xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว : โป๊ะแตก “รัฐบาล คสช.”ไม่ขยับล่าตัว “หนูปู” ทั้งที่เคยแอคชั่นประโคมข่าวใหญ่โต **นาฬิกา “เสี่ยป้อม”เรือนที่ 18 โผล่ Patek Philippe ราคาล้านเศษ **เหลือเชื่อ “ผู้กองเหน่ง”จำเลยคดีฆ่า "ผอ.อ้อย" ยังไม่ถูกไล่ออกจากกองทัพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ข่าวปนคน คนปนข่าว



** แหกตามาตลอด!! โป๊ะแตก “รัฐบาล คสช.”ไม่ขยับล่าตัว “หนูปู” ทั้งที่เคยแอคชั่นประโคมข่าวใหญ่โต อิหรอบนี้ตั้งใจ “ปล่อยผี” ชัวร์ป้าบ เพิ่มน้ำหนักข่าวเม้าต์“บิ๊ก คสช.”รู้เห็นเป็นใจให้ “หนูปู”มุดออกทางธรรมชาติ เหลือเชื่อ “รองนายกฯความมั่นคง”ไม่รู้อะไรเลย โยนไปถาม “นายกฯตู่”ท่าเดียว

กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง .. ชื่อของ “หนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีโทษจำคุกคดีทุจริตจำนำข้าว ที่ถูกกล่าวขวัญถึงตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีกลาย .. หลังมีคนไทยไปพบในขณะกำลังชอปปิ้งในห้างดัง รวมทั้งชักภาพกับนักท่องเที่ยวชาวไทยกลางมหานครลอนดอน .. เป็นหลักฐานยืนยัน “ที่ซุกหัว”ของ “อดีตนายกฯปู”ที่ตรงตามกระแสข่าว-ข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้เป๊ะๆ .. การปรากฏตัวผ่านสื่ออีกครั้งของ“ยิ่งลักษณ์”ดูเหมือนไม่ใช่ข่าวดีของ “รัฐบาลคสช.”ที่เคยประกาศจะตามล่าสุดขอบฟ้าเพื่อนำตัวมารับโทษตามกฎหมายไปซะนี่ .. อีกทั้งยังไม่มีสาระเพียงพอที่ จะหยิบยกขึ้นพูดถึงในการประชุม คสช. เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) ทั้งที่วาระหลักในการประชุมคือ เรื่องความมั่นคงเป็นส่วนใหญ่ .. ไม่เพียงเท่านั้น ยังถือเป็นการ “จับโกหก”คนในรัฐบาลได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำไม่รู้ไม่ชี้มาตลอด .. หรือรองนายกฯ ความมั่นคง “ป๋าป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ยอมรับหน้าชื่นว่า เห็นข่าวจากสื่อเหมือนกัน .. กระทั่ง ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ก็เพิ่ง “จำนนต่อหลักฐาน”ยอมรับว่า รู้เรื่องที่“ยิ่งลักษณ์”ไปอาศัยที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เดือน ก.ย.60 หลังหนีออกจากประเทศไทยไปเมื่อช่วงวันที่ 23 ส.ค. 60 ไม่นาน .. เป็นข้อมูลที่ “ทูตดอน”ได้รับ “การบอกเล่า”จาก “รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ”ซึ่งก็เหลือเชื่อว่า ที่ผ่านมา “รัฐมนตรีดอน”ไม่ได้รายงาน หรือบอกเล่าให้ “บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม”ทราบบ้างหรือ ..

