“ประยุทธ์” หารือทวิภาคีผู้นำกัมพูชา ในการประชุมความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง พร้อมเร่งรัดความร่วมมือด้านต่างๆ
วันนี้ (10 ม.ค.) เวลา 14.40 น. ณ สำนักนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา (Peace Palace) กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับ สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ก่อนการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 2 พร้อมด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและแสดงความยินดีกัมพูชาในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดประชุมผู้นำประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือ แม่โขง - ล้านช้าง MLC ครั้งที่ 2 หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ และการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 แล้วได้มีการเร่งรัดความร่วมมือด้านต่างๆ ให้มีความคืบหน้า การค้า การลงทุน ความมั่นคงและเศรษฐกิจทุกด้าน
ความร่วมมือด้านการส่งเสริมความเชื่อมโยง ทั้งสองฝ่ายจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการเดินรถไฟร่วม โดยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา หน่วยงานทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเพื่อเร่งรัดจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยการเดินรถร่วมเพื่อให้มีการลงนามโดยเร็ว สำหรับการสร้างทางรถไฟเส้นทางจากสะพานรถไฟอรัญประเทศ - ปอยเปต ไปยังตัวเมืองปอยเปต ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรนั้น มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 95 และกัมพูชากำหนดก่อสร้างเสร็จเส้นทางรถไฟและสถานีรถไฟให้แล้วเสร็จในช่วงเดือนมกราคม 2561 และจะดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟจากชายแดนไทย - กัมพูชาไปยังกรุงพนมเปญต่อไป เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศสามารถเดินทางข้ามแดนระหว่างกันได้ภายในปี 2563 ตามเป้าหมายที่วางไว้
จุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน จังหวัดสระแก้ว - สตึงบท จังหวัดบันเตียเมียนเจย มีการเร่งรัดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร ศุลกากรทั้งในฝั่งไทยและกัมพูชา ตลอดจนสะพานข้ามพรมแดน หรือ “สะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา” เพื่อให้สามารถเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งนี้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องขอบคุณที่กัมพูชาช่วยแก้ปัญหาการนำเข้าเครื่องมือที่จำเป็น
การขนส่งสินค้าผ่านแดน ไทยได้ดำเนินการภายในของไทยเกี่ยวกับการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาเสร็จแล้ว และหวังว่าจะสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ได้เร็วๆ นี้
การทำกินของคนไทยบริเวณ ชายแดนไทย-กัมพูชา (หลักเขตแดนที่ 43)
นายกรัฐมนตรีทั้งสองได้เคยเห็นชอบร่วมกันให้ประชาชนของทั้งสองประเทศซึ่งอยู่อาศัยและทำมาหากินบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา สามารถทำมาหากินได้ต่อไปได้ตามที่เป็นมา ระหว่างที่การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนยังไม่แล้วเสร็จ โดยต้องไม่ขยายพื้นที่ออกไปมากกว่าเดิม ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เรื่องเขตแดนเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดน
ความร่วมมือด้านแรงงาน ไทยได้ขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติของแรงงานกัมพูชา กลุ่มที่มีใบจับคู่แสดงความสัมพันธ์นายจ้าง - ลูกจ้างให้ถึง 30 มิถุนายน 2561 จึงขอให้มีการเร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สัญชาติและการแจกเอกสารเดินทางให้กับแรงงานกัมพูชาที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ทั้งนี้ ความร่วมมือให้แรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานในไทยโดยถูกกฎหมายอันจะช่วยส่งเสริมและคุ้มครองสวัสดิภาพของแรงงานกัมพูชา ตลอดจนลดความเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
ไทยยินดีเปิดให้มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากกัมพูชาอย่างไรก็ดี ในช่วงที่ทั้งสองฝ่ายมีผลผลิตออกสู่ตลาดปริมาณมาก ไทยอาจมีความจำเป็นต้องจัดระเบียบการนำเข้า เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร ของทั้งสองประเทศ โดยกัมพูชาอาจพิจารณาจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 6 เพื่อให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อหารือแนวทางการนำเข้าในรายละเอียด และหวังว่า กัมพูชาพิจารณานำเข้าสุกรมีชีวิตจากไทยเพิ่มขึ้น โดยไทยมีศักยภาพผลิตสุกรมีชีวิตและมีความพร้อมที่จะส่งออกสุกรมีชีวิตที่มีคุณภาพดี ราคาเหมาะสมให้แก่กัมพูชา
การเปิดจุดผ่านแดนถาวร บ้านป่าไร่ การเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้ว สำหรับพื้นที่บริเวณบ้านป่าไร่ - โอเนียง คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองฝ่ายควรประสานงานกันเพื่อเริ่มหารือเกี่ยวกับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร ณ พื้นที่ดังกล่าว
รวมทั้งขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงร่วมหารือมาตรการป้องกันการใช้อาวุธตามแนวชายแดน ในกรณีที่มีการรุกล้ำเขตแดน เพื่อลักลอบตัดไม้ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุม MLC และยังยินดีที่มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มสูงขึ้น และหวังว่า ไทยจะสนับสนุนสินค้าเกษตรของกัมพูชา รวมทั้งการเชื่อมโยงทางรถไฟด้วย