MGR Online - “สมชัย” ได้ทีถล่ม สนช.ขยายเวลาบังคับใช้ กม.เลือกตั้ง ส.ส. เตือนถูกประทับตรา “โบดำ” อีกครั้งหลังจากออกกฎหมายไร้มาตรฐานมาหลายฉบับ และเป็นแพะของสังคม เชื่อทุกภาคส่วนพร้อมเลือกตั้งอย่ายื้อ แย้มมีข่าวยืดเลือกตั้งไกลถึง 1 ปี
วันนี้ (19 ม.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการจะขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ว่าต้องมีเหตุผล ซึ่งตามประเพณีปฏิบัติกฎหมายส่วนใหญ่จะมีผลบังคับใช้นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่กฎหมายบางฉบับที่อาจกำหนดระยะเวลาให้มีผลใช้บังคับในอนาคตได้ เช่น อีก 90 วันอีก 180 วันข้างหน้า ที่อาจจะมาจากความจำเป็นหรือความไม่พร้อมของส่วนต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเข้าสภาในวาระ 3 ปลายเดือนมกราคมนี้มีข่าวว่าจะมีการกำหนดให้มีผลบังคับใช้ทอดออกไป 3 เดือน 6 เดือน หรือไปไกลจนถึง 1 ปี ก็ต้องดูว่า สนช.ใช้เหตุผลอะไรในการอ้างว่าจำเป็นต้องทอดเวลาออกไป และได้ถามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้แล้วหรือยัง
นายสมชัยยังกล่าวอีกว่า หากบอกว่าพรรคการเมืองไม่พร้อม ยังเตรียมการไม่ทัน สนช.ได้ถามพรรคการเมืองหรือยัง เขาอาจจะบอกว่าสิ่งที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด และคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 นั้น แม้จะมีสิ่งที่ให้ทำมาก เวลาจำกัดก็จริง แต่สามารถทำทัน และหากบอกว่า กกต.ในฐานะผู้จัดการเลือกตั้งอาจเตรียมการเรื่องต่างๆ ไม่ทัน สนช.ได้สอบถามมายัง กกต.หรือยัง เพราะถ้าถามมาที่ผม ผมจะบอกว่ากฎหมายเขียนมาอย่างไร ในฐานะฝ่ายปฏิบัติเราก็ทำได้ และเช่นเดียวกันหากบอกว่าประชาชนผู้เลือกตั้งยังไม่มีความพร้อม ก็ต้องถามว่า สนช.ได้ถามประชาชนหรือยังว่าอยากจะเลือกตั้งหรือยังไม่อยากเลือกตั้ง ไม่ใช่มโนคิดกันไปเอง และหากเป็นเรื่องนโยบายว่ารัฐบาลและ คสช.ยังเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะให้มีการเลือกตั้ง สนช.ก็ควรทำหนังสือสอบถามหรือให้มีหนังสือยืนยันจาก ครม.หรือ คสช.ถึงนโยบายดังกล่าว สนช.จะได้ไม่เป็นแพะต่อสังคม เพราะหากทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ พ.ร.ป.ว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้มีปัญหาอุปสรรคใดๆ ที่จำเป็นต้องทอดระยะเวลาในการบังคับใช้กฎหมาย
“หาก สนช.ยังดึงดันในการออกกฎหมาย โดยใช้เหลี่ยมคูทางการเขียนกฎหมายเพื่อยืดเวลาการเลือกตั้งนอกเหนือไปจากที่นายกรัฐมนตรีได้สัญญาต่อประชาชนไว้ สนช.ชุดนี้คงได้รับการประทับตราโบดำอีกครั้ง หลังจากที่ ผ่านกฎหมายหลายฉบับที่ไร้มาตรฐาน เช่น กรณีเซตซีโร่ กกต.-กสม. แต่ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่ต่อจนครบวาระ ให้ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ต่อจนครบวาระ แถมให้คนที่ครบวาระแล้วอยู่ต่อจนได้สภาผู้แทนฯ ชุดใหม่ ซึ่งไม่ทราบเมื่อใด ให้ ป.ป.ช.อยู่ต่อจนครบวาระได้แม้ขาดคุณสมบัติและมีประธาน ป.ป.ช.ที่มีคุณสมบัติต้องห้าม หรือแม้กระทั่งการละเลยที่จะตรวจสอบผู้ผ่านการคัดเลือกจากสายศาลที่ไม่มีการลงคะแนนโดยเปิดเผยซึ่งขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. อับอายจริงๆ”