ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ไม่อายฟ้าอายดิน!! ปล่อยองคาพยพคสช. ต่ออายุ“ป.ป.ช.สายตรงวงษ์สุวรรณ”เพื่อประโยชน์ตัวเอง ย่ำยี “กฎหมายสูงสุด”ที่ปั้นมากับมือ ละเลย “หลักนิติธรรม”อย่างไม่น่าให้อภัย ก็อย่าไปเรียกร้องให้ใครเขามี“ธรรมาภิบาล”เลย“ท่านนายกฯตู่”
ไม่รู้เป็นอะไร“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกนอกสถานที่ทีไร ต้องมีติดปลายนวม ว่าคนอื่นเขาทู๊กกที .. กับคิวลงพื้นที่ ครม.สัญจร สุโขทัย-พิษณุโลก รอบนี้ ยังดีไม่มี“นอตหลุด”ว๊ากใส่ชาวบ้านให้ขนพองสยองเกล้า .. แต่ก็ยังยึดสไตล์เดิมๆ ตำหนิติเขาไปทั่ว ไม่เท่านั้นยังคอยเสี้ยมสอน“หลักประชาธิปไตย”ราวกับตั้งตัวเป็น “กูรูประชาธิปไตย”มาจากไหน .. อย่างล่าสุด ก็พูดไปพูดมาบอก“กลไกประชาธิปไตย”ต้องมี “ธรรมาภิบาล”พูดไป ไม่รู้เข้าใจความหมายที่พูดหรือเปล่า .. ก็อีกด้านที่เมืองกรุง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่งกระทำการย่ำยี“หลักธรรมาภิบาล”ที่มีเรื่อง “หลักนิติธรรม (Rule of Law)”เป็นเรื่องสำคัญอย่างไม่น่าให้อภัย .. ด้วยการโหวตผ่าน ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ... วาระที่ 3 เตรียมดันเข้ากระบวนการ ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ..
ขยี้มาหลายวันแล้วว่า ร่างกฎหมายป.ป.ช.ฉบับนี้ ไม่ใช่เลวร้ายเฉพาะการให้อำนาจ“ดักฟัง-แฮกข้อมูล”ที่ยอมถอนออกไปแล้วเท่านั้น .. ที่เลวร้ายมากกว่าคือ การร่าง“กฎหมายลูก”ที่จงใจขัดกับบทบัญญัติของ“กฎหมายแม่”หรือ “รัฐธรรมนูญ2560”อย่างชัดเจน .. ชัดเจนคือ คุณสมบัติของ กรรมการป.ป.ช.ที่ “ตกสเปกเทพ”ไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ในส่วนของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ .. แต่เหลือเชื่อที่ กมธ.เสียงข้างมาก ซึ่งว่ากันว่ารับ“ใบสั่งผู้มีอำนาจ”มา ไปร่างมาตรา 178 ที่เกี่ยวกับวาระในตำแหน่งของป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน เขียนแบบ “หน้าด้านๆ”ว่า “..ในส่วนที่เกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 9 และลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 11 (1) และ 18 มิให้นำมาใช้บังคับ” .. พูดง่ายๆ คือ อะไรที่เขียนล้อมาจากรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องไปสนใจ ด้วยเหตุผลของ“กมธ.เสียงข้างมาก”ที่ว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ที่“บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธาน กำลัง“ทำงานเข้าฝัก”ให้ดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะครบวาระ ไม่ต้องโดน“รีเซต - เซตซีโร”เหมือนคนอื่นเขา .. สมัย “ระบอบทักษิณ”ที่ถนัดลักหลับกลางดึก ยังต้องหลบ ก็สมัยนี้เล่นกันหน้าด้านๆ เอากันโจ้งๆ กลางวันแสกๆ เลยทีเดียว
