xs
xsm
sm
md
lg

ซับซ้อนซ่อนเงื่อน! ไขปมการตาย “นตท.เมย” ไม่คืบ กองทัพอ้างคำหรู “รอบคอบ-โปร่งใส” ถ่วงผลไม่มีกรอบเวลา ลือกระฉ่อนมีใบสั่งยื้อให้นานที่สุด ห่วง “รุ่นพี่ขาใหญ่” ติดบ่วงด้วย แฉ “ส.นิติวิทย์” โหนศพ “น้องเมย” สบช่องของบฯ ซื้อน้ำยาฟอร์มาลินเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด

ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง
ข่าวปนคน คนปนข่าว



** ซับซ้อนซ่อนเงื่อน! ไขปมการตาย “นตท.เมย” ไม่คืบ “กองทัพ” อ้างคำหรู “รอบคอบ-โปร่งใส” ถ่วงผลไม่มีกรอบเวลา ลือกระฉ่อน มีใบสั่งให้ยื้อให้นานที่สุด ห่วง “รุ่นพี่ขาใหญ่” ติดบ่วงด้วย แฉ “ส.นิติวิทย์” โหนศพ “น้องเมย” สบช่องของบฯ ซื้อน้ำยาฟอร์มาลินเพิ่ม

ราวกลับพลอตนิยายสยองขวัญที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนซ่อนเงื่อน... ปมการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ “นตท.เมย” ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) รุ่นที่ 60 ภายในรั้วโรงเรียนฯ... ที่มีข้อสงสัยว่าเป็นผลพวงจากการถูก “ธำรงวินัย” นำมาสู่การเสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ กระทั่งการควัก “อวัยวะภายใน” ออกไปโดยไม่บอกกล่าวทางครอบครัว... ส่วนตัวละครในเรื่องก็มีท่าที “พิรุธ” อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเหล่า “บิ๊กทหาร” ที่เรียงหน้าออกมากล่าวโทษไปถึง “สุขภาพส่วนตัว” ของผู้ตาย ที่ขัดกับสภาพศพ-ผลการชันสูตรร่างกายเบื้องต้น เหมือนพยายามปกปิดความจริงบางประการ... และในขณะที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่แทบเสียผู้เสียคนจากการ “พูดก่อนคิด” ไปหยามเกียรติผู้ตาย จะขอให้รอผลการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง .. แต่ทาง พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานตรวจสอบฯ กลับดูจะ “ไม่รีบร้อน” ระบุว่า “ไม่มีกรอบเวลา” ในการทำงาน โดยอ้างว่าเพื่อความรอบคอบ-โปร่งใส... ไม่สนใจความทุกข์ระทมของ “ครอบครัวน้องเมย” ที่ต้องการแค่ “ความจริง” เพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่บุตรชายคนเดียวของครอบครัว รวมทั้งการนำ “ผู้กระทำผิด” มาลงโทษ...

ในขณะเดียวกัน ทาง “ครอบครัวน้องเมย” ก็เพิ่งได้รับหลักฐานจาก “ผู้หวังดี” ระบุอักษรย่อ “ชื่อรุ่นพี่” ที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วงเช้า ที่ “น้องเมย” ถูกธำรงวินัยจนต้องหามไปพบแพทย์ของโรงเรียนฯ... ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า สาเหตุที่เรื่องของ “นตท.เมย” ถูก “ยื้อยุด-ปกปิด-ซ่อนเร้น-เตะถ่วง” ก็ด้วยมี “รุ่นพี่เส้นใหญ่” มีส่วนเกี่ยวข้องกับความสูญเสียในครั้งนี้... ไม่เพียงเท่านั้น ความซับซ้อนซ่อนเงื่อนยังไม่หมด เมื่อล่าสุด สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่รับเอาร่างไร้วิญญาณ พร้อมอวัยวะภายในของ “น้องเมย” ไปตรวจชันสูตรเพิ่มเติม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่งออกมาแจ้งว่าผลการตรวจยังไม่แล้วเสร็จ แถม “ไม่คืบหน้า” เสียด้วย... ก็น้ำยาสกัดสารพันธุกรรมแบบพิเศษ (FFPE) ดันหมดสต๊อกสถาบันอย่างกะทันหัน และอยู่ในขั้นตอนของบประมาณในการจัดซื้อ... พลันที่ สมณ์ พรหมรส ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ออกมาให้ข่าวที่ว่า ก็โดนตั้งข้อสังเกตทันทีว่า ร่วมขบวนการ “เตะถ่วง” ให้ความตายของ “น้องเมย” เงียบหายไปหรือเปล่า .. ทว่าก็มี “พรายกระซิบ” มาอีกสายว่า จริงๆ น้ำยา FFPE หรือ “ฟอร์มาลินแบบพิเศษ” ที่ว่านี้ หมดเกลี้ยงจากสต๊อกมาแล้วหลายเดือน แต่ ผอ.สถาบัน ดูจะไม่ใส่ใจ ส่งผลไม่เฉพาะเคส “น้องเมย” แต่ยังทำให้งานตรวจที่ค้างอยู่ชะงักไปพอสมควร ที่ผ่านมาต้องบากหน้าไป “ขอยืม” จากหน่วยงานอื่นนอกกระทรวงมาใช้ไปพลาง... เหตุเพราะ “ผู้บริหารบางราย” โยกงบจัดซื้อที่ปัจจัยที่จำเป็นต่อภารกิจหน่วยงานไปจัดจ้างงานอื่นๆ เพียงเพื่อหวัง “ฟาดหัวคิว” พอได้มาจับประเด็นใหญ่ ก็เลยอาศัยจังหวะชุลมุนของบประมาณเพิ่มเติม... จริงเท็จประการใดคงต้องวาน “บิ๊กจิน” พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ที่รอบนี้ได้ถ่างมาควบ รมว.ยุติธรรมอีกตำแหน่ง เข้าไปตรวจสอบหน่วยงานในสังกัดสักนิด... ความตายของ “น้องเมย” นอกเหนือจากเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” ที่ทำเอา “รัฐบาล-กองทัพ” ซวนเซแล้ว ยังแตกหน่อเป็นประเด็นยิบย่อยให้เห็นถึงความเลวร้ายของข้าราชการ-หน่วยงานราชการได้อีกด้วย
 อัญชะลี ไพรีรัก และ จิตภัสร์ กฤดากร
** ใช่เธอหรือเปล่า!? “น้อง ต.” ที่รับบท “นางนกต่อ” ไปเจื้อยแจ้ว กับ “ครอบครัวน้องเมย” ฤๅจะใช่ “น้องตั๊น แห่ง กปปส.” ผู้หลงเสน่ห์การเมือง-เครื่องแบบจนหัวปักหัวปำ ฝันไกลขอเป็น “นายกฯ หญิง” สักครั้ง “หญิงหน่อย-มาดามแป้ง” มีหนาวแน่

ไถ่ถามกันมามากว่า“น้อง ต.” ที่กำลังเป็นที่โจษขานถึงบทบาท “นางนกต่อ” ร่วมกับ “เจ๊ ป.” รับงานจาก “บิ๊กทหาร” ไปเจื้อยแจ้ว หวังตัดจบปัญหาการเสียชีวิตของ “นตท.เมย” ที่เอ่ยถึงในข่าวปนคนฯ วันก่อน... จะใช่คนเดียวกับ “น้องตั๊น” จิตภัสร์ กฤดากร หรือที่คุ้นกันในสกุล “ภิรมย์ภักดี” หรือไม่... เหตุเพราะ “น้องตั๊น” มีสายสัมพันธ์อันดีกับตัวละครสำคัญ ทั้งเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญของ กปปส. มีความใกล้ชิดกับ “กำนันเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ .. และยังรู้กันว่า เป็นหลานรักของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ อีกด้วย... อีกทั้งบทบาทของ“น้องตั๊น” ที่ผ่านๆ มา ค่อนข้างโดดเด่น เปล่ง “รัศมี” ในทางการเมือง จนเป็นที่น่าจับตายิ่ง... ด้วยรสนิยมความชื่นชอบในทางการเมือง ต่างจากภาพลักษณ์ “คุณหนูสายแบ๊ว” อย่างที่เห็นๆ กัน... จนกระโดดเข้าสู่ถนนสายการเมือง ด้วยการเข้ามาเป็นข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในช่วง “รัฐบาลอภิสิทธิ์” แต่ก็ดันพลาดนำ “ปฏิทินโป๊” ไปแจกกลางทำเนียบฯ จนต้องลาออกจากตำแหน่งไปในตอนนั้น... แต่ภารกิจหน้าที่ก็ไม่ได้ขาดมือ ผู้หลักผู้ใหญ่ยังเอ็นดูมอบหมายให้ช่วยงานหลายสิ่ง โดยเฉพาะงานประสานงานที่เธอค่อนข้างถนัด ทำให้เสริมสายสัมพันธ์ทางการเมือง รู้จักมักจี่กับการเมืองทุกขั้วกันเลยทีเดียว... ก่อนกลับมาผงาดอีกครั้งขึ้นมาเป็น “เลขานุการรัฐมนตรี จุติ ไกรฤกษ์” ที่กระทรวงไอซีที จนไปมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับเป็นอย่างดีกับ “2 เจ๊”ผู้โด่งดัง ทั้ง “เจ๊ปอง” อัญชะลี ไพรีรัก และ “เจ๊ติ่ง” มัลลิกา บุญมีตระกูล ที่ว่ากันว่าเป็น “พี่เลี้ยง” ในทางการเมืองก็ว่าได้ .. ทว่า ในการเลือกตั้งปี 2554 เธอกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อไม่สามารถต้าน “ติ่งธรรมกาย” จนต้องพ่ายให้ ลีลาวดี วัชโรบล ในสนามเลือกตั้ง เขต 5 กทม.ไปอย่างเฉียดฉิว...

รัศมีของ “น้องตั๊น” มาเจิดจรัสมากขึ้นอีกครั้งเมื่อร่วมหอลงโรงกับการเคลื่อนไหวของ กปปส. นำโดย “ลุงกำนัน” และได้รับมอบหมายให้เป็นแกนนำในการเคลื่อนทัพหลายครั้ง จนทำให้มีปัญหากับครอบครัวข้างพ่อต้องตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุลมาเป็น “กฤดากร” ซึ่งเป็นราชสกุลเดิมข้างแม่ คือ “คุณหญิงต้น” ม.ล.ปิยาภัสร์ กฤดากร... ไม่เพียงเส้นทางการเมืองที่ “น้องตั๊น” ปลาบปลื้มเท่านั้น เธอยังนิยมชมชอบ “เครื่องแบบทหาร-ตำรวจ” เป็นพิเศษ... พลันที่ คสช.เข้ามามีอำนาจใหม่ก็มีข่าวรั่วออกมาว่า “น้องตั๊น” สมัครเข้ารับราชการ “ตำรวจ” ในตำแหน่ง “รองสารวัตรประจำกองอำนวยการ” กองบังคับการสายตรวจ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ “ตำรวจ 191” กำลังจะได้ติดยศอยู่แล้วเชียว แต่ถูกต่อต้านอย่างหนัก ทั้งจากตำรวจที่ยังจดจำภาพที่ “น้องตั๊น” นำผู้ชุมนุมไปบุก สตช. รวมทั้งสังคมที่รับไม่ได้กับการเปิดตำแหน่ง เปิดทางไต่เต้าเป็นพิเศษให้กับ “น้องตั๊น” เป็นการเฉพาะ .. ซึ่งผู้ใหญ่รายนั้นก็ถูกตั้งข้อสังสัยว่าคือ“ลุงป้อม”ผู้มากบารมี และให้ความเอ็นดูเธอมาอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้น “ลุงป้อม” ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับ “น้องตั๊น” นับถือกันเป็น “ลุง-หลาน” เท่านั้น ที่สุดเธอก็ต้องตัดสินใจยุติสมัครเข้ารับราชการตำรวจ... หากแต่เธอก็ยังวนเวียนอยู่กับ“บิ๊กทหาร-ตำรวจ”ที่เอ็นดูกันอยู่หลายราย จนเรียกได้ว่าคอนเนกชั่นการเมืองของ “น้องตั๊น” แข็งปั๋ง ส่งผลให้ลู่เลนทางการเมืองสดใสมากกว่าสมัยยังไร้เดียงสามาก... จนต้องย้อนไปเมื่อครั้ง“วัยละอ่อน”ที่เธอเคยถูกสื่อน้อยใหญ่ รายล้อมขอสัมภาษณ์เป็นแถว และประกาศความฝันเอาไว้ชัดเจนว่า “อยากเป็นนักการเมือง และนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศไทย” ..ดูร่องรอยของเธอผู้นี้แล้ว ตำแหน่ง “นายกฯ หญิงคนต่อไปของเมืองไทย” ที่อย่างน้อยๆ มี “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ตีตราจองไว้ หรืออย่าง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่แซวๆ กันอยู่... คงจะดูเบา “น้องตั๊น” ที่กำลังแต่งเนื้อแต่งตัวรอรับตำแหน่ง “อนาคตนายกฯ หญิง” ไม่ได้แล้ว .. ว่ามาซะยืดยาวก็ยังไม่รู้จริงๆ ว่า “น้องตั๊น” จะเป็นคนคนเดียวกับ “น้อง ต.” ที่ได้รับการร้องขอจาก “ลุงป้อม-ลุงกำนัน” ให้เข้าไปช่วยเคลียร์ปัญหากับ “ครอบครัวน้องเมย” ที่เคยศรัทธากับแนวทางของกลุ่ม กปปส.มาก่อนหรือเปล่า...


ช.ชฎา
กำลังโหลดความคิดเห็น