ข่าวปนคน คนปนข่าว
** เจ๊งลูกเดียว!! เพจ “ติ่งลุงตู่”อ้าง “ท่านผู้นำ”เสียใจ เผลอว้ากชาวประมง“ท่านไก่อู”ยิ่งพูดยิ่งพัง โบ้ยชาวบ้านพูดก้าวร้าวรุนแรง เลยโดนตะคอกกลับ ซ้ำด้วยส่ง จนท.ไล่ทุบม็อบถ่านหินอีก เสียแรงกองทัพมี โรงเรียน เสธ.-หลักสูตรงานมวลชน เรื่องแค่นี้รับมือไม่ได้ รูดม่านไปเถอะ“ครม.สัญจร”ก่อนจะเจ๊งไปมากกว่านี้
ตอนจะพูดจะจาอะไรไม่คิดให้ดีก่อน .. หลัง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตวาดเสียงดังใส่“ตัวแทนชาวประมง”ในระหว่างการลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันก่อน .. ร้อนถึง“ไอโอทหาร”ที่พึ่งพาไม่ค่อยจะได้ ต้องออกโรงมาแก้ต่างพัลวัน .. เริ่มจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ "Gen.Prayut Chan-o-cha" ทีมงานได้โพสต์ข้อความว่า “นายกฯ เสียใจที่ได้ว่ากล่าวชาวประมงไป...”และสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ไปดูอย่างละเอียดแล้ว บลาๆๆ .. ตามมาด้วย “ท่านไก่อู”พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล และอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่ออกตัวว่า อยู่ในเหตุการณ์ ระบุ ปฐมเหตุมาจากลีลาคำพูดของ“ชาวประมง”ที่มายื่นหนังสือ ใช้ถ้อยคำ“ก้าวร้าวรุนแรง”ทั้งที่มาขอให้รัฐบาลช่วย เลยเจอ“นายกฯตู่”ที่ถือไมค์อยู่ สวนกลับเสียงดัง เหมือนเคยชินกับวิถีการปกครองแบบทหาร .. ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง ยิ่งพูดยิ่งเสีย ด้วยสถานะตัวเองเป็น“รัฐบาล - ฝ่ายบริหาร”เมื่อประชาชนผู้เสียภาษีมาร้องเรียนความเดือดร้อน แค่รับเรื่องไว้ก็จบ .. หรืออาจเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน แต่การรับมือก็ใช่ว่ายาก แค่รับฟังให้จบประโยค แล้วค่อยอธิบาย หรือให้ตัวแทนไปพูดคุยด้วย แค่นี้เอง .. เสียแรงที่เป็นนายทหารใหญ่ ผ่านหลักสูตรจิตวิทยา หลักสูตรงานมวลชน ในรั้วสีเขียวมาซะเปล่า ..
