“สุริยะใส” ตั้งข้อสังเกต เลื่อนวันบังคับใช้ กม. เลือกตั้ง ส.ส. อาจมีเหตุผลมากกว่ารอพรรคทหารพร้อม เหตุเพราะได้ไม่คุ้มเสีย แนะจับตาศาลรัฐวินิจฉัยคำสั่ง คสช. 53/2560
วันนี้ (21 ม.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) แสดงความเห็นว่ากระแสข่าวที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ปรับแก้กฎหมายให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วันนั้น ถ้าเป็นจริงตามข่าวจะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนไปไม่มีกำหนด และชัดเจนว่า ปีนี้ยังไม่มีเลือกตั้งส่วนจะเป็นต้นปี 62 หรือไม่ก็ยากจะคลาดการณ์อีก
ที่สำคัญ ยังต้องจับตาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณคำสั่ง ม.44 ที่ 53/2560 กรณีปลดล็อกพรรคการเมือง ถ้าศาลวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมตูก็ได้ะมีความยุ่งเหยิงตามมามากกว่าที่คิด แต่ถ้าวินิจฉัยว่าไม่ขัด คสช. ก็จะมั่นใจมากขึ้นในการกำหนดโรดแมปเลือกตั้งที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่
สถานการณ์ที่ไร้ความชัดเจนในโรดแมปเลือกตั้งบวกกับความนิยมในตัวนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ลดลงไปค่อนข้างเร็วในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา จะส่งผลให้สังคมการเมืองไทยเข้าสู่ความอึมครึม และน่าเป็นห่วงมากขึ้น รัฐบาลคงปฏิเสธไม่ได้ เพราะโพลที่สำรวจก็เป็นโพลที่เคยสำรวจพบก่อนหน้านี้ว่าคะแนนนิยมในตัวนายกฯยังสูงอยู่
ที่สำคัญ ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสันนิษฐานว่า คสช. พยายามยืดวันเลือกตั้งออกไป เพราะพรรคการเมืองที่สนับสนุน คสช. หรือพรรคการเมืองสายทหารยังไม่พร้อมนั้น อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ เพราะยิ่งคะแนนนิยมในตัวนายกฯลดลงยิ่งกระทบกับพรรคที่สนับสนุนทหารและกระแสนายกฯคนนอกไปด้วย มีตัวแปรอื่นอีกหรือไม่ก็เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามดูกัน
เพราะการยื้อวันเลือกตั้งไปเรื่อยๆ เพื่อรอความพร้อมของพรรคทหารนั้น ยิ่งพบว่าเสียมากกว่าได้ นอกจากคะแนนนิยมนายกฯจะลดลงแล้ว สถานการณ์ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในภาพรวมก็ลดลงมาเป็นลำดับอยู่ก่อนแล้ว จึงน่าสงสัยว่าลึกๆ แล้วมีตัวแปร หรือเหตุผลอื่นซ่อนอยู่หรือไม่ ที่นายกฯกยังไม่กล้ายืนยันจากที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าช่วงเวลาเลือกตั้ง คือ เดือนพฤศจิกายน ปี 2561