xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ตอกผู้มีอำนาจส่งซิกยืดเวลาเลือกตั้ง ชี้ แถอ้างไปเรื่อยเพื่อเอื้อหนทางการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
รองหัวหน้าพรรค ปชป. เชื่อผู้มีอำนาจส่งซิกขยายเวลาเลือกตั้ง ย้อนเป็นไปไม่ได้อ้างไม่เกี่ยว เหตุตั้งพรรคยังไม่เสร็จ - รอผลประชานิยมออกดอก หวังหนทางการเมืองปูด้วยดอกกุหลาบ ซัดอ้างให้สอดคล้องคำสั่งที่ 53/2560 แค่สีข้างเข้าถู ไล่แก้ปัญหาปากท้องมีประโยชน์กว่า

วันนี้ (21 ม.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอปรับแก้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน ว่า การที่มีคนของรัฐบาลออกมาบอกว่าเรื่องนี้เป็นดุลพินิจของกรรมาธิการ และ สนช. รัฐบาล และ คสช. ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาประเด็นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ เพราะกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เป็นกฎหมายหนึ่งในสี่ฉบับของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่มีการเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญชัดเจนว่าเมื่อกฎหมายทั้ง 4 ฉบับนี้เสร็จเรียบร้อย มีผลบังคับใช้ก็จะเข้าสู่การเลือกตั้ง ถ้าผู้มีอำนาจต้องการขยายเวลาการเลือกตั้งออกไปก็ต้องใช้ช่องทางของการออกกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ให้ต่อท่ออำนาจออกไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าจะจัดการทุกอย่างตามแผนให้เข้าที่เข้าทาง

“เพราะนอกจากจะแต่งตัวพรรคใหม่ยังไม่เสร็จแล้ว การอัดฉีดเม็ดเงินลงไปในพื้นที่ด้วยหลากหลายโครงการประชานิยมในรูรอปแบบประชารัฐ บวกไทยนิยม ที่ถมลงไปก็ยังออกดอกออกผลไม่เต็มที่พอที่จะกระชากความศรัทธาของประชาชนต่อผู้มีอำนาจให้เพิ่มมากขึ้นจนมั่นใจได้ว่าหนทางข้างหน้าจะปูด้วยกลีบกุหลาบ”

นายองอาจ กล่าวว่า ด้วยเหตุผลนี้เอง จึงน่าจะมีความเป็นไปได้ที่ผู้มีอำนาจจะส่งซิกไปยัง สนช. ให้ขยายเวลาเลือกตั้งออกไปเพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยตามเป้าหมาย ส่วนที่โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. บอกว่าที่ขยายเวลามีผลบังคับใช้ตามกฎหมายออกไปอีก 90 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งของ คสช. ที่ 53 / 2560 ที่กำหนดกระบวนการทางธุรการของพรรคการเมืองใหม่ ที่จะเริ่มเดือนมีนาคมนี้ รวมทั้งการรีเซ็ตสมาชิกพรรค ของพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะถ้าผู้มีอำนาจไม่เข้ามายุ่งกับ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ด้วยการใช้ มาตรา 44 ออกคำสั่งที่ขัดรัฐธรรมนูญ เอื้อประโยชน์ให้พรรคที่จะจัดตั้งใหม่ และบอนไซพรรคที่มีอยู่แล้ว โดยปล่อยให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามปกติ หลังจาก พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง มีผลบังคับใช้เมื่อหลายเดือนก่อนก็คงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องใช้ช่องทางการขยายเวลาเลือกตั้งออกไปผ่านการทำกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.

“ขอฝากไปยังผู้มีอำนาจว่าการดำเนินการทางการเมือง เพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้เป็นไปในลักษณะเอาสีข้างเข้าถูมากขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่า ถ้าเอาสีข้างเข้าถูเพิ่มมากขึ้น นอกจากสีข้างจะถลอกแล้วระวังจะถลอกไปทั้งตัว ควรเอาเวลาที่มาคิดแผนแก้เกมอำนาจ ไปแก้ไขเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนที่ยังร้องระงมกันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองขณะนี้ น่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนคนหาเช้ากินค่ำมากกว่า” นายองอาจ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น