วงในคมนาคมเผย รัฐวิสาหกิจจีนเสนอจีทูจี เมล์เอ็นจีวี 489 คัน วงเงิน 3,440 ล้าน ต่ำกว่าราคากลางของ ขสมก.ที่เคาะไว้ 4,020 ล้าน แถมจัดโปรฯ 1 แถม 1 พร้อมดูแลซ่อมบำรุงให้ยาว 10 ปี
วันนี้ (8 ธ.ค.) รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า เมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทางบริษัท Guizhou Guihang Yunma Automobile Industry จำกัด ซึ่งระบุว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่ถือหุ้นโดยรัฐบาลจีนร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้ส่งหนังสือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงคมนาคม และผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อเสนอตัวเข้ามาดำเนินโครงการรถโดยสารรถโดยสารประจำทางใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (รถเมล์เอ็นจีวี) จำนวน 489 คัน พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษา ที่ขณะนี้รัฐบาลไทยโดย กระทรวงคมนาคม และ ขสมก.ยังติดปัญหาและอยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดซื้อ
โดย บริษัท Guizhouฯ ดังกล่าว ได้เสนอขายรถเมล์เอ็นจีวีในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 489 คันในวงเงิน 3,440 ล้านบาท พร้อมเสนอแถมรถเมล์เอ็นจีวีอีก 489 คันให้ด้วย โดยระบุว่าสามารถส่ง 489 คันแรกให้ได้ภายใน 120 วันนับจากวันลงนามในสัญญา และจะรับผิดชอบในส่วนงานซ่อมแซมและบำรุงรักษาแบบเบ็ดเสร็จเป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นให้เป็นดุลยพินิจของ ขสมก.ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนอีก 489 คันชุดที่สอง จะส่งมอบให้ได้ก่อนสิ้นสุดปีที่ 5 หลังลงนามสัญญา และทางบริษัทฯ จะรับผิดชอบในส่วนงานซ่อมแซมและบำรุงรักษาในส่วนของ 489 คัน ชุดที่ื 2 แบบเบ็ดเสร็จเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปีที่ 6 ถึงปี่ที่ 10 ทั้งนี้จะดำเนินการตั้งโรงงานประกอบรถและศูนย์บริการในประเทศไทยเพื่อให้กาดำเนินการมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนเงื่อนไขการชำระเงินที่แบ่งเป็นงวดๆ กำหนดชำระงวดสุดท้ายภายหลังจากที่ได้รับรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันชุดที่สองครบถ้วนแล้ว
บริษัท Guizhou ระบุด้วยว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์เป็นผู้ผลิตรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ รถโดยสารใช้พลังงานไฟฟ้า รวมไปถึงรถโดยสารรถโดยสารเชื้อเพลิงเอ็นจีวี ที่มียอดจำหน่ายทั้งในสาธารณรัฐประชาชนจีน และทั่วโลกกว่าหมื่นคัน อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการเดินรถโดยสารประจำทาง ซ่อมบำรุงในมณฑล Guizhou ของประเทศจีน ที่มีรถให้บริการกว่า 1 หมื่นคันด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการจัดซื้อและซ่อมบำรุงรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ของ ขสมก.นั้น เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้ เปิดให้เอกชนเข้าเสนอราคา ด้วยวิธีคัดเลือก กำหนดราคากลางไว้ที่ 4,020 ล้านบาท ปรากฎว่าได้มีเพียง กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ประกอบด้วยบริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN และบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ที่ได้ยื่นข้อเสนอสูงกว่าราคากลางราว 10% เพียงรายเดียว เท่านั้น.