟี่เมต เต็มที่พันกว่าบาท ไม่ผิดกฎหมาย ป.ป.ช.ชัวร์ .. ที่สะดุดตา ก็เจ้าลัง “Opus One”ไวน์ชั้นดีจากนาปา วัลเลย์ ประเทศสหรัฐฯ ที่กองอยู่บนโต๊ะทำงาน“บิ๊กหยม”มากกว่า .. สนนราคา Opus Oneไวน์ดังฝั่งอเมริกา ต่อขวดก็ไม่ต่ำกว่า“หมื่นบาทไทย”ยกลัง 6 ขวด ก็คูณเข้าไป .. ดูจากภาพนิ่งที่ปล่อยออกมา ไม่ชัดเจนว่าใครเป็น “ผู้ให้-ผู้รับ”ไวน์ลังละเกินครึ่งแสนที่ว่า แต่ถ้ามีการ“ให้ - รับ”เกิดขึ้นในห้องวันนั้น ในฐานะ “ข้าราชการตำรวจ”ทั้งคู่ ให้หรือรับ ความผิดก็ทั้งขึ้นทั้งล่อง นะท่านนะ
วินัย วิริยวิทยาวงศ์
**หนาไม่พอ!! ประท้วงแค่ครึ่งวัน “ผอ.เซนต์คาเบรียล”ยอมยุติบทบาท สร้างบรรทัดฐานที่ดีของคนระดับบริหาร มีเรื่องฉาวโฉ่ ก็ต้องถอยจากอำนาจ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เป็นแบบอย่างให้ลูกศิษย์ลูกหา เชิดหน้าชูตาให้“ศิษย์เก่าระดับบิ๊กๆ”อีกด้วย

แค่ครึ่งวันเท่านั้น .. “ภารดาวินัย”วินัย วิริยวิทยาวงศ์ ผอ.โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ก็ตัดสินใจเซ็นหนังสือไปยังเจ้าคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย เพื่อขอยุติบทบาท ผอ.โรงเรียน ตามที่ถูกเรียกร้อง .. หลังจากมีการรวมตัวประท้วงของ คณะครู นักเรียน ศิษย์เก่า ผู้ปกครอง ที่นัดหมายแต่งกายด้วยชุดดำ รวมตัวกันตะโกนขับไล่“ภารดาวินัย”ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา .. เสียงตะโกน "วินัยออกไป" ยังไม่ซาดี ช่วงบ่ายวันเดียวกัน“ภารดาวินัย” ก็ถอดใจ พร้อมยุติบทบาททันที .. ไม่ว่าจะเป็นด้วย“จิตสำนึก”หรือ “จำนนต่อหลักฐาน”ที่ถูกเปิดโปง ไม่ว่าจะเรื่องพฤติกรรมไม่ใส่ใจการบริหารงาน โรงเรียน ใช้อำนาจการแต่งตั้งบุคลากรระดับสูงโดยไม่เหมาะสม .. ยังมีพฤติกรรมเชิงชู้สาว ที่ขัดต่อจริยวัตรในฐานะนักบวช การเปลี่ยนขนม อาหารกลางวันนักเรียนไร้คุณภาพ .. หรือที่ฉกรรจ์หน่อย ก็ตรงนำเงินโรงเรียน 70 ล้านบาท ไปลงทุนในนามส่วนบุคคล โดยใช้อำนาจ ผอ. บีบบังคับทำให้การเบิกเงินไม่เป็นตามขั้นตอน ..