ตอบแทนเลยว่า เป็นไปไม่ได้ แต่“บิ๊กรัฐบาล”ไม่ว่าหน้าไหน กลับพยายามปกปิดซ่อนเร้น .. ตรงนี้ก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อที่ใครๆ ต่างก็พูดตรงกันว่า “บิ๊ก คสช.”รู้เห็นเป็นใจให้“หนูปู”มุดออกทางธรรมชาติ ไปอยู่ไกลหูไหลตา มากขึ้นไปอีก .. ยิ่งไปกว่านั้น การติดตามจับกุม การขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน หรือการขออกหมายจับสากล ที่เคยมีการสื่อสารจาก“คนในรัฐบาล”ว่าดำเนินการคืบหน้าไปมากแล้วนั้น .. มาวันนี้ “โป๊ะแตก”โดนจับได้ว่า“แหกตา”ทุกเรื่อง ทั้งการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่อ้างมาตลอดว่า ยังไม่รู้พิกัดแน่ชัดว่า“หนูปู”ไปพำนักพักพิงอยู่หนใด ทั้งที่มีคนตะโกนกรอกหู คสช. มาตลอดว่า“ลอนดอนๆ”ก่อนที่จะมาสารภาพว่า รู้ตั้งนานแล้ว ปั๊ดโธ่!! .. การขอออกหมายจับสากล ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ก็อัพเดตต่อเนื่องว่า ประสานงานกับ“อินเตอร์โพล - ตำรวจสากล”เป็นระยะ .. พอเรื่องแดงขึ้นมา ดันมาสารภาพว่า“อินเตอร์โพล”ไม่ยอมออกหมายจับให้ และขอหลักฐานทางคดีเพิ่มเติม ที่ทางการไทยส่งให้ไม่ครบถ้วน .. สรุปง่ายๆ ที่เคยอ้างว่า“ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย”แปลอีกนัยคือ “ไม่ได้ทำอะไรเลย”..ที่เหลือเชื่อ ก็รายของ“รองฯป้อม”ที่ดูจะไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ เรื่อง“นญ.ปู”ว่าอยู่ที่อังกฤษ ก็รู้จากสื่อ พอถามเรื่องหมายจับตำรวจสากล ก็โยนไปถาม“นายกฯตู่”เอากับเสี่ยซิ .
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
** ยุคนี้ใครใหญ่!! นาฬิกา “เสี่ยป้อม”เรือนที่ 18 โผล่ Patek Philippe ราคาล้านเศษ ที่คงไม่มีคำชี้แจงใดๆ ให้ ป.ป.ช.แล้ว หลังเจ้าตัวประกาศ “อั๊วไม่ชี้แจงแล้ว”ย้อนรอย “เลขาฯวรวิทย์”กระบี่มือหนึ่งตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ผลงานวีรกรรมเด็ดหัวบิ๊กๆ มาอื้อ ระดับ“ทักษิณ - เสธ.หนั่น”ยังไม่รอด ก่อนมาเสียคนในยุคคสช.

ทิ้งช่วงให้พอคิดถึงกัน .. เพจดัง CSI LA ที่ปรับกลยุทธ์ขุดกรุสมบัติ “เสี่ยป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แบบ Thailand 4.0 ให้แฟนเพจร่วมส่งเบาะแส“นาฬิกาหรูเสี่ยป้อม”ผ่านแอปพลิเคชั่น .. กลับคืนฟลอร์พร้อมนาฬิกาหรู เรือนที่ 18 แบรนด์คุ้นหู PatekPhilippe รุ่น 5135R Calendario Annual Calendar ทองคำ Rose Gold สายหนังจรเข้สีน้ำตาล สนนราคาในท้องตลาดราว 1.5 ล้านบาทไทย .. พร้อมภาพประกอบว่า“เสี่ยป้อม”สวมไปออกงานที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือน มี.ค.59 และอีกเรือนที่เชื่อแน่ว่า ยังไม่ได้มีการชี้แจงไปยังป.ป.ช. ชัวร์ป้าบ .. ยิ่งไปกว่านั้น ป.ป.ช. อาจจะไม่ได้รับการชี้แจง “ป๋าป้อม”อีกต่อไป ก็“พี่ใหญ่ คสช.”เพิ่งส่งเสียงฮึ่มประมาณว่า “อั๊วไม่ชี้แจงแล้ว” .. เป็นการส่งเสียงคำรามให้รู้ว่า “ยุคนี้ใครใหญ่” ..เท่านั้นล่ะ ป.ป.ช. ก็ไปไม่เป็น วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ถึงกับซีด ขอกันซื่อๆ ว่า ช่วงนี้อย่าเพิ่งมาถามเรื่อง“แหวนเพชร - นาฬิกาหรู”กันอีกเลย ขอเวลาให้ ป.ป.ช. ทำงานก่อน .. ทั้งที่ความเป็นจริง ป.ป.ช. แทบไม่ต้องลงลึกหาข้อมูลอะไรให้วุ่นวาย เดือนเศษที่ผ่านมา “สังคมโซเชียลฯ”พร้อมใจกันขุดคุ้ยจนได้“ข้อมูลกึ่งสำเร็จรูป”เอาไปเข้าแฟ้ม เขียนเป็นภาษาทางการหน่อย ก็ชี้มูลความผิดโป้งเดียวจอดได้แล้ว ..

