“ประวิช” เผย กกต.ยันเห็นแย้งกฎหมายเลือกตั้งมีเหตุผล ชี้แจงได้ ปัดแสดงความเห็นคว่ำร่างฯ พร้อมร่วมมือ โรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย เผยแพร่ประชาธิปไตยรองรับการเลือกตั้งในอนาคต
วันนี้ (12 ก.พ.) นายประวิช รัตนเพียร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ส.และ ส.ว. ว่ามีหลายประเด็นที่ กกต.ได้ทำความเห็นแย้งไป เชื่อว่าประธาน กกต.มีข้อมูลและรายละเอียดอยู่ในมือจะสามารถชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ หรือหากต้องชี้แจงต่อที่ประชุม สนช.ก็เชื่อว่าจะชี้แจงได้หมด ทั้งนี้ ที่ประเด็นที่ กกต.มีความเห็นแย้งเป็นการพิจารณาจากประสบการณ์ในการปฎิบัติ และมองว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ เราไม่ได้มีการคาดเดา ว่าจะปฏิบัติได้หรือไม่ได้ หรือมีข้อขัดข้องในทางปฏิบัติ กกต.พร้อมปฏิบัติตามเมื่อออกมาบังคับใช้เป็นกฎหมาย ไม่มีอิดออด เพราะฉะนั้น สนช.ตัดสินออกมาอย่างไร กกต.พร้อมปฏิบัติตาม
“เราให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา เมื่อกฎมายให้เราทำความเห็น เราก็ได้เสนอไปแล้ว ส่วนผลการพิจารณาของที่ประชุม สนช.จะเป็นอย่างไรเราก็พร้อมยอมรับ”
เมื่อถามถึงกระแสคว่ำร่างกฎหมาย ส.ว.อาจทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป นายประวิชกล่าวว่า ไกลเกินกว่าที่ตนคิด
ขณะเดียวกัน นายประวิชได้เป็นประธานในการลงนามความร่วมมือระหว่าง กกต.กับสภาประมุขแห่งบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ซึ่งมี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการณ์เลขาธิการ กกต. และมุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ เลขาธิการสภาฯ เป็นผู้ลงนาม โดยการลงนามครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือทางวิชาการ ในการที่ฝึกอบรมสัมมนา พัฒนาเครือข่าย หลักสูตร บุคลากร เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ด้านการสร้างความรู้ความเข้าใจ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย และกระบวนการเลือกตั้งทุกระดับ โดยนายประวิชกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกันมาแล้ว และ กกต.เห็นว่าจะต้องมีการเตรียมคนให้มีความพร้อม เพื่อให้การเกิดการเลือกตั้งที่มีคุณภาพ จึงนำมาสู่การพัฒนาหลักสูตรต่างๆ และลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งสภาประมุขแห่งบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ไม่ได้มีเพียงโรงเรียน 349 โรงเรียน นักเรียนคาทอลิคอีก 5-6 แสนคน แต่ยังมีชุมชน คริสตชน กระจายอยู่ทั่วประเทศอีกเป็นล้านคนทั่วประเทศ ดังนั้นเครือข่ายดังกล่าวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก ซึ่งมุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ ก็มีความตั้งใจที่จะเห็นบ้านเมืองอยู่ด้วยกันด้วยความรักใคร่ ประชาธิปไตยมีการพัฒนาที่ก้าวหน้า จึงถือว่าเป็นโชคดีของ กกต.ที่ได้รับความร่วมมือดังกล่าว
ด้านประมุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาธิปไตยของไทยก็มีการพัฒนามาแบบลุ่มๆ ดอนๆ ซึ่งเราก็อยากเห็นการพัฒนาที่ดีกว่านี้ อยากเห็นการเลือกตั้งครั้งต่อไปมีความบริสุทธิ์โปร่งใส ได้คนดีมาบริหารประเทศ เราตกอยู่ในกับดักของการเลือกตั้งแค่เพียงการหย่อนบัตรอย่างเดียวมานาน ทำอย่างไรที่เราจะไปได้มากกว่านี้ เราเป็นคาทอลิก แต่เราก็เป็นคนไทย เรามีวัดอีกหลายร้อยพันวัดซึ่งก็อยากให้ กกต.ไปฝึกอบรม ครู ก. ครู ข. แล้วไปให้ความรู้กับคนทั่วไป เพื่อที่ประเทศจะได้พ้นวังวนและก้าวไปสู่ประเทศไทย 4.0 อย่างแท้จริง