ข่าวปนคน คนปนข่าว
** จบแล้วครับนาย!! “ประธานกุ้ย” แย้มเอาผิด “นาฬิกาเสี่ยป้อม” ยาก เหตุกฎหมายไม่บังคับให้ยื่นทรัพย์สินระหว่างอยู่ในตำแหน่ง ตัดจบรวดเร็วสมยี่ห้อ “สายตรงวงษ์สุวรรณ” ต่างจาก “นาฬิกา 2.5 ล้าน” ของ “ยิ่งลักษณ์” ฟ้ากับเหว
หลังปล่อยให้ขุดคุ้ยกันให้พอใจแล้ว .. ก็เป็นคิวของ“บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ออกโรงมา “ตัดจบ” เรื่องให้ “ลูกพี่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่กำลังเจอมรสุมสกรัม ปม“นาฬิกาเรือนโก้ - แหวนเพชรวงงาม”อย่างสนุกสนาน .. ทว่า “ประธานกุ้ย” ผู้มีอำนาจโดยตรงในการตรวจสอบทรัพย์สินผู้มีตำแหน่งทางการเมือง ก็เล่นบท “อยู่เป็น” สมยี่ห้อ“สายตรงวงษ์สุวรรณ”..เมื่อออกมาเปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง ที่ได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับกรณี “บิ๊กป้อม” ครอบครองนาฬิกายี่ห้อดัง - แหวนเพชร ตามที่ปรากฏออกมาเป็นข่าว แต่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในรายงานการแสดงบัญชีทรัพย์สินตอนเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2557 แล้ว โดย ป.ป.ช. จะส่งหนังสือให้ “บิ๊กป้อม” ทำการชี้แจงต่อไป .. เป็นการแอกชั่นแบบเสียไม่ได้ ตามหน้าที่เท่านั้น .. เพราะประโยคถัดไป “บิ๊กกุ้ย” ถอดหมวกประธาน ป.ป.ช. ออก แล้วสวมหมวก“ทนายหน้าหอ” แก้ต่าง - ชี้ช่องให้เสร็จสรรพว่า “กฎหมายปัจจุบันกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเฉพาะตอนเข้ามาดำรงตำแหน่ง และตอนออกจากตำแหน่งเท่านั้น” ..ฟังแค่นี้ก็เท่ากับ “แบะท่า” แล้วว่า เอาผิดกับ “ลูกพี่ป้อม” ไม่ได้ พร้อมทั้งยังปูทางลงให้อย่างสวยงาม ประมาณว่า “แค่ชี้แจงมา เรื่องก็จบ”..
สอดคล้องกับ วรวิทย์ สุขบุญ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ช. ที่ระบุกรอบเวลาในการชี้แจงเรื่องนี้ของ “บิ๊กป้อม” อยู่ที่ 30 วันตามระเบียบ ไม่ว่าจะแจงเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษร หรือจะมาแจงด้วยตัวเอง .. พร้อมขีดเส้นใต้โตๆ ว่า เรื่องนี้ไม่มีความซับซ้อน เชื่อว่า ใช้เวลาไม่นานในการตรวจสอบ .. ต่างกันราว “ฟ้ากับเหว” กับกรณี “นาฬิกา 2.5 ล้าน” ของ “หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไม่ได้ยื่นในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ ปี 2557 ที่เป็นมรดกมาจาก ป.ป.ช. ชุดเก่า และเพิ่งสรุปสำนวนเสร็จไม่นาน อยู่ระหว่างการพิจารณาของทางอนุกรรมการไต่สวน .. เป็นเรื่อง “อภิมหานาฬิกา” เหมือนกัน แต่มาตรฐานต่างกัน “นาฬิกาสาวปู” สอบมาเกือบ 4 ปี แต่ “นาฬิกาป๋าป้อม” ทั้งตัวประธาน - เลขาฯ สามัคคักันว่า เรื่องไม่ซับซ้อน แป๊บเดียวจบ .. อีกทั้งดูท่า ป.ป.ช. ก็คงไม่ติดใจสงสัยเหมือนสังคมทั่วไป ที่เคลือบแคลงใน “ความย้อนแย้ง” ของ “บิ๊กป้อม” ที่ว่า “นาฬิกาเรือนโก้ - แหวนเพชรวงงาม” เป็นของเดิม ใส่มาแล้วหลายหน แต่ดันไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินซะละมั้ง
**ทะลุเป้า!! “ฮีโร่ตูน” ก้าวฯแค่ครึ่งทาง ยอดบริจาคจ่อ 700 ล้าน เห็นแววว่าจะถึง “พันล้าน” รำไร ท่ามกลางกระแสดรามา หลัง “นายกฯลุงตู่ - กระทรวงหมอ” ระดมเงินสนับสนุนด้วย เจอโซเชียลตะเพิดไปหาทางแก้ระบบสาธารณสุข ดีกว่า
ไม่ไกลเกินเอื้อม เป้าหมาย 700 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนงบประมาณ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ใน “โครงการก้าวคนละก้าว” ของ “หนุ่ม ตูน บอดี้สแลม”ที่เจ้าตัวและทีมงานได้สับฝีเท้าผ่านครึ่งทาง “เบตง - แม่สาย” เข้าสู่ จ.สุพรรณบุรี บ้านเกิดเมืองนอนของ “หนุ่มตูน” ไปเป็นที่เรียบร้อย กับยอดเงินบริจาคที่น่าชื่นใจ ผ่านหลัก 630 ล้านบาทไปแบบสบายๆ เห็นแววว่า จะถึง “พันล้าน” รำไรๆ .. แต่ตลอดทางที่ “ฮีโร่ตูน” วิ่งมาตั้งแต่ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นเวลาเดือนกว่ามานี้ นอกจากภาพบรรยากาศอันน่าประทับใจแล้ว ก็ยังเคล้าไปด้วย “ดรามา” ตลอดทาง .. โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านเขตเมืองหลวง กทม. ที่เรียกได้ว่า “ดรามาหนักมาก” ทั้งการฝ่าฝูงชนที่มาร่วมให้กำลังใจอย่างล้นหลาม .. หรือการแวะไปพบ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบรัฐบาล จนเกิดภาพเปรียบเทียบระหว่าง “นักร้องหนุ่ม” กับ “ท่านผู้นำ” กับปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบสาธารณสุข .. ดรามายังพีคขึ้นไปอีก เมื่อเพจเฟซบุ๊ก “กระทรวงสาธารณสุข”โพสต์ภาพ “ผู้บริหารกระทรวง” นำโดย นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวง ที่นำทีมไปร่วมบริจาคให้กับ “พี่ตูน” จำนวน 1 ล้านบาท ระหว่างทางที่ “ทีมก้าวฯ” ผ่าน จ.นนทบุรี แถมส่งเป็น “ข่าวพีอาร์” เหมือนภาคภูมิใจเสียด้วย .. จนมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นความเห็นใน “ด้านลบ” ต่อกระทรวงสาธารณสุข ..
โดยเฉพาะการตั้งข้อสงสัยว่า “เงินบริจาค 1 ล้านบาท” ของสาธารณสุข มาจากเงินส่วนไหน แล้วเหตุใดถึงไม่เอาไปให้โรงพยาบาลรัฐโดยตรง .. กลายเป็น “สมการงงๆ” ว่า กระทรวงสาธารณสุข มอบให้ “พี่ตูน” เพื่อให้ “พี่ตูน” นำไปมอบให้ 11 โรงพยาบาลรัฐ ในกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุขอีกที .. จน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ต้องออกมาเบรกกระแสดรามา ว่า เงิน 1 ล้านบาท ที่มอบให้นั้น ไม่ใช่เงินงบประมาณ แต่มาจากการบริจาคของบุคลากรในกระทรวง - ประชาชน - ภาคเอกชน .. แต่คำชี้แจงที่ว่าก็อาจลืมไปว่า ภาพข่าวที่ออกมานั้น “ปลัดเจษฎา” ถือป้ายที่ระบุว่า “กระทรวงสาธารณสุข มอบเงินสนับสนุน...” อย่างน่าชื่นตาบาน .. ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับ “ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง” ที่จ้องแต่จะ “โหนกระแส”แต่ไม่คิดที่จะทบทวนบทบาทของตัวเอง ที่ควรจะเป็นผู้หาทางแก้ไขปัญหาระบบสาธารณสุขที่ย่ำแย่ มากกว่าระดมเงินบริจาคไปมอบให้ “ทีมพี่ตูน” หรือปล่อยให้ “ซุป’ตาร์” หรือใครๆ ต้องมาวิ่งปุเลงๆ ประจานความล้มเหลวของ “ระบบราชการ”อยู่แบบนี้ .. ไม่ใช่แค่ “กระทรวงหมอ” หรอกน้า “คุณลุงตู่” ที่ชื่นชม “หลานตูน” ไม่ขาดปากนั่นก็ด้วย
** ได้ฤกษ์ออกโรง!! “ติ่งน้องเกี่ยวก้อย” เตรียมมีตแอนด์กรี๊ด “กลาโหม” ปล่อยคิวควง “ผู้พันเบิร์ด” ลงพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ แจก “สัญญาประชาคม” ก่อนดันเฟส 2 ปล่อยโหลด “สติกเกอร์ไลน์” ซ้ำรอย “ค่านิยม 12 ประการ” ที่เคยผลาญภาษี ปชช. ไปเบาะๆ 7 ล้านบาท
ล้อเลียนกันแทบเสียผู้เสียคน .. แต่เจ้าของโปรเจกต์ “เสธ.ต้อง” พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ก็ยังไม่ลดละที่จะใช้ “น้องเกี่ยวก้อย” เป็นมาสคอต รณรงค์เรื่องปรองดองของ “รัฐบาล คสช.”.. แถมมองโลกสวย เต็มไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์ ว่า “ตอนนี้ ใครไม่รู้จัก น้องเกี่ยวก้อย ถือว่าตกเทรนด์” .. ล่าสุด เอาไปพรีเซนต์แผนโปรโมต “น้องเกี่ยวก้อย” ให้ “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ป้ายแดง ที่มานั่งหัวโต๊ะประชุมติดตามความคืบหน้ากระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้รับฟัง .. พร้อมยืนยันว่า “น้องเกี่ยวก้อย” มีใจเกินร้อย มุ่งมั่นเดินหน้า เตรียมลงพื้นที่ทำหน้าที่เป็น “สัญลักษณ์แห่งความปรองดอง”..ควงแขน “ผู้พันเบิร์ด” พ.อ.วันชนะ สวัสดี ลงพื้นที่ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันนี้ (8 ธ.ค.) ตั้งแต่เที่ยงตรง เพื่อมอบเอกสาร “สัญญาประชาคม” ให้กับประชาชน .. ดังซะขนาดนี้ เชื่อว่าแฟนคลับ “น้องเกี่ยวก้อย” คงไปรอ มีตแอนด์กรี๊ด กันอย่างล้นหลามแน่นอน ..
เรื่องเอาไปแห่เรียกเรตติ้ง แบบไม่ห่วงว่าลูกเด็กเล็กแดงจะสยดสยอง แม้จะขัดสีฉวีวรรณ ใหม่ให้หน้าขาว ตาโต น่ารักกว่าเดิมแล้ว ก็ไม่ว่ากัน .. แต่ที่ห่วงมากกว่าก็แว่วมาว่า ตอนนี้ “เสธ.ต้อง” ลูกรักของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รับผิดชอบงานสร้างความปรองดอง ปิ๊งไอเดียให้ประชาชนร่วมวาดภาพ “น้องเกี่ยวก้อย” ส่งมาในเพจ “ปรองดองเป็นของประชาชน .. วางแพลนเฟส 2 ไว้ว่า เตรียมเนรมิต “น้องเกี่ยวก้อย” ในรูปแบบ “สติกเกอร์ ไลน์” เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างบรรยากาศปรองดอง ...ได้ยินว่าเบื้องต้นประสานกับทาง LINE ประเทศไทย ไปแล้วซะด้วย .. หากเป็นจริงดังว่า ก็คงไม่ต่างจากเมื่อครั้ง “กระทรวงไอซีที” (สมัยนั้น) จัดแจงทำสติกเกอร์ไลน์ “ค่านิยม 12 ประการ” ตามนโยบายของ คสช. ปล่อยให้โหลดฟรี เป็น “ของขวัญปีใหม่” ต้อนรับปี 2558 .. มาจนถึงวันนี้ แม้สติกเกอร์ที่ว่าจะหมดอายุการใช้งานไปแล้ว ก็ยังมีเสียงก่นด่าไล่หลังตามมา .. ก็ด้วยงบประมาณจัดทำ “สติกเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการ” ในหนก่อนนู้น ปาเข้าไป 7 ล้านบาทเศษ .. หรือเอาตัวเลขเป๊ะๆ ก็เป็นเงิน 7,117,353.24 บาท จากงบประมาณที่ตั้งไว้ 7,117,400 บาท ประหยัดไปอย่างมหาศาลถึง 46.76 บาท .. จนโดนด่าขรมเมือง ว่า ตำน้ำพริกละลายแบบแม่น้ำ สิ้นเปลืองเปล่าๆ สรุปคือจะให้ใครปรองดองกับใคร เพราะทุกวันนี้เขาก็ปรองดองรุมถล่มการบริหาร และทัศนคติแบบหลงยุคกันอยู่แล้ว ก็วนมาลูปเดิม ถ้าไม่มีการปฏิรูปประเทศให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ตามที่คนไทยคาดหวัง ก็เสียเวลา เสียงบประมาณ โดยใช่เหตุ
ช.ชฎา