“สุริยะใส” ชี้ โรดแมปเลือกตั้ง - ปรองดอง บทชี้ชะตาประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง แนะจับตาโรคแทรกซ้อนจากเลือกตั้งที่ยังพร่ามัว และปรองดองที่ยังวังเวง จนกระทบโรดแมปเลือกตั้ง
วันนี้ (14 ม.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจนในโรดแมปเลือกตั้งโดยเฉพาะช่วงเวลาของการเลือกตั้งที่นายกฯเคยให้สัญญาไว้ก็ตาม แต่จากนี้กระแสเคลื่อนไหวของพรรคและกลุ่มก้อนการเมืองจะเป็นไปเพื่อการเลือกตั้ง แม้เส้นทางสู่การเลือกตั้งก็ยังไม่ราบรื่นนัก เพราะ คสช. ยังไม่ปลดล็อก แต่พรรคการเมืองก็คงไม่มีทางเลือกนักหลังจากถูกเว้นวรรคมานาน
ขณะเดียวกัน ปัญหาจากคำสั่ง ม.44 เรื่องการยืนยันสมาชิกและการให้พรรคใหม่เริ่มดำเนินการจดทะเบียนได้ในวันที่ 1 มีนาคมนั้น ในทางปฏิบัติจะเกิดปัญหาใหม่ตามมา รวมทั้งการดำเนินการของพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมืองก็มีรายละเอียดมากกว่าฉบับก่อนๆ ทำให้น่าห่วงว่าอาจจะเกิดโรคแทรกซ้อนจนกระทบโรดแมปเลือกตั้งได้เช่นกัน
ที่สำคัญ เงื่อนตายที่เป็นมากกว่าเงื่อนไข คือ ความขัดแย้งแตกแยกที่หลบฉากมานาน 3 ปีกว่า ก็อาจถึงเวลาที่จะปรากฏตัวทั้งใต้ดินบนดินมากขึ้นเข้มขึ้น เพราะสมการการเมืองนาทีนี้ ยังไม่ออกจากกระดานความขัดแย้ง และการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของ คสช. ล้มเหลวไม่มีผลงาน ยุทธศาสตร์ผิดพลาดเน้นการใช้อำนาจบีบกด อาจจะได้ใจสังคมในช่วงสั้นๆ แต่ระยะยาวความขัดแย้งจะกลับมาอีก
เราเห็นบ่อยๆ นายกฯ ออกมาห้ามกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ทะเลาะกัน แต่เราแทบไม่เห็นแผนหรือนโยบายที่ดีพอ กระทั่งบางส่วนวาดหวังสูตรปรองดองฉบับพิสดาร ว่า คู่ขัดแย้งเดิมจะจับมือกันเพื่อต่อกรกับ คสช. ก็ยิ่งสะท้อนภาวะตีบตันของโรดแมปปรองดองในสังคม
โรดแมปการเลือกตั้งที่ยังพร่ามัวและการปรองดองที่ยังวังเวงแบบนี้จะทำให้การเข้าสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็งมีเสถียรภาพและสังคมปรองดองอย่างที่ท่านนายกฯพูดไว้เมื่อต้นปีนั้น ยังไม่มีหลักประกันใดๆ และการใช้อำนาจที่เข้มข้นขึ้นเพื่อคุมหางเสือสังคมการเมืองจากนี้ไปอาจยากขึ้นไม่ง่ายเหมือนช่วงต้นๆของการยึดอำนาจ เพราะสังคมมองว่าสุดท้ายแล้วอำนาจที่ใช้ไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุหรือการปฏิรูปที่โครงสร้างอย่างจริงจัง