“ทำเนียบฯ” คึกคัก เปิดห้องให้เด็กๆ นั่งเก้าอี้นายกฯ ขณะที่ “ลุงตู่” ให้โอวาทยืนยันประชาธิปไตยมีแน่ แต่ยึดแบบไทยนิยม ไม่ผิดกติกาคนอื่น ฝากผู้ปกครองอย่าบังคับลูกเรียนตามใจตัวเอง และร่วมกันใช้สติปัญญาและเทคโนโลยี่เพื่อพัฒนาไปสู่ไทยแลนด์ 4.0
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯพร้อมคณะประกอบด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ ได้ชมการแสดงจากนักเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ โรงเรียนเก่าของ พล.อ.ประยุทธ์ จากนั้นได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อพบและถ่ายภาพกับเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ เด็กจากจังหวัดชายแดนใต้ และเด็กพิเศษหรือเด็กด้อยโอกาส จำนวน 21 คน ที่ห้องทำงานนายกฯ และเปิดให้นั่งเก้าอี้นายกฯ เยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า โดยเด็กคนแรกที่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯคือ ด.ญ.ฟาดิฬะ ลาตีฟี อายุ 6 ปี นักเรียนอนุบาล 1 โรงเรียนพึงรำลึก จ.นนทบุรี พร้อมกับ ด.ช.อะลา ลาตีฟี อายุ 12 ปี นักเรียนโรงเรียนท่าอิฐศึกษา จ.นนทบุรี โดย ด.ช.เอะลา ลาตีฟี กล่าวว่า มีความสนใจด้านการเมือง อยากจะเป็นนายกฯ และให้กำลังใจนายกฯ ขอให้ลุงตู่ สู้ๆ อยู่เป็นนายกฯ นานๆ และขอให้รักษาสุขภาพด้วย
จากนั้นนายกฯ ได้ไปยังตึกสันติไมตรี กล่าวให้โอวาทกับเด็กและเยาวชนว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีของความสงบเรียบร้อย 2-3 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยมากขึ้น ทั้งนี้เราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อเด็กๆ โดยรัฐบาลได้มีแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพราะความรู้เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาบุคคล เพื่อให้เข้ากับโลกสมัยใหม่ ดังนั้นทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อให้เด็กไทยเดินไปสู่ประเทศไทย 4.0 โดยเราจะต้องใช้สติปัญญา ความรู้ที่มีอยู่มาดำเนินชีวิต ซึ่งการดำเนินชีวิตในทุกวันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า เด็กและเยาวชนในวันนี้สามารถเลือกเรียนอะไรก็ได้ โดยผู้ปกครองมีหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมในการเรียนการศึกษา ซึ่งผู้ปกครองจะต้องหาพรสวรรค์ของเด็กให้เจอ แต่ผู้ปกครองต้องไม่บังคับเด็กให้เลือกเรียนอย่างที่ตนต้องการ เพราะถ้าบังคับก็จะทำให้มีปัญหา เมื่อเข้าเรียนแล้วเด็กอาจจะเรียนไม่ไหว ดังนั้นต้องให้เด็กเลือกเรียนตามความชอบ ตามที่ตัวเองถนัด เพราะเราไม่ได้ต้องการให้ทุกคนทำอะไรเหมือนๆ กัน แต่เราควรจะสนับสนุนการเรียนเพื่อพัฒนาสังคม เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
“อยากให้หลานๆ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้มากที่สุด และหลานๆ เองจะต้องรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ พร้อมกับออกกำลังกาย ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานวันเด็ก และขอบคุณผู้ปกครองที่พาลูกหลานมาเปิดโลกทัศน์ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น และเด็กไทยควรจะต้องน้อมนำพระราโชวาทของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่พระราชทานเนื่องในวันเด็กมาปรับใช้ เพื่อช่วยพัฒนาประเทศให้มีความเข้มแข็ง เราจะต้องเจริญเติบโตอย่างทัดเทียมกัน วันนี้เทคโนโลยีได้เข้ามาแล้ว เราจะต้องใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ลุงพยายามทำให้ดีที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ขอให้เด็กทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว โดยเราจะต้องยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ดำรงความเป็นไทยให้มีอยู่ตลอดไป เราจะต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยนิยม ซึ่งจะต้องเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ โดยเราจะต้องพัฒนาในทุกอย่าง พร้อมกับปูพื้นฐานประชาธิปไตยของเราในอนาคตให้ได้ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความมั่นคง สามารถบริหารจัดการประเทศชาติให้ดีได้
“ประเทศเราจะขัดแย้งกันต่อไปไม่ได้อีก ดังนั้นเราจึงต้องมีประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยนิยม เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ โดยที่เราต้องไม่ผิดกติกาของคนอื่น แล้วในฐานะที่เราเป็นคนไทยด้วยกัน จะทำอย่างไรผมก็ได้แต่ฝากกับพวกเราทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกฯได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเด็กและเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับถ่ายภาพร่วมกับนักดนตรีจากวง KU Wind จากภาควิชาดนตรีคณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ร้องเพลง ขอใจแลกเบอร์โทร อย่างสนุกสนาน จากนั้นได้เยี่ยมชมบูทต่างๆ โดยแวะที่บูท CAT พร้อมเล่นเกมวินนิ่ง ฟีฟ่า 2018 ร่วมกับเยาวชนที่มาจากจังหวัดนครปฐม โดยนายกฯ เลือกทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนเยาวชนเลือกทีมลิเวอร์พูล ต่อมานายกฯ ได้ร่วมร้องเพลงกับวงดุริยางค์ทหาร โดยร้องเพลงสะพาน เพลงคืนความสุข และเพลงคนดีไม่มีวันตาย ก่อนเดินแจกสมุดระบายสีให้กับเด็กๆ