xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” เดินเครื่องแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ฟุ้งมั่งคั่งยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา(แฟ้มภาพ)
นายกฯ เปิดประชุม “ยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/61” วางเป้าหมายให้เกิดการบริหารงานยั่งยืนต่อเนื่อง 20 ปี เชื่อเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ย้ำให้ทุกหน่วยงานต้องบูรณาการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามแผน ด้าน"ปรเมธี"เผยเตรียมจัดบิ๊กแบงใหญ่ตีปิ๊บโชว์ พร้อมใช้กลไกไทยนิยมเจาะลงทุกพื้นที่

วันนี้ (15 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/2561 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมที่มีความสำคัญ เพราะจะเป็นมาตรการและกลไกหลักที่จะทำให้เกิดการบริหารราชการแผ่นดินในลักษณบูรณาการที่มีความต่อเนื่องและมีธรรมาภิบาล เกิดความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศและการใช้จ่ายงบประมาณ รวมถึงการจัดทำแผนงานให้ตรงต่อความต้องการของประชาชน และศักยภาพของประเทศ

โดยมีเป้าหมายให้เกิดการบริหารงานอย่างยั่งยืนในห้วงระยะเวลา 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อทำให้อนาคตของประเทศเป็นไปตามวิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ที่เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางตามพระราชดํารัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในเรื่องของยุทธศาสตร์การพัฒนา ที่ประกอบไปด้วย ความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา หมายถึงการเข้าใจประชาชนเข้าใจพื้นที่ การเข้าถึงปัญหาและอุปสรรครวมถึงศักยภาพของพื้นที่ อันจะนำไปสู่การวิเคราะห์และปฏิบัติให้เกิดผล ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้สืบสานต่อยอดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เกิดขึ้นผลอย่างยั่งยืนซึ่งทุกอย่างต่างมีหลักการและเหตุผลโดยเฉพาะความพอเพียง

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การดำเนินการที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้มีการสร้างการรับรู้ และปูพื้นฐานเรื่องยุทธศาสตร์ชาติไว้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีการบริหารราชการแผ่นดินในลักษณะส่วนราชการเพียงอย่างเดียว และส่วนใหญ่เป็นารจัดงบประมาณตามภารกิจหรือฟังก์ชัน รายจ่ายประจำ รายจ่ายตามภารกิจและพันธกิจของแต่ละหน่วยงาน ดังนั้น วันนี้จึงจำเป็นต้องทำให้เกิดการบูรณาการการทำงานในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีระบุอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่จะทำให้ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด รวมถึงได้รับความเชื่อมั่นเชื่อถือจากประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นยุทธศาสตร์ชาติจะเกี่ยวข้องกับนโยบายของรัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคง มีเรื่องที่ต้องดำเนินการใน 16 เรื่องหลัก ในขณะนี้ได้มีการพิจารณาเพิ่มเติมเป็น 21 เรื่อง และมีแผนด้านความมั่นคงแห่งชาติอีก 18 แผน และมีแผนงานด้านความมั่นคงเสริมอีก 6 ด้าน รวมถึงแผนสภาพัฒน์ระยะเวลา 5 ปีที่ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ พร้อมทั้งเพิ่มยุทธศาสตร์เสริมอีก 4 ยุทธศาสตร์ ดังนั้นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์จึงจะต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทของการปฏิรูป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศเกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่วางไว้

ต่อมาเวลา 12.20 น.ทึ่ตึกนารีสโมสร นายปรเมธี วิมลศิริ เลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ แถลงภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมเพื่อรับทราบความก้าวหน้าการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 คณะ ที่ได้มีการรับปรุงส่งมายังฝ่ายเลขานุการแล้ว ที่ได้มีการทบทวนเป้าหมายเพิ่มเติม มีการตัดทอน ปรับปรุงองค์ประกอบให้คมชัดสมบูรณ์ย่ิงขึ้น และจะทำการยกร่างแล้วจะเปิดรับฟังความคิดเห็น และที่ผ่านมาได้เปิดรับฟังมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ทั้งจากเว็บไซต์ของสภาพัฒน์ฯและเว็บไซต์ของคณะกรรมการฯจัดทำร่าง รวมถึงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งจากเอกชนและภาคประชาชนมาหารือ ส่วนการเปิดเวทีรับฟังความเห็นในพื้นที่ระดับภาคทั้ง 4 ภาค โดยที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปิดรับฟังแล้วที่จ.ขอนแก่น ภาคเหนือที่จ.เชียงใหม่ และวันที่ 16 ก.พ.เปิดเวทีที่ภาคกลางที่ศูนย์ราชการ และวันที่ 22 ก.พ.ภาคใต้จ.สงขลา

เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังสั่งเพิ่มเติมเรื่องการเผยแพร่สร้างการรับรู้และความเข้าใจ รับฟังความเห็นให้มากกว่า โดยเฉพาะให้ความสำคัญกลุ่มเยาวชนที่จะเข้าสู่วัยทำงานในช่วง 20 ปีต่อไปในยุทธศาสตร์ชาติ ขณะที่สภาหอการค้าและสภาอุตสากรรมก็มีกลุ่มผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่อยู่แล้วที่ร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น ขณะที่หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงที่มีการจัดกันเยอะ ที่ประชุมได้ให้ความเห็นหลักสูตรต่างๆเหล่านี้ อยากให้นำยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปไปอยู่ในแผนปฏิบัติ และเดือนมี.ค.นี้จะมีการจัดงานมหกรรมยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศหรือบิ๊กแบงเพื่อสร้างการรับรู้ในกรุงเทพฯ และจะมีการเพิ่มให้ข้อมูลข่าวสารให้มากขึ้นผ่านสื่อต่างๆและจะมีเวทีย่อยๆระดับพื้นที่ทั่วประเทศ ผ่านกลไกโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อเข้าถึงประชาชนทุกส่วน

สำหรับขั้นตอนหลังจากเปิดรับฟังความเห็นแล้วก็จะนำความเห็นประชาชนมาพิจารณาปรับปรุงอีกครั้งก่อนเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อให้ความเห็นชอบในเดือนพ.ค.61และจะเสนอครม.ให้ความเห็นชอบเดือนมิ.ย.61 ก่อนส่งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ให้ความเห็นชอบ จากนั้นจะทำให้มีแผนยุทธศาสตร์ชาติตามรัฐธรรมนูญได้ในเดือนก.ค.61 ยืนยันการจัดทำทิศทางเป้าหมายของประเทศในระยะ 20 ปี ซึ่งมีเสียวิจารณ์ว่า 20 ปีเป็นเรื่องระยะยาว จะมองทิศทางกำหนดเป้าหมายได้อย่างไร ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีข้อมูลว่าหลายประเทศในโลกมีการจัดทำยุทธศาสตร์วิสัยทัศน์ประเทศในระยะยาว บางประเทศไปถึง30-50 ปีด้วยซ้ำ ทั้งประเทศที่ยากจนและร่ำรวย ทุกประเทศตื่นตัวและเห็นเป็นเรื่องสำคัญที่คำนึงการบริหารประเทศในระยะยาว ถ้าไม่ทำยุทธศาสตร์ชาติประเทศถูกวิจารณ์ได้ว่าไม่มีวิสัยทัศน์ทำเรื่องระยะสั้นไปวันๆ

นายปรเมธีกล่าวต่อไปว่า วันนี้เบื้องต้นประชุมให้ความเห็นชอบร่างแผนการปฏิรูปประเทศ โดยขั้นตอนต่อไปจะขอความเห็นชอบจากครม. ภายในเดือนมี.ค.จากนั้นถ้าครม.เห็นชอบจะเสนอให้สนช.รับทราบเพื่อประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป พร้อมใช้ในเดือนเม.ย.นอกจากนี้นายกฯ สั่งการให้ทุกกระทรวงจัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตาม และประสานงานกับคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศในแต่ละด้าน โดยจะมีผู้บริหารระดับปลัดกระทรวงเป็นประธาน รวมถึงมีการตามประเมินผลและรายงานนายกฯเพื่อให้รับทุกๆ 3 เดือน ประเมินความก้าวหน้าทุกปี รวมถึงสนช.ทั้งนี้ร่างแผนยุทธศาสตร์และร่างปฏิรูประเทศถือว่าเสร็จแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

นายปรเมธีกล่าว่า หลายหน่วยงานให้ความร่วมมือ แต่ก็มีทักทวงในบางเรื่อง เช่น คณะกรรมการปฏิรูปด้านการเมืองอยากให้สภาพัฒน์เป็นคนประเมินนโยบายรัฐบาลทุกปีงบประมาณ เพื่อไปรายงานต่อสภา แต่สภาพัฒน์เห็นว่าต้องทำงานกับรัฐบาล การประเมินผลควรเป็นคนกลางและเห็นว่าสำนักงานงบประมาณของรัฐสภาที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่น่าเป็นคนประเมินผล


กำลังโหลดความคิดเห็น