** เข้าฝักอีท่าไหน!! 2 ปี ป.ป.ช.ยุค“ประธานกุ้ย”คดีงอกไม่มีลด 2 พันกว่าคดีเต็มกระบุง แถมที่เคลียร์ได้ ก็เก่งแต่กับ“ปลาซิวปลาสร้อย” ไร้น้ำยาลาก“ปลาตัวใหญ่”เข้ากระบวนการยุติธรรม ปมคอกม้าร้อยล้าน“บิ๊กป๊อด”ร้องเรียนตั้งแต่ปี 53 ป่านนี้ยังไม่ถึงไหนเลย
ถามหน่อยว่า“เข้าฝัก”อิท่าไหนไม่ทราบได้ .. จนป่านนี้คดีค้างเก่าของ ป.ป.ช. มากกว่า 2,100 คดี เมื่อครั้ง“บิ๊กกุ้ย”เข้ามาเป็นประธาน .. เคยฟิตจัด ประกาศเมื่อครั้งกระนู้นว่า ขอเวลา 3 ปี ต้องเคลียร์ให้หมด แต่ป่านนี้ 2 ปีผ่านไป ก็ยังไม่เห็นได้น้ำได้เนื้ออะไร มีแต่เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ นี่ยังไม่รวมคำร้องอีกหลายหมื่น ที่ยังไม่ได้ตั้งเรื่องเป็นคดีด้วยนะ .. แล้วคดีที่เคลียร์ๆ ออกมาก็มีแต่ประเภท“ปลาซิวปลาสร้อย”ยังไม่เห็นพวก “ปลาตัวใหญ่”โดนลากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้เลย ตลอด 2 ปีของป.ป.ช.ชุดนี้ ที่ว่ากันว่าเป็น“สายตรงวงษ์สุวรรณ”.. ด้วยสายสัมพันธ์อันดีกับทั้ง“นายป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รวมไปถึง “นายป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วย .. อาจเป็นเหตุทำให้คดีร่ำรวยผิดปกติ “คอกม้าร้อยล้าน”ของ “บิ๊กป๊อด” และ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ อดีต ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่มีคนยื่นร้องเรียนตั้งแต่ปี 53 ยังไม่ถึงไหนซักกะที ..
การปล่อยให้ “องคาพยพ”ในอาณัติของตัวเองย่ำยีรัฐธรรมนูญที่เป็น “กฎหมายสูงสุด”โดยไม่ยี่หระต่อ“หลักธรรมาภิบาล”เช่นนี้ .. “ท่านผู้นำตู่”ก็ไม่ควรไปสั่งสอน หรือเรียกร้องธรรมาภิบาลจากใคร แม้จะออกตัวได้ว่า ไม่รู้เห็นอะไรด้วย แต่ด้วยอำนาจที่มี ก็ไม่ควรปล่อยให้มีเรื่องบัดสีเยี่ยงนี้เกิดขึ้น .. แม้จะมีลุ้น สู้ได้อีกยก หากว่าป.ป.ช. หรือ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอให้มีการตั้งกรรมาธิการ 3 ฝ่าย เพื่อทบทวนบทบัญญัติที่ไม่เห็นพ้อง.. แต่ก็เชื่อเถอะว่าคงไม่มีวัน ก็ด้วยป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน เป็นผู้ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ .. ส่วนกรธ. ของ มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ดูจะไม่เห็นด้วยมาโดยตลอด เพราะเหมือนโดนแหกหน้ากลางที่สาธารณะ แต่ด้วยความเป็น“เนื้อเดียวกัน”กับคสช. ก็คงหยวนๆ กันไป .. เมื่อกล้าย่ำยี“รัฐธรรมนูญ”ที่ตัวเองเขียนขึ้นมาเอง เพื่อ“ประโยชน์ตัวเอง”ล้วนๆ อีกทั้งยังเป็นรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการทำประชามติมาแล้วด้วย .. ก็เท่ากับหน้ามืด ตามัว เริงในอำนาจ จนไม่สนใจแล้วว่าสังคมภายนอก จะคิดเห็นประการใด ก็เกรงว่าดาบนี้อาจคืนตามสนองเร็วกว่าที่คิด แล้วก็ทำให้“ขุนทหาร คสช.”ไปไม่ถึงฝั่งฝัน .. เอาแค่ล่าสุด กับผล“ดุสิตโพล”ที่ออกมา แปลกแต่จริง ที่เกินกว่าครึ่งลงความเห็นว่า“นายกฯตู่”ไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง ด้วยคะแนน 53 เปอร์เซ็นต์ เศษๆ .. ฝันไกล“สืบทอดอำนาจ”อยู่แบบยาวๆ อาจไม่หมูอย่างที่คิดซะแล้ว .
