xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” หนุนขึ้นค่าแรงเพิ่มกำลังซื้อ กำชับพาณิชย์คุมเข้มราคาของ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  (ภาพจากแฟ้ม)
รองนายกรัฐมนตรี “สมคิด” เห็นด้วยขยับเพิ่มค่าแรง เพิ่มกำลังซื้อ กำชับกระทรวงพาณิชย์คุมเข้มราคาสินค้า สอดคล้องกับค่าแรง เผย “บิ๊กตู่” จะลงพื้นที่จังหวัดที่เน้นการพัฒนาบ่อยขึ้น

วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการค่าจ้าง เห็นชอบร่วมกันกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2561 รูปแบบตามพื้นที่มีทั้งหมด 7 อัตรา ตั้งแต่ 8 - 22 บาท ซึ่งหารือกันนาน 7 - 8 ชั่วโมง โดยยอมรับว่า การปรับตามพื้นที่ ก็เพื่อให้สอดคล้องตามเศรษฐกิจพื้นที่แต่ละจังหวัด นับว่า ทุกฝ่ายทั้งนายจ้าง ภาครัฐ ภาคแรงงาน หารือร่วมกันอย่างรอบคอบ และภาคเอกชนพร้อมดูแลแรงงาน เพราะไม่ได้ปรับเพิ่มมานาน 3 ปี

นายสมคิด กล่าวต่อว่า สำหรับตนเองเห็นด้วยกับการปรับเพิ่มค่าแรงในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มอำนาจซื้อให้กับแรงงาน เพราะได้รับค่าจ้างเพิ่มในระดับพอสมควร ขณะที่กระทรวงพาณิชย์พร้อมดูแลราคาสินค้าให้สอดคล้องกับค่าแรงที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่วนการลอยตัวค่าแรงในพื้นที่เขตอีอีซี ต้องหารือเพิ่มเติมภายหลัง ตอนนี้ยังไม่ต้องคุย รอให้การเพิ่มค่าแรงทั้งประเทศได้ข้อยุติไปก่อน

สำหรับการดูแลเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก จึงใช้รูปแบบบูรณาการแนวดิ่งของส่วนราชการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานความร่วมมือกัน ทั้งมหาดไทย พาณิชย์ คลัง อุตสหากรรม ท่องเที่ยว และทุกหน่วยงาน โดยเลือกลงพื้นที่ที่ต้องดูแลเพิ่มเติมเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ หลังจากนายกรัฐมนตรีไปตรวจเยี่ยมจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ผลผลิตทางการเกษตร แต่มีปัญหาทางคมนาคมขนส่ง จึงต้องพัฒนาถนน สนามบิน ซึ่งก็จะทำให้เกิดแรงงานขึ้น และจะทำให้ระดับปฏิบัติและท้องถิ่นสามารถเสนอโครงการ หรือแนวทางการพัฒนาได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะการใช้งบกลางปีแสนล้านบาท เพื่อปฏิรูปภาคเกษตรและชุมชน

“จากนี้ไปนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่บ่อยขึ้นในจังหวัดที่ต้องเน้นการพัฒนามากขึ้น เช่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ หรือจังหวัดอื่น เพื่อรับทราบปัญหาด้วยตนเองจากชาวบ้านและหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อพัฒนาและรองรับค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยย้ำกับหน่วยงานท้องถิ่นในชุมชนว่า โครงการที่เสนอผ่านกระทรวงมหาดไทยต้องเป็นโครงการสำคัญ ไม่ซ้ำซ้อนหลายหน่วยงาน หลายกระทรวง เพื่อให้เกิดการปฏิรูปอย่างจริงจัง


กำลังโหลดความคิดเห็น