จริงอยู่ในฐานะองค์กรระดับประเทศ จำต้องมีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน ก่อนจะชี้ผิด-ชี้ถูกได้ หากแต่ในทางกลับกัน พฤติกรรมของ “ผู้ถูกกล่าวหา”ก็ส่อไปในทางไม่ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ .. แบบนี้ทางกฎหมายเขาว่า ไม่ปฏิเสธ เท่ากับยอมรับ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มี“ระดับบิ๊ก”หลายรายโดน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ฐาน “จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน”เหตุเพราะไม่ให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. .. แล้ว “ระดับบิ๊ก”หลายรายที่ว่านั้น ไม่ว่าจะแน่มาจากไหน ก็ต้องมาสยบให้กับ“เลขาฯวรวิทย์”ที่เคยเป็น “กระบี่มือหนึ่ง”ด้านการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของป.ป.ช. และของประเทศเลยก็ว่าได้ .. บิ๊กๆ ที่โดน “วรวิทย์” เด็ดหัวมาในอดีต ชื่อคุ้นหูกันดีทั้งนั้น ตั้งแต่ “พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ - ทักษิณ ชินวัตร - รักเกียรติ สุขธนะ - สุพจน์ ทรัพย์ล้อม - พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์”ที่โดนทั้งโทษแบนทางการเมือง-โทษอาญา .. แต่พอมาถึงเคสของ “ป๋าป้อม”กลับกลายเป็น “ก้างตำคอ”ไปซะงั้น เสียแรงเครดิตที่สั่งสมมาในครั้งอดีต .. คงเป็นเพราะจังหวะที่ “วรวิทย์”สุกงอมจนได้ขึ้นเลขาธิการ ป.ป.ช. ดันเป็นช่วงที่“รัฐบาลทหาร”เรืองอำนาจ .. ทำให้อดีต“ผอ.วรวิทย์ - รองฯวรวิทย์”ที่แคยเป็นความภูมิใจของป.ป.ช. เสียหลัก ซวนซัดซวนเซ ไปเป็นคนละคน .. ตั้งแต่ก่อนก่อนรับตำแหน่งเลขาฯป.ป.ช. อย่างเป็นทางการ ก็แสดงท่าที “อยู่เป็น”ด้วยการทำไม่รู้ไม่ชี้กับ Richard Mille ที่โผล่ออกมา 2 เรือนแรก .. พอได้เก้าอี้เต็มก้น ก็ยิ่งออกลาย ด้วยวลีเด็ด“ขออนุญาตไม่เปิดเผยรายละเอียด”ที่สร้างชื่อให้เจ้าตัวอย่างเกรียวกราว .. คงเป็นเพราะ “ตำแหน่งที่ใฝ่ฝัน-อำนาจอันหอมหวาน”ต้องแลกกับการ “เสียผู้เสียคน”เหมือนกับ “ท่านประธานกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ที่รายนั้น เสียคนมาตั้งแต่สมัยเดินตาม“พี่ป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ หรือตอนไปเป็นหน้าห้อง “ป๋าป้อม”ก่อนจะมายึดหัวหาดคุม ป.ป.ช. ที่ทำงานตาม “ใบสั่ง”จนศักดิ์ศรีหดหายแบบกู่ไม่กลับ .. แม้โอดโอยว่ามีจุดอ่อนในความใกล้ชิด “บ้านวงษ์สุวรรณ”แต่ก็ไม่ยักจะใช้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์แต่ประการใด .. นาทีนี้ อาจพูดได้ว่า การทำงานของ ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ “ประธานกุ้ย - เลขาฯวรวิทย์” เป็นคู่หูที่แสนจะเปอร์เฟกต์ ของ “บิ๊ก คสช.”..แต่กับสังคมไทยแล้วคงเป็นได้แค่ ........ (จงเติมคำในช่องว่าง 10 คะแนน).
ร.อ.ศุภชัย ภาโส
**นาทีทอง“ชาวทอปบูต”!เหลือเชื่อ “ผู้กองเหน่ง”จำเลยคดีฆ่า "ผอ.อ้อย" อย่างอุกฉกรรจ์ พร้อมความผิดอีก 13 กระทง ยังไม่ถูกไล่ออกจากกองทัพ แถมรับเงินเดือน กินเงินหลวง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าทำนอง“ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน”อีกละมั้ง??

เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด .. คำคุ้นๆ ที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในยุคที่ “รัฐบาลลายพราง”เรืองอำนาจ ตั้งแต่ “นายทหารระดับบิ๊ก”ที่ได้รับสิทธิพิเศษล้นเหลือ เผื่อแผ่ไปถึงลูกเต้า-วงศ์วานญาติพี่น้อง แบบ“ใครๆก็ทำกัน”..หรือช่วงที่ “ระดับปฏิบัติการ”แตกไลน์ไปมีเอี่ยวธุรกิจบนดิน-ใต้ดิน ขอเบียดบัง “ค่าธรรมเนียม”ที่ชาวบ้านเรียก “ส่วย”บ้าง “ต๋ง”บ้าง ในราคาดับเบิ้ล เพิ่มพิเศษจากปกติ จนพ่อค้าแม่ขายบ่นกันอุบ ส่วน “สีกากี" เจ้าของสัมปทานเดิมได้แต่มองค้อน .. แล้วล่าสุดยังแอดวานซ์ไปอีกขั้น เมื่อสิทธิพิเศษสำหรับ “ชาวทอปบูต”ที่มี “ยศติดบ่า ดาวติดไหล่”ขนาดเป็น “ผู้ต้องหาฆ่า คนตาย”ยังอยู่สุขสบาย ไม่ถูกไล่ออกจากราชการแล้วก็ยัง“รับเงินเดือน กินเงินหลวง”ตามปกติ .. กรณีของ “ผู้กองเหน่ง”ร.อ.ศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาฆ่าโหด "ผอ.อ้อย" จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อดีตผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ .. ที่แม้ “ผู้กองเหน่ง”ตัวก็อยู่ในเรือนจำ และมีข้อหาติดตัว เป็นจำเลยคดีฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และคดีอื่นๆ อีกรวม 11 ข้อหา 13 กระทง อยู่ระหว่างเริ่มสู้คดีในชั้นศาล .. ที่น่าตกใจก็ข้อมูลจาก บุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของ ผอ.อ้อย ที่บอกว่า “ผู้กองเหน่ง” ที่มีคดีพันรอบตัว และถูกคุมขังมานานหลายเดือนแล้ว ยังไม่ถูกสั่งให้ออกจากราชการ และได้รับเงินเดือน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น .. ฟังดูน่าเหลือเชื่อ ด้วยจำเลยคดีอุกฉกรรจ์ระดับนี้ ที่แค่เป็นถูกตั้งข้อสงสัย น่าจะถูกพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน .. จริงเท็จอย่างไร คงต้องรอทาง “ผู้บังคับบัญชา ค่ายสรรพสิทธิประสงค์”ออกมาให้ความกระจ่าง .. แล้วก็ไม่ใช่แค่ตอบส่งๆ ว่า ไม่เป็นอย่างที่ “พ่อ ผอ.อ้อย”ให้ข่าว แต่ควรจะมีหลักฐานมายืนยันด้วยว่า ให้ออก

ไปเมื่อใด และหยุดจ่ายเงินเดือนตั้งแต่เมื่อใด .. ถึงจะฟังดูเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อว่า คงไม่มีใครทะลึ่งกล้าเอา “เกียรติ-ศักดิ์ศรี”ของกองทัพ มาเสี่ยงกับ “ผู้ต้องหาฆ่าคนตาย”แบบนี้หรอก .. แต่ก็ดูเบาความน่าเหลือเชื่อของมอตโต้ “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน”ของคนในกองทัพไม่ได้เช่นกัน.

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น