ยิ่งบวกกับภาพความรุนแรง-ผลลัพธ์ จากการปะทะกันของ“เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร”กับ “ม็อบต้านถ่านหิน”ด้านนนอกแล้ว พูดได้เลยว่า ครม.สัญจร งวดนี้ แต้มความนิยมก็ไม่ได้ ยังมาถูกตัดคะแนนความประพฤติแบบไม่ใช่เรื่อง .. ยิ่ง“ท่านไก่อู”ยอมรับเองว่า กลุ่มผู้เห็นต่าง เรื่องการสร้างโรงไฟฟ้า อ.เทพา จ.สงขลา ได้ประสานขอเข้ายื่นหนังสือต่อ“นายกฯตู่”มาก่อนแล้ว แค่คลาดเคลื่อนเรื่อง วัน ว. เวลา น. เท่านั้น แต่ก็ไม่เห็นจะต้องไปทุบตีกันเยี่ยงนั้น .. กลายเป็นว่า“รัฐบาลทหาร”ที่บิ๊กๆ กว่าครึ่งผ่านหลักสูตร “โรงเรียน เสธ.”มา ตก“หลุมพรางตื้นๆ”ของฝั่งผู้เคลื่อนไหว .. จนทำให้สังคมภายนอกมองว่า“รัฐบาลลายพราง”ลุแก่อำนาจ โดยไม่สนใจว่าฝั่งม็อบจะโต้ตอบรุนแรงกับตำรวจ-ทหาร หรือไม่ อย่างไร ด้วยก็เห็นๆ อยู่ฝ่ายไหนมีอาวุธ หรือกำลังพลที่เหนือกว่า .. เอาเข้าจริง “พื้นที่ปักษ์ใต้”น่าจะเป็นพื้นที่เพียงไม่กี่จุดในประเทศที่ “ลุงตู่ และชาวคณะ”จะเดินทอดน่องได้แบบสบายใจที่สุดด้วยซ้ำ .. ก็ “พี่น้องชาวใต้”ถือเป็นฐานสนับสนุนอันเหนียวแน่นของ“คณะคสช.”เมื่อครั้งที่ออกมาโค่นรัฐบาลที่แล้ว ก็เฮกันทั้งภาค .. แต่บริหารไปๆ มาๆ กลับผลักไสมิตรจนกลายไปเป็นศัตรูเสียนี่ .. หากออกไปนอกสถานที่ แล้วใช้โอกาสสร้างความนิยมไม่ได้ แถมไปขยี้เรตติ้งให้ย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมแบบนี้ เลิกไปเถอะ “ครม.สัญจร”ที่อุตส่าห์ลอก“รัฐบาลเลือกตั้ง”มา .. เตือนด้วยความหวังดี อย่าไปสร้างสถานการณ์ประเภท“น้ำผึ้งหยดเดียว”บ่อยๆ เห็นเป็นเรื่องเล็กๆ แบบนี้ มันเป็นเรื่องใหญ่ได้ .. เรื่องแบบนี้มันต่อยอดสร้างประเด็นกันไม่ยาก ดีไม่ดี“เรือแป๊ะ”จะล่มจมไม่รู้ตัว.
** มันก็จะเหงาๆหน่อย!! เจ้ากระทรวงยังไม่ประจำการ เหลือ 15 รมต.ร่วมวงประชุมครม. “ทีมสมคิด”ผงาด คนเก่าอยู่ครบ ได้คนใหม่มาเสริม นโยบายเศรษฐกิจเดินต่อ ไม่ต้องกั๊ก ห่วงก็แต่“ก.เกษตรฯ”ที่ไม่เพียงแค่เงา“พี่ป๊อก”ทาบทับ ยังมีเงา“กำนันเทือก”ซ้อนอยู่ด้วย
"ครม.ประยุทธ์ 5" ยังไม่ได้ฤกษ์เข้าประจำการอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้วงประชุมครม.สัญจร จ.สงขลา ที่ “นายกฯลุงตู่”นั่งหัวโต๊ะ มีผู้เข้าร่วมประชุมโหรงเหรง รวมแค่ 15 หน่อ .. ช่วงนี้บรรยากาศการทำงานของหลายกระทรวงเลยอาจจะดูเหงาๆ หน่อย แต่หาใช่ทีมงานด้านเศรษฐกิจของ“เฮียกวง”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แม่ทัพเศรษฐกิจ ที่ไม่เพียงแต่เซฟเก้าอี้ รมต.