** ยังไม่สายเกินแก้!! พิรุธอื้อ ประมูลเมล์ NGV 489 คัน บอร์ดไม่ครบองค์ประชุม - ผู้ชนะมีตำหนิ คุกตารางอยู่ตรงหน้า ดูซิ“บิ๊ก ขสมก.”คนไหนจะเสี่ยงตายเซ็นต์สัญญา อิหรอบนี้เบรกอีกซักรอบ จะเป็นไรไป
ขอกระชุ่น ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม คนใหม่ อีกสักรอบ .. กับมหากาพย์“รถเมล์ NGV”โปรเจกต์ยักษ์ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) .. ที่ทำท่าจะ “ไปไม่รอด”หลังที่ประชุมบอร์ด ขสมก. ซึ่ง ณัฐชาติ จารุจินดา เป็นประธาน มีมติ 6 ต่อ 4 รับรองมติที่ประชุมบอร์ด ขสมก. เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. เห็นชอบให้ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO นำโดย บริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก โครงการจัดซื้อรถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (รถเมล์เอ็นจีวี) จำนวน 489 คัน .. มติออกมาเพียงวันเดียว ก็มีกระแสโจมตีว่า การอนุมัติจัดซื้อรถเมล์ NGV ครั้งนี้ เป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง มีการลักไก่กันอนุมัติ บอร์ดไม่ครบองค์ประชุม มีเข้าร่วมเพียงแค่ 7 คน แถมที่เข้าร่วมประชุม ยังคัดค้านไม่เห็นด้วยไปถึง 4 เสียง เห็นด้วยแค่ 3 เสียง .. ยังไม่รวมความเห็นที่ว่า รถเชื้อเพลิง NGVไม่เหมาะกับยุคสมัย ควรหันกลับไปที่ รถดีเซลแบบเดิม รถไฮบริด หรือ รถไฟฟ้า แบบใหม่แทน .. แล้วยังมีผู้ไปร้องเรียนเพิ่มเติม รายของ สุรดิษฐ์ ศรีดามาส กรรมการ บริษัท แม่โขงเทคโนโลยี จำกัด เอกชนรายหนึ่ง ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการฯ และเคยยื่นซื้อซองประมูล ทีโออาร์ ด้วย .. ฝากเรื่องไปที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เปิดเผยว่า ได้ยื่นเรื่องไป เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่ป.ป.ช.ได้เชิญเข้าไปให้ปากคำเป็นที่เรียบร้อย ..
นอกจากประเด็น“บอร์ด ขสมก.”ไม่ครบองค์ประชุมแล้ว “บจ.แม่โขงฯ”ยังโวยด้วยว่า ไม่ได้รับเชิญเข้าประมูลใหม่ โดยวิธีคัดเลือกพิเศษ .. แต่ ขสมก.กลับไปเชิญ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในแวดวงธุรกิจพลังงาน ไม่เคยอยู่ในธุรกิจรถยนต์ ร่วมยื่นซอง .. ส่วนหุ้นส่วนอย่าง บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ที่มีชนักกับ ขสมก. ติดตั้งเครื่องหยอดเหรียญไม่ตรงสเปก จนเป็นปัญหา ต้องยกเลิกโครงการ เสียงบประมาณไปเปล่าๆ เป็นพันล้านแล้ว .. ก็ยังไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามกำหนดในทีโออาร์ เสียด้วย แว่วว่ามี“ขบวนการป๋าดัน”รู้เห็นเป็นใจ ช่วยเหลือให้ ผ่านมาได้ .. เห็นว่า 1-2 วันนี้ ขสมก. เตรียมที่จะเซ็นสัญญากับ กลุ่ม SCN-CHO โดยมีกำหนดส่งมอบรถล็อตแรก 100 คัน ภายใน 90 วัน หลังลงนามในสัญญา และให้ครบ 489 คัน ภายใน 6 เดือน .. แต่ “วงใน ขสมก.”ฟันธงมาแล้วว่า“งานนี้มีคนขาแหย่คุก”ด้วยทั้ง มีความพยายาม“ดันทุรัง” เร่งรัดให้ ขสมก. จัดซื้อรถเมล์ NGVงวดนี้ โดยเร็ว .. ทั้งๆ ที่มีความผิดพลาดตั้งแต่ตอนเขียน ทีโออาร์-ราคากลาง แล้วยังปล่อยให้ราคาประมูลครั้งนี้ สูงกว่าราคากลางซะอีก .. อีกทั้ง “ศักยภาพ”ของกลุ่ม SCN-CHO ที่มี“ช ทวี”เป็นแกนหลัก ก็น่าจะไปไม่รอด จนจะกลายเป็น “ระเบิดเวลา”ที่รอเวลาประ ทุแบบ“ไปตายเอาดาบหน้า”เท่านั้น .. ก็ไม่รู้ว่าที่นัดจะเซ็นสัญญา 1-2 วันนี้ “บิ๊ก ขสมก.”จะจะกล้าเซ็นต์กันไหม .. พิลึกพิลั่นแบบนี้ไง เลยคว่ำมาตั้งหลายหน มาทรงนี้เบรกอีกซักรอบ จะเป็นไรไป.
ช.ชฎา