เห็นว่า“ฟางเส้นสุดท้าย”เป็นงานเลี้ยงตรุษจีน ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ ทำไปทำมาอุปโลกน์เป็น“งานวันเกิด ผอ.”ไปซะงั้น แถมค่าใช้จ่ายหลักล้านกลับไม่มีใบเสร็จอีกต่างหาก .. อย่างไรก็ตาม ถือเป็น“บรรทัดฐานที่ดี”ของบุคคลในระดับบริหาร โดยเฉพาะในฐานะครู อาจารย์ ที่ต้องเสี้ยมสอนลูกศิษย์ลูกหา .. การแสดงสปิริต ถอยตัวเองออกจากอำนาจ เพื่อให้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใส ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด .. ที่สำคัญยังเป็นการสร้างบรรทัดฐาน ซึ่งถือเป็นการประกาศเกียรติคุณของ“รร.เซนต์คาเบรียล”สถาบันการศึกษาชื่อดัง ที่มีศิษนานุศิษย์ เป็นบุคคลระดับสูงที่อยู่ในวงศ์วานอำนาจปัจจุบันมากมาย .. ตั้งแต่ “บิ๊กแดง”พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. “บิ๊กโบ้”พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกฯ “บิ๊กโด่ง”พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต รมช.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. .. และที่ขาดไม่ได้ก็ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พี่ใหญ่ของเพื่อนพ้องน้องพี่ “เลือดสีน้ำเงินขาว”อีกราย
 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
**เครดิตไม่เหลือแล้ว!! “ม็อบต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน”เทหมดหน้าตัก ทวง “คำมั่นเป็นทางการ”จากรัฐบาล หาใช่แค่วาทกรรม“ลมปาก”ของ “นายกฯตู่”ที่สั่งชะลอโครงการ แต่กระบวนการในพื้นที่ยังเดินหน้า “รมว.พลังงาน”ก็นิ่งผิดปกติ เหมือนรอจังหวะเล่นทีเผลอ

ขอเวลาอีกไม่นาน .. คำสัญญาลมๆ แล้งๆ ของ “รัฐบาล คสช.”ที่ “นายกฯลูงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดบ๊อยยย บ่อย แต่ก็ลากมาจะ 4 ปีแล้วยังไม่เห็นหน้าเห็นหลัง .. ยกเรื่องคำสัญญามา ไม่ได้เข้าแก๊ง“อยากเลือกตั้ง”อะไรกับเขาหรอก แค่อยากสะกิดให้เห็นว่า ผลพวงของพฤติกรรม“ทำไม่ได้อย่างที่พูด”มันส่งผลถึง “ความเชื่อมั่น”ของ “รัฐบาลทหาร”ที่ต่ำตมตีคู่ไปกับคะแนนนิยมนั่นแหละ .. อย่างการชุมนุมของ“เครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเลกระบี่-เทพา ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน”ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณด้านหน้ายูเอ็น ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลนั่นปะไร .. ก็เพราะคำพูดของ“ลุงตู่”ที่ว่า ให้ชะลอ“โครงการสร้างโรงไฟฟ้าเทพา”ออกไปก่อน เมื่อปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมานั้น ชาวบ้านลงความเห็นว่า“เชื่อไม่ได้”..

ก็ด้วยตั้งแต่ยื่นหนังสือให้ทบทวนโครงการฯ ถึง“นายกฯตู่”กับมือ จนถึงวันนี้ก็มีเพียง“ลมปาก”ของท่านนายกฯ ยังไม่มี“มติอย่างเป็นทางการ”ออกมาเลย .. เป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องยอมหยุดทำมาหากิน ถ่อสังขารมาชุมนุมในเมืองกรุง อดอาหารนานเกินสัปดาห์ จนต้องล้มหมอนนอนเสื่อไปนับสิบราย ก็เพื่อทวงถาม“ผู้มีอำนาจ”มี “คำมั่นที่เป็นทางการ”ในการยุติโครงการ .. น่าสังเกตว่า“ม็อบโรงไฟฟ้า”มาประชิดรั้วทำเนียบฯ ขนาดนี้ แต่ดูทางรัฐบาลหมางเมินพิกล ที่สำคัญยังไร้แอคชั่นใดๆ จาก ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เสียด้วย .. อารมณ์นี้ก็ต้องหวาดระแวงเป็นธรรมดา ว่ารัฐคงหวังให้ผู้ ชุมนุมอ่อนแรงกันไปเอง มากกว่าที่จะให้คำตอบที่ชัดเจน .. อีกทั้งคำว่า“ชะลอ”กับ “ยุติ”นั้นแตกต่างกันฟ้ากับเหว หลัง“นายกฯตู่”ประกาศให้ชะลอ แต่ชาวบ้านจับได้ว่า กระบวนการต่างๆ ในพื้นที่ก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง .. ย้ำอีกครั้งว่า ข้อเสนอของชาวบ้านคือการ“ยุติโครงการ”รวมทั้งยกเลิกรายงานผลการศึกษาต่างๆ ด้วย หาใช้การสร้างวาทกรรมให้สังคมเข้าใจผิด แล้วรอจังหวะทีเผลอ“รุกฆาต”อย่างที่ชาวบ้านหวาดระแวง.


ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น