ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เกียรติตำรวจของไทย!! “ตำรวจในเครื่องแบบ”นับร้อยเข้าคิวรับอั่งเปา ซองละ 500 จาก “ขาใหญ่ฝั่งธนฯ”ทั้งที่มีคำสั่งห้ามเด็ดขาด แฉ“ขาใหญ่”ก็ตำรวจดัง “ดาบมานัส ลอยฟ้า”หนึ่งในแบล็กลิสต์ คสช. เคยมีชื่อพัวพันบ่อนพนัน ปัจจุบันเป็นเซียนพระคนดัง อีกหนึ่งตัวอย่าง“ตำรวจไซด์ไลน์”
อั่งเปา ตั่วตั่วไก๊.. หน้าไม่อายจริงๆ กับคลิปภาพที่ “ตำรวจในเครื่องแบบ”นับร้อยนาย เข้าคิวต่อแถว-ยกมือไหว้เพื่อรอรับ“แต๊ะเอีย”จาก “ชายสวมเสื้อแดง”เมื่อเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมานี้ .. ทั้งที่ก่อนหน้านั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เพิ่งสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ"การรับ หรือผลประโยชน์ใดๆ" ในวันตรุษจีน .. มีข้อมูลระบุภายหลังว่า ตำรวจที่ปรากฏตัวในคลิป เป็น“ตำรวจชั้นประทวน”ในสังกัด กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7 ) ที่กำกับดูแล 4 สน.“ตลิ่งชัน - ธรรมศาลา -บางยี่ขัน - บางเสาธง" ผสมโรงด้วยตำรวจนอกพื้นที่ ที่ทราบข่าว .. ร้อนถึง "บิ๊กตุ๋ย" พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 ต้องสั่งให้ตั้งกรรมการสอบตามระเบียบ .. เบื้องต้น “บิ๊กตุ๋ย”เผยว่า เป็นคลิปจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ “วันไหว้”15ก.พ.ปีนี้ ที่บ้านหรู ในหมู่บ้านใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ท้องที่ สน.ธรรมศาลา .. แถมบอกด้วยว่า“ป๋าเสื้อแดง”ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นตำรวจนี่แหละ ชื่อ ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ เจ้าของฉายา “เซียนอ้วนลอยฟ้า”ปัจจุบันยังเป็นตำรวจในราชการ ระดับ“รองสารวัตร”สังกัด “สันติบาล” .. ทางข่าวช่วงหลังก็เลยพยายามเบี่ยงเบนว่า“อั่งเปา”ที่ให้กันระหว่าง“ตำรวจ-ตำรวจ”ด้วยกัน .. แต่คิดจะ “แถ”ก็ต้องไม่ลืม “คนให้” เป็นแค่ “รองสารวัตร”เอาสะตุ้งสตังค์จากไหนมาแจก ด้วยจำนวนเงินซองละ “ห้าร้อย”พร้อมเลี้ยงโต๊ะจีน จน“พี่ตำรวจ”มาต่อแถวยกมือไหว้ประหลกๆอย่างที่เห็น .. น่าสนใจตรงที่ภาพลักษณ์ของ“ร.ต.ต.มานัส”ก็ระดับ “ผู้มีอิทธิพลใหญ่”มีข่าวคราวข้องแวะกับบ่อนพนันที่ชื่อ“บ่อนลอยฟ้า”มาก่อน .. เมื่อครั้งยึดอำนาจ พ.ค. 2557 ก็ติดโผเข้ารายงานตัวกับ คสช.ด้วย วันนั้นยังเป็น“จ.ส.ต.มนัส”แต่เข้าเงื่อนไข “ดาบเลื่อนไหล”อายุครบ 53 ก็ได้ติดยศชั้นสัญญาบัตร เป็น “นายร้อยสอยดาว”อย่างที่เห็น .. ชื่อเสียงอีกด้านของ“ร.ต.ต.มานัส”โด่งดังในวงการพระเครื่อง มีแผงเช่าพระย่านท่าพระจันทร์-ปิ่นเกล้า เป็นที่มาของฉายา“เซียนอ้วนลอยฟ้า” ..ร่องรอยแบบนี้คุ้นๆ เป็น“ตำรวจไซด์ไลน์”คล้ายๆ กับ “เสี่ยอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.นั่นแล
** สนช.ไซด์ไลน์!! “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ”คลอดข้อบังคับจริยธรรมใหม่ เปิด“ทางหนีไฟ”เบียดบังเวลาราชการได้เต็มที ด้วย“ข้อยกเว้น”มาจาก“กระบวนการพิเศษ”แค่ยื่นลาต่อประธาน สนช. เป็นใช้ได้ ปีนึงโผล่มาโหวตแค่ 6 วัน อย่าง“บิ๊กติ๊ก”ก็ยังรับเงินเดือนเต็ม
แก้ไขใหม่ไฉไลกว่าเดิม .. ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกรรมาธิการ .. ที่หยิบเอามาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ - ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ - ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ มาแก้ไขให้สอดคล้องต้องกัน .. ที่ติดใจกันก็ไม่พ้น ในข้อ 23 ว่าด้วยบทบังคับที่กำหนดว่า "อุทิศเวลาแก่ทางราชการ ไม่เบียดบังเวลาราชการไปประกอบธุรกิจ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว" .. ทำเอา “สนช.ฝักถั่ว”นั่งกันไม่ติด ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านกันอย่างกว้างขวาง เสนอให้กำหนด“บทเฉพาะกาล”งดเว้นกับ “สนช.ชุดปัจจุบัน”ที่มาโดย“กระบวนการพิเศษ”.. พร้อมอ้างว่า สนช.หลายคน มีอาชีพเป็น“นักธุรกิจ”ดังนั้นหากเขียนเนื้อหาแบบนี้ อาจถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมขัดจริยธรรมทั่วไปได้ .. แต่ก็สบายใจกันไปเมื่อ "กล้าณรงค์ จันทิก" สมาชิก สนช. ในฐานะประธานกรรมาธิการร่างข้อบังคับฯ เปิด“ทางหนีไฟ”เอาไว้ให้ว่า บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญกำหนด“ข้อยกเว้น”ให้กับ สนช. ชุดปัจจุบันไว้อยู่แล้ว .. พร้อมบอกด้วยว่า "สามารถยื่นลาต่อประธาน สนช. เหมือนที่เคยปฏิบัติมาได้ โดยจะไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ" ..
ก็เลยทำให้ตีความกันว่า “สนช.สามารถรับจ็อบ ไม่ต้องมาประชุมก็ได้ ไม่พ้นสมาชิกภาพ”..คนอื่นคิดยังไง ไม่รู้ แต่ภาพของ“บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปัจจุบันยังมีหมวกสมาชิก สนช.อยู่ ลอยมาให้เห็นทันที .. ก็เคยถูกเปิดสถิติลาประชุมเป็นร้อยๆวัน ปีนึงโผล่มาลงมติแค่ 6 วัน ก็ยังไม่สิ้นสถานภาพ แถมนอนตีพุงรับเงินเดือนเต็มๆ 1.2 แสนบาท ทุกเดือน .. กลายเป็นบรรทัดฐาน“สนช.ไซด์ไลน์”ที่ยอมรับได้ แบบนี้สมาชิกสนช. คนอื่นก็ยิ่งสบายใจไทยแลนด์
** วิกฤตความเชื่อมั่น!! “กรุงเทพโพล”กระทืบซ้ำ ปมกระบวนการยุติธรรมไม่เท่าเทียม เชื่อ“พรานเปรมชัย - ทายาทกระทิงแดง-ธัมมชโย - คนฆ่าน้องเมย”ลอยนวลแน่นอน ระวัง “อภิสิทธิ์ชน - สองมาตรฐาน”ขยี้ขาลง คสช. จนโงหัวไม่ขึ้น
ซ้ำอีกดอก .. วีคก่อน“นิด้าโพล” วีคนี้เป็น“กรุงเทพโพล”ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับ“กระบวนการยุติธรรม”เน้นไปที่ การเอาผิดผู้กระทำความผิด“เศรษฐี-ผู้มีอิทธิพล”..คราวนี้ไล่เรียง “คดีบิ๊กเนม”เป็นรายๆให้เห็นเลยว่า ประชาชนไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมในคดีไหนอย่างไร .. ผลปรากฏว่า “คดีพรานเปรมชัย แห่งป่าทุ่งใหญ่นเรศวร”มาอับดับหนึ่ง ที่ 64.2% ตามมาด้วย “คดีทายาทกระทิงแดง ซิ่งรถชนตำรวจตาย” ที่ 53.3% .. ต่อด้วย“คดีธัมมชโย-ธรรมกาย”ที่ 50.4% สูสีกับ“คดีน้องเมย ที่ตายอย่างมีเงื่อนงำใน รร.เตรียมทหาร”ที่ 49% .. ทั้งหลายทั้งปวงตอกย้ำให้เห็นถึงข่าวไม่ไว้วางใจใน“กระบวนการยุติธรรม”ในยุคที่ คสช.เรืองอำนาจ ด้วยคดีเกือบทั้งหมดเกิดในช่วงเกือบ 4 ปีมานี้ .. นี่ทางโพลยังดูจะเกรงใจ ไม่เอา“คดีการเมือง”ไปถามด้วย ทั้ง“คดียิ่งลักษณ์ จำนำข้าว”ที่หนีไปตามช่องทางธรรมชาติ หรือกรณี“โคตรนาฬิกาเสี่ยป้อม”ที่ล่าสุดเห็นว่าต้องเลื่อนการสรุปไปก่อน ด้วย“ผู้ถูกกล่าวหา”ขอขยายระยะเวลาในการชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมไปต้นเดือน มี.ค.นู่น ..
ในจังหวะเดียวกันก็มีผลจาก“สวนดุสิตโพล" สำรวจความเห็นเกี่ยวกับผลงานรัฐบาลออกมา .. ภาพรวมคะแนนเต็ม 10 ได้มา 5.35 ส่วนแยกเป็นหัวข้อมีแค่“สอบตก - คาบเส้น”ไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจ-ปรองดอง-เลือกตั้ง-ทุจริตคอร์รัปชัน .. เรื่องราวบอกได้ว่า“ขาลง”อย่างชัดเจนในทุกด้าน สอดรับกับ “ลางร้าย”อ่างบัวเสริมฮวงจุ้ยแตก ที่“บิ๊กรัฐบาล”ยักไหล่แค่อุบัติเหตุ .. แต่กลับพบ“โคมเต็งลั้ง”โผล่มาประดับประตูเข้าออกทำเนียบฯ ทั้งที่ไม่เคยมาก่อน หรือจู่ๆ มีธูปปริศนา 36 ดอก ไปปักอยู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า .. ทาง“โหราศาตร์-ไสยศาสตร์”ชี้ตรงกัน “แก้เคล็ด”แน่นอน สะท้อนความไม่แน่ใจในความจีรังของอำนาจในมือตัวเอง .. ทั้งที่มีความพยายามโฆษณาป่าวประกาศมาตลอดว่า ยังไม่วิกฤต “เรตติ้งลุงตู่”เอาอยู่แน่นอน แต่กลับมาง่วนกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง เหมือนคนต้องการที่พึ่งทางใจ .. และทั้งที่หนทาง“กู้วิกฤตศรัทธา”มีตั้งมากมาย ดีกว่ามาพึ่งเรื่องที่มองไม่เห็น .. หนึ่ง ทำผลงานพัฒนา-แก้ไขปัญหา สอง ขันนอตกระบวนการยุติธรรม ลบภาพ“อภิสิทธิ์ชน - สองมาตรฐาน”ยิ่งคดีดัง ต้องปล่อยให้เป็นตามครรลอง อย่าให้ค้านสายตาสังคม .. ตลอดจนกู้ภาพ "ความน่าเชื่อถือ" ของ “ท่านผู้นำ”และคนแวดล้อม พูดจาให้อยู่กับร่องกับรอย ทำให้ได้อย่างที่พูด อย่าพึ่งแต่“อภินิหารกฎหมาย”ให้มากนัก.
ช.ชฎา