xs
xsm
sm
md
lg

ขยายแผน “3 เมกะโปรเจกต์น้ำ” มูลค่า 3 หมื่นล้าน 2 หัวเมืองเหนือ ไปอีก 11-14 ปี - เหตุติดข้อกฎหมาย/เวนคืนไม่ลงตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ขยายแผน “3 เมกะโปรเจกต์น้ำ” มูลค่า 3 หมื่นล้าน พื้นที่ 2 จังหวัดภาคเหนือ ไปอีก 11 - 14 ปี เหตุติดอุปสรรคข้อกฎหมาย / ปัญหาเวนคืน เผย “เขื่อนทดน้ำผาจุก” ติดปัญหาจัดหาที่ดินล่าข้า เจรจาต่อรองที่ดิน “รัฐ - ชาวบ้าน” ไม่ลงตัว พบบางแปลงติดปัญหาข้อกฎหมาย โครงการ “อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี” กฎหมายเพิกถอนอุทยานฯ เพิ่งมีผลบังคับปีนี้ ส่วน “เขื่อนแม่กวงอุดมธารา” ติดขั้นตอนขอเพิกถอนพื้นที่อุทยานศรีลานนาบางส่วนเพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการฯ

วันนี้ (19 พ.ย.) แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมี พลอ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จำนวน 3 โครงการ ภายใต้กรอบวงเงิน โครงการเดิม วงเงินรวม 30,300 ล้านบาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการก่อสร้างต่อไป ระยะเวลาตั้งแต่ 11 - 16 ปี ประกอบด้วย

“1. โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ (ภายใต้กรอบวงเงินเดิม 10,500 ล้านบาท) โดยขยายระยะเวลา เป็น 14 ปี (2553 - 2566 ) จากเดิมระยะเวลา 9 ปี (2553 - 2561) 2. โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุดรดิตถ์ (ภายใต้กรอบวงเงินเดิม 4,800 ล้านบาท) โดยขยายระยะเวลา เป็น 11 ปี (2554 - 2564 ) จากเดิมระยะเวลา 8 ปี (2554 - 2561) และ 3. โครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ (ภายใต้กรอบวงเงินเดิม 15;000 ล้านบาท) โดยขยายระยะเวลา เป็น 11 ปี (2555 - 2565) จากเดิมระยะเวลา 6 ปี (2555 - 2560)

มีรายงานว่า ที่ผ่านมา กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำเสนอ พลอากาศเอก ประจีน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล และในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) โดยทั้ง 3 โครงการเกิดปัญหาอุปสรรค เช่น โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวดอุดรดิตถ์ ที่บริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำน่านตอนล่างให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานในเขตโครงการประมาณ 481,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม จากสภาพภูมิประเทศและการใช้พื้นที่ของราษฎรเปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้ออกแบบก่อสร้างไว้เดิม

“ทำให้ กรมชลประทาน ต้องปรับแผนการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน คือ การจัดหาที่ดินมีความล่าช้า เนื่องจากเจ้าของทรัพย์สินบางรายไม่ยอมรับราคา ค่าทดแทนทรัพย์สินที่ภาครัฐกำหนด และ/หรือไม่ยินยอมให้เข้าใช้พื้นที่ รวมทั้งมีที่ดิน บางแปลงติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ทำให้ กรมชลประทาน จำเป็นต้องขอออกพระราชกฤษฎีกาเวนดินที่ดินตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530

นอกจากนั้น ราษฎรบางส่วนได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างระบบส่งน้ำ จึงจำเป็นต้องแก้ไข แบบก่อสร้างเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น เขื่อนทดน้ำและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น (ร้อยละ 91.71) ระบบส่งน้ำสายใหญ่ ระบบส่งน้ำของสถานีสูบน้ำและอาคารประกอบ) โครงการพัฒนาแก้มลิง เป็นต้น โดยคาดว่างานจะแล้วเสร็จทุกรายการภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ขณะที่ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งจะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานฤดูฝน 53,000 ไร่ โดยสามารถบริหารจัดการน้ำและบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำน่านตอนล่าง มีปัญหา / อุปสรรค ในส่วนพื้นที่งานก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบพร้อมอุโมงค์ส่งน้ำบางส่วนเป็นพื้นที่ป่าที่ต้องขออนุญาต ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะต้องออกพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าแม่แคม ป่าแม่ล่อน และป่าแม่สาย และป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา ป่าจริม และป่าน้ำปาด บางส่วนในห้องที่ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ และตำบลน้ำหมัน ตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. 2560

“ซึ่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเพิ่งจะมีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 2 รายการ ประกอบด้วย เขื่อนหัวงานและอาคารประกอบ พร้อมอุโมงค์ส่งน้ำ (ผลงานสะสมร้อยละ 51.48) และระบบท่อส่งน้ำและอาคารประกอบ สัญญาที่ 1 (ผลงานสะสมร้อยละ 7.65) คาดว่างานจะแล้วเสร็จทุกรายการภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564”

ท้ายสุด โครงการเพิ่มปริมาณน้ำใบอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเขียงใหม่ ที่จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร อุปโภค บริโภค อุตสาหกรรมและระบบนิเวศ รวมถึงเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกช่วงฤดูแล้ง และเพิ่มประสิทธิภาพ ในการจัดการลุ่มแม่น้ำปิงตอนบน

“อย่างไรก็ตาม เกิดบัญหา / อุปสรรค เนื่องจากคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุพืช ได้มีมติให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนาบางส่วนเพี่อใช้ในการก่อสร้างโครงการฯ แล้ว เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2559 ประกอบกับกรมชลประทานจำเป็นต้องนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทบทวนการเพิกถอน พื้นที่อุทยานอีกครั้งหนึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี (29 พฤศจิกายน 2559) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิงแวดล้อม ได้เห็นชอบ ในหลักการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนาบางส่วนแล้ว เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560”

ขณะที่งานของโครงการนี้ อยู่ระหว่างก่อสร้างและงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน เช่น รายการอุโมงค์ส่งน้ำและอาคารประกอบ ช่วงแม่งัด - แม่กวง สัญญาที่ 1(ผลงานสะสมร้อยละ 10.05) รายการอุโมงค์ส่งน้ำและอาคารประกอบ ช่วงแม่แตง - แม่งัด (ผลงานสะสมร้อยละ 6.17) เป็นต้น โดยคาดว่างานจะแล้วเสร็จทุกรายการภายใบปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

กำลังโหลดความคิดเห็น