นายกฯ ขีดเส้น 15 ธ.ค.เร่ง พม.ส่ง “TIP Report-ปราบปรามค้ามนุษย์ ปี 60” ฉบับภาษาไทย พร้อม สั่ง กต.แปลรายงานฉบับเต็มภาษาอังกฤษเข้า ครม. ก่อนส่งถึงมือกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ภายในวันที่ 31 ม.ค. 61 ด้าน พม.เร่งสรุป รูปแบบอินโฟกราฟิกเชิงสถิติที่ชัดเจน เหมือนฉบับปี 59
วันนี้ (6 ธ.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 4 ธ.ค. โดยมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่กำกับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน เร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ยังให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (TIP Report) ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2560 และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำรายงานดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ ให้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในวันที่ 15 มกราคม 2561 ก่อนนำเสนอต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายในวันที่ 31 มกราคม 2561 ต่อไป
มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้น พม.ได้ประชุมหลายครั้งเพื่อเตรียมการสำหรับการจัดทำรายงาน หรือ Progress Report ที่จะต้องส่งให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยตั้งเป้าที่จะรายงาน และสื่อสารในรูปแบบของอินโฟกราฟฟิกที่เข้าใจง่าย และพิสูจน์ได้ด้วยผลงานเชิงสถิติที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม หลังจากรายงานปี 2559 ที่ส่งให้สหรัฐอมริกา
“เนื้อหาที่คาดว่าจะมีการนำเสนอประกอบด้วย สถิติการดำเนินคดี ทั้งในชั้นของพนักงานสอบสวน ชั้นพนักงานอัยการ และในชั้นศาล ที่มีพิพากษาลงโทษจำเลย คำสั่งยึดทรัพย์ ประเด็นการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ผู้เสียหายมีงานทำ ทั้งในและนอกสถานคุ้มครอง รวมถึงการได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนของ พม. และพัฒนารูปแบบการให้บริการด้านต่างๆ”
มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน หารือถึงการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหา ขณะนี้รัฐบาลอยู่ในระหว่างการจัดทำรายงานการค้ามนุษย์ หรือ TIP report ปี 60 โดยจะมีการพิจารณาความสมบูรณ์ของรายงาน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี และส่งให้สหรัฐฯ ภายในวันที่ 31 มกราคม ปี 2561