ใน“ทีมสมคิด”ได้ทั้งหมด อุ้ม“ตัวหลัก”ไว้ครบถ้วน แถมยังจะได้ “ตัวจึ๊ดจ๊าด” มาเสริมอีกหลายราย .. แน่กว่าแช่แป้ง ทิศทางแนวนโยบายเศรษฐกิจไม่เปลี่ยนแน่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลยไม่ต้องเกียร์ว่าง- ซอยเท้าคอย เหมือนทีมอื่น .. อย่างโครงการ “พร้อมเพย์ - บัตรคนจน”ที่ถูกวางไว้ในนโยบายหลัก“สังคมไร้เงินสด”ของ “ทีมเฮียกวง”ที่คิกออฟกันไปแล้ว ก็เดินหน้ากันต่อแบบไม่มีกั๊ก .. เลยได้เห็นภาพนายแบงก์ใหญ่ ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่แบงก์กรุงไทย สลัดสูท-เทคไท สบโอกาสช่วง ครม.สัญจร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการติดตั้งเครื่องรูดบัตร EDCในร้านธงฟ้า ที่ จ.ยะลา-นราธิวาส ประมาณว่า ตอบสนองนโยบาย “เฮียกวง”เต็มที่ .. ภาพรวมดูดี๊ ดูดี อาจจะมีเฟลหน่อยๆ ก็ตรงกระทรวงเกษตรฯ ที่ไม่ใช่สายตรง ด้วยเจ้ากระทรวง“ปลัดปุ้ย”กฤษฎา บุญราช มีแบ็กกราวน์มาจากกระทรวงมหาดไทยนู่น .. ไม่ใช่แค่เงาของ“บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะทาบทับมาถึง“กระทรวงพญานาค”เท่านั้น .. ตัว “ปลัดปุ้ย”ยังลิ้งค์ไปถึง “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ แห่ง กปปส. เสียด้วย ภาพสมัยร่วมเป่านกหวีดกับ“กำนันเทือก”ทำเอาเสียวสันหลังวาบ .. โดยเฉพาะการแก้ปมราคายางพารา ที่ร่ำลือกันว่า “อดีตเลขาธิการ กปปส.”มีส่วนไม่มากก็น้อย กับกลไกตลาดยางพารา คุ้นเคยดีกับ “5เสือยางพาราไทย” .. จนมีคนร้องทักคุ้นๆว่า“กำนันเทือก”เคยอำมหิต ถึงขั้นปล้นประชาชนถึงครัว สมัยหาเรื่องนำเข้าน้ำมันปาล์ม จนราคาพุ่งกระฉูด ของขาดแคลนกันทั่วบ้านทั่วเมือง อาจสบช่องมาแทรกแซงการทำงานของ“ปลัดปุ้ย”ได้ .. อันนี้ทักไว้ในอารมณ์เป็นห่วงเฉยๆ ถ้าเป็นขึ้นจริง ก็ตัวใครตัวมันละกัน
** ไม่โกรธ แต่จำแม่น!! เงินล้านหลุดลอยไม่เท่าไร “จอมทรัพย์”ซวยยกแก๊ง แถมเผื่อแผ่ความบันเทิงมาถึง“จอมยุ - จอมเสี้ยม”ถ้วนหน้า ตั้งแต่ “ก.ยุติธรรม - ดีเอสไอ - เนตไอดอล - ผู้ประกาศดัง”เจอ “พี่ตำรวจ”ไล่เช็กบิลเรียบ
คำนวณคร่าวๆ หาก "จอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร" อดีตข้าราชการครู ที่ยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้รื้อฟื้นคดีขับรถชนคนตาย เมื่อปี 2548 ขึ้นมาพิจารณาใหม่ แล้วกลายเป็น "ผู้บริสุทธิ์"ได้ .. ผลพวงที่ตามมาก็คือ ค่าทดแทนความเสียหายในรูปแบบต่างๆ อาทิ เงินทดแทนจากอาชีพครู เงินช่วยเหลือในการดำรงชีพ ค่าทำขวัญทางจิตใจ ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย ตลอดจนค่าทดแทนวันที่สูญเสียอิสรภาพ รวมๆ แล้วอาจได้มากถึง 4-5 ล้านบาท เลยทีเดียวเชียว .. นี่แหละทำให้ใครบางคน “ไอเดียบรรเจิด”ในทางที่ผิด เกิด“หัวหมอ”หวังอาศัย "ช่องว่างทางกฎหมาย" เพื่อหาประโยชน์ที่ไม่ควรจะได้รับ .. อีกทั้งยังมีผู้ยอมรับโทษแทนในราคาย่อมเยา 10 เปอร์เซ็นต์ ของยอดรวมทั้งหมด ที่อาจจะได้ .. แต่เกมพลิก เมื่อศาลไม่หลงกลง่ายๆ พิพากษาในชั้นฎีกา ยกคำร้องขอฟื้นคดี .. คราวซวยเลยตกมาถึง “แก๊งจอมทรัพย์”ที่กำลังโดนเวรกรรมไล่ล่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ไล่เช็คบิล .. ด้วยเมื่อครั้งที่เรื่องราว“ครูแพะ” เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ มีการสร้างประเด็นดราม่าต่อเนื่อง หลายคนออกตัวถือหาง "ครูจอมทรัพย์" แบบหมดหน้าตัก .. แม้จะมีข้อสังเกต หรือพิรุธหลายประการ แต่ด้วยความชัง“ตำรวจ”เป็นทุน จึงเลือกที่จะรุมถล่ม“ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”จมธรณี .. “ฝ่ายตำรวงจ”เองก็ไม่ได้มั่นใจเต็มร้อยว่าจะชนะ ก็ด้วยเรื่องผ่านมานานนม ไม่รู้ว่า “พนักงานสอบสวน-คนเขียนสำนวน”สมัยนั้นเล่นกลอะไรหรือเปล่า .. แต่ในระหว่างทำศึกสู้คดีกันไป ก็จดรายขื่อคนที่ออกมาถล่ม“องค์กรสีกากี”ไว้ใน “บัญชีหนังหมา”ขึ้นแบล็กลิสต์ไว้ที่“กรมปทุมวัน”ไม่ตกหล่น ..
พลันที่ศาลตัดสินโพล๊ะ ก็เลยเป็นทีของ“ทัพสีกากี” ที่ปูพรมไล่เช็กบิลทีละหน่อ สองหน่อ แจกจ่ายความบันเทิงให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยทั่วถึง .. ทั้งตัว “ครูจอมทรัพย์”หรือต้นคิดอย่าง “ครูอ๋อง”สุริยา นวลเจริญ ตลอดจน สับ วาปี ที่รับว่าเป็นคนขับรถ พร้อมครอบครัว โดยกันถ้วนหน้า ข้อหายาวเป็นหางว่าว แจ้งความเท็จ-เบิกความเท็จ-อั้งยี่ซ่องโจร-หมิ่นประมาท .. จนล่าสุด สารภาพสิ้นไส้ว่า รวมหัวกันเป็นขบวนการ บรรดาตัวการสิ้นอิสรภาพ นอนคุกเป็นแถว ไม่เพียงเท่านั้น ยังเดือดร้อนมาถึง“จอมยุ - จอมเสี้ยม”ทั้งหลาย .. ตั้งแต่ “หัวหอก”อย่าง พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม มาถึง ทีมงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ถูกขอตัวไปช่วยงาน“รองฯดุษฎี”ที่ถูกทางตำรวจเชิญไปให้ข้อมูล .. เนตไอดอล ขวัญใจชาวฮาร์ดคอร์ อย่าง “มาร์ค พิตบูล”ณัชพล สุพัฒนะ ที่เคยระดมเงินบริจาคช่วยเหลือ “ครูจอมทรัพย์”ที่ขอรื้อฟื้นคดี รายนี้เจอทั้งหมายเรียก ทั้งตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง .. แว่วว่า ล่าสุดความบันเทิงมาถึง“ผู้ประกาศข่าวชาย อักษรย่อ พ.” ที่ทางตำรวจจ่อออกหมายเรียก ด้วยตอนเกิดเรื่องเชิญ“แก๊งจอมทรัพย์”ไปออกรายการเรียกเรตติ้ง หลายหน โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน .. กลายเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของพวกชอบ“เทหมดหน้าตัก-เฮโลตามกระแส”กลายเป็นเครื่องมือของ“แก๊งต้มตุ๋น” เงิบไม่ว่า ซวยถึงคุกถึงตะราง อีกต่างหาก.
ช